กรณีศึกษา

แนวทางการปฏิบัติงานที่ยืดหยุ่นของจุฬาฯ : การปรับตัวเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของบุคลากร

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ในช่วงระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของทางภาครัฐต้องมีการปรับตัว และปรับรูปแบบในการให้บุคลากรเข้ามาปฏิบัติงาน จากที่ต้องเข้ามาปฏิบัติงานในสถานที่ตั้งของหน่วยงานเท่านั้น เปลี่ยนเป็นลักษณะที่มีความยืดหยุ่นขึ้น เช่น การลดวันในการให้บุคลากรเข้ามาปฏิบัติงานในมหาวิทยาลัย โดยปรับเปลี่ยนไปเป็นการทำงานจากที่พักอาศัย หรือทำงานทางไกลโดยไม่ต้องเข้ามาในสถานที่ทำงาน เพื่อลดความเสี่ยงของการติดต่อและการการแพร่กระจายของเชื้อโรค จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจึงได้และมีการกำหนดรวมทั้งประกาศแนวทางในการปฏิบัติงานสำหรับบุคลากรที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น ให้บุคลากรสามารถเลือกปฏิบัติได้ ทั้งแบบการเลือกเหลื่อมเวลาในการทำงาน หรือ การลดวันเข้ามาปฏิบัติงานในมหาวิทยาลัย แต่ใช้วิธีการปฏิบัติงานจากทางไกลหรือปฏิบัติงานจากที่พักอาศัยแทนในวันที่ไม่เข้ามาปฏิบัติงานในมหาวิทยาลัย ผสมผสานกันไป โดยไม่กระทบต่อประสิทธิภาพการทำงาน และเมื่อนับเวลาปฏิบัติงานรวมกันแล้วต้องไม่น้อยกว่า 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ตั้งแต่เมื่อปี 2563 เป็นต้นมา และยังอนุญาตให้ใช้รูปแบบการทำงานแบบนี้มาจนถึงปัจจุบัน [ https://www.chula.ac.th/news/28280/ ]

ประกาศจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรื่อง การปฏิบัติงานของบุคลากรในภาวะที่เชื้อโรค COVID-19 ระบาด

และจากแนวทางนี้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงได้มีการวางระบบให้การสนับสนุนการปฏิบัติงานจากที่พักอาศัยหรือการปฏิบัติงานจากทางไกลในกรณีที่บุคลากรเลือกปรับรูปแบบการปฏิบัติงานโดยการลดวันเข้ามาปฏิบัติงานในมหาวิทยาลัย โดยให้สำนักบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดเตรียมและสนับสนุนซอฟท์แวร์และฮาร์ดแวร์ที่จำเป็น รวมทั้งระบบบริการสนับสนุน ให้คำแนะนำ และช่วยเหลือต่างๆ เพื่อช่วยให้บุคลากรปฏิบัติงานจากที่พักอาศัยได้อย่างเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพเทียบเท่าการปฏิบัติงานในรูปแบบเดิม เช่น ระบบ e-mail จุฬาฯ, ระบบการประชุมทางไกล,  โปรแกรม VPN,   ระบบ LessPaper    เป็นต้น  [ https://www.it.chula.ac.th/all-services/ ]

นอกจากนี้ ในปัจจุบัน ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบแนวทางการปฏิบัติราชการที่รองรับชีวิตและการทำงานวิถีใหม่ พร้อมคู่มือ เพื่อให้ส่วนราชการใช้เป็นแนวทางในการดำเนินการต่อไป และมอบหมายให้หน่วยงานของรัฐพิจารณานำแนวทางและคู่มือดังกล่าว ไปปรับใช้เป็นแนวทางในการดำเนินการตามความเหมาะสม

สำหรับรูปแบบการปฏิบัติงานรูปแบบใหม่ แบ่งเป็น 3 รูปแบบ คือ

รูปแบบที่ 1 การปฏิบัติงานในที่ตั้งโดยการเหลื่อมเวลาทำงาน เช่นกำหนดช่วงเวลาการเข้างานและเลิกงานเป็น 4 ช่วง ตั้งแต่ 07.30-15.30น., 08.00-16.00 น., 08.30-16.30 น. และ 09.30-17.30 น.

รูปแบบที่ 2 การปฏิบัติงานในที่ตั้งโดยการนับชั่วโมงการทำงาน ตามความเหมาะสมกับรูปแบบการดำรงชีวิต โดยไม่กระทบต่อประสิทธิภาพการทำงาน โดยเมื่อนับเวลาปฏิบัติงานรวมกันแล้วต้องไม่น้อยกว่า 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์

รูปแบบที่ 3 การปฏิบัติงานนอกที่ตั้ง โดยกำหนดให้สอดคล้องกับร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการปฏิบัติงานนอกที่ตั้งของส่วนราชการ

ที่มา: [ https://www.thaipbs.or.th/news/content/319628 ]
[ https://www.facebook.com/photo/?fbid=409956174651920&set=a.252553717058834 ]

ซึ่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของทางภาครัฐ จะใช้แนวทางการปฏิบัติราชการที่รองรับชีวิตและการทำงานวิถีใหม่ มากำหนดรูปแบบวิธีการปฏิบัติงานให้สอดคล้องกับภารกิจและลักษณะงาน เพื่อให้บุคลากรสามารถปฏิบัติภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ และคำนึงถึงคุณภาพชีวิตในการทำงานของบุคลากรและวิถีการดำเนินชีวิตเพื่อการสร้างสมดุลที่เหมาะสมกับการปฏิบัติงานอย่างยั่งยืนต่อไป

ที่มา:

  • ศูนย์กฎหมายและนิติการ  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • สำนักบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

อื่นๆ

จุฬาฯ วางแนวทางแก้ปัญหาน้ำระยะยาวผ่านงานวิจัยหลากมิติ เสนอกลยุทธ์บริหารจัดการน้ำยั่งยืนเพื่อชาติร่วมกับหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้พัฒนาความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายกับหน่วยงานภาครัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในมิติของการมุ่งแก้ปัญหาประเทศในระดับมหภาคหลายด้าน โดยการบริหารจัดการน้ำเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่ได้รับการบรรจุไว้ในแผนยุทธศาสตร์ชาติ  20 ปี ของประเทศไทย ที่มุ่งแก้ปัญหาแบบองค์รวมตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ไปจนถึงปลายน้ำ โดยใช้องค์ความรู้ งานวิจัย และนวัตกรรมด้านการบริหารจัดการคุณภาพน้ำสร้างให้เกิดมาตรฐาน

สุขภาพดีถ้วนหน้า จุฬาฯ จัดให้

จุฬาฯ จัดพื้นที่ออกกำลังกายเพื่อให้กับนิสิต บุคลากรและประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงพื้นที่ออกกำลังกายโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ตามนโยบายของจุฬาฯ ที่มุ่งสนับสนุนและส่งเสริมสุขภาพประชาชน แก้ปัญหากิจกรรมทางกายไม่เพียงพอ

Center of SHE คุมเข้มความปลอดภัยแล็บจุฬาฯ นับพันด้วย “ChemTrack & WasteTrack 2016

ความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการมีความสำคัญอย่างมากในมหาวิทยาลัย ไม่มีใครอยากประสบอุบัติเหตุ ได้รับอันตรายจากสารเคมีที่สะสมเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว การปลูกฝังให้นิสิตผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวข้องกับห้องปฏิบัติการในมหาวิทยาลัยมีจิตสำนึกในเรื่องความปลอดภัยในการทำงานก่อนจะจบออกไปประกอบวิชาชีพในการทำงานในหน่วยงานต่างๆ มีความจำเป็นอย่างยิ่ง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีห้องปฏิบัติการหรือห้อง Lab มากกว่า 1,000 ห้อง จึงดำเนินการด้านระบบความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการและการกำจัดสารเคมี ของเสียอันตรายอย่างถูกวิธีมากว่า 20 ปี

นโยบายและการดำเนินการส่งเสริมพื้นที่เพื่อการเดินเท้าภายในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

จุฬาฯ เป็นสถานศึกษาที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ในย่านใจกลางเมืองกรุงเทพฯ จึงทำให้มหาวิทยาลัยกลายเป็นจุดเชื่อมต่อและผ่านทางไปยังจุดอื่น ๆ ได้ง่าย เพราะฉะนั้นจึงทำให้พื้นที่ภายในมหาวิทยาลัยไม่ได้มีเพียงนักศึกษา คณาจารย์ และบุคลากรของมหาวิทยาลัยเท่านั้น แต่ยังมีผู้คนทั่วไปจำนวนมากที่เดินทางสัญจรไปมาผ่านพื้นที่ของมหาวิทยาลัย ทั้งด้วยยานพาหนะ และการเดินเท้า อีกด้วย