กรณีศึกษา

“อาคารเขียว” กับ การพัฒนาอาคารใหม่อย่างยั่งยืนของจุฬาฯ

การพัฒนาพื้นที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มุ่งเน้นความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม คำนึงถึงบริบทการเปลี่ยนแปลงที่เป็นปัจจุบันที่มีความสำคัญในหลากหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริบทที่มีความเกี่ยวข้องกับความตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก (Climate change) ซึ่งมีผลมาจากกิจกรรมหรือการใช้ทรัพยากรที่เกิดขึ้นในแง่มุมต่างๆ โดยเฉพาะด้านการพัฒนาทางกายภาพภายในพื้นที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ภายในพื้นที่ กว่า 1,153 ไร่ ในการดูแลของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นที่ตั้งของอาคารสำนักงาน ส่วนอาคารเรียน และอาคารที่ใช้เพื่อการสนับสนุนด้านการเรียนการสอนในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยไม่ต่ำกว่า 200 อาคาร การใช้อาคารดังกล่าว มีการใช้พลังงานและทรัพยากรในการใช้งานและดูแลรักษาอย่างมาก “จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเห็นความสำคัญของผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อภาพรวมของสิ่งแวดล้อมจากประเด็นดังกล่าว จึงมุ่งเน้นการบริหารจัดการและการซ่อมแซมอาคาร ส่วนประกอบของอาคาร รวมทั้งอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องในนกรอบการควบคุมดูแลตามแนวคิด อาคารเขียว (Green Building)”  อาทิเช่น การปรับปรุงระบบปรับอากาศให้มีความทันสมัย ประหยัดพลังงาน การเลือกใช้วัสดุที่เป็นส่วนประกอบของอาคารที่ซ่อมแซม อาทิเช่น กระจกภายนอกอาคาร ที่มีคุณสมบัติในการป้องกันความร้อนเข้าสู่อาคาร (Low E) รวมทั้งการเลือกใช้วัสดุอาคารที่เป็นวัสดุที่เกิดจากการผลิตจากวัสดุที่มีการนำมาใช้ใหม่ (Recycling material construction product) ซึ่งแนวทางดังกล่าวช่วยให้ เกิดการลดการใช้พลังงานไฟฟ้าในอาคารที่มีการปรับเปลี่ยนหรือซ่อมแซมเหล่านั้น อย่างมีนัยสำคัญ

ในขณะเดียวกัน พื้นที่พาณิชยกรรมของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภายใต้การดูแลและบริหารจัดการของสำนักงานจัดการทรัพย์สิน ก็เป็นอีกหนึ่งส่วนที่มีส่วนช่วยให้การพัฒนาด้านกายภาพของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อยู่ภายใต้การพัฒนาในแนวทางของความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและการตระหนักถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก โดย”โครงการการพัฒนาอาคารใหม่ในพื้นที่ภายใต้การดูแลของสำนักงานจัดการทรัพย์สิน ได้ระบุกรอบนโยบายที่มีความสำคัญตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ การควมคุมงานและการก่อสร้าง ใหอาคารที่เกิดขึ้นใหม่ ต้องมีการรับรองด้านอาคารเขียวจากหน่วยงานหรือสถาบันที่มีความน่าเชื่อถือ อาทิ เช่น สถาบันอาคารเขียว TREES เป็นต้น”

โดยผู้ควบคุมงานและผู้ออกแบบจะต้องจัดหาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่สามารถทำให้อาคารที่สร้างขึ้นมาใหม่บรรลุข้อกำหนดในการออกแบบอาคารประหยัดพลังงานในประเทศไทยที่มีอยู่ในปัจจุบันเป็นขั้นต่ำ และทำการตรวจสอบประเมินให้ผ่านการประเมินความยั่งยืนทางพลังงานและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ได้การรับรองตามเกณฑ์มาตรฐานอาคารเขียว TREES และการรับรองจากสถาบันอาคารเขียวไทย (TGBI) โดยมีการรวบรวมข้อมูลพื้นฐานทั้งขนาดพื้นที่ แผนการดำเนินการ วิธีการดำเนินการ บุคคลากรด้านอาคารเขียว สำรวจและประเมินตลอดช่วงการก่อสร้าง จัดทำรายงานเพื่อยื่นขอการรับรอง และรวมถึงการจัดอบรมความรู้ด้านอาคารเขียวให้กับผู้ที่จะใช้งานอาคารต่อไปอีกด้วย โดยได้เริ่มดำเนินการไปแล้ว ในโครงการอาคารพาณิชยกรรมแบบผสมผสาน สยามสเคป (Siamscape) ในพื้นที่สยามสแควร์ และโครงการที่อยู่อาศัยหอพักนิสิตและบุคคลากรในพื้นที่ หมอน 33 (Block 33) และเป็นนโยบายสำคัญที่ระบุอยู่ในการพัฒนาผังแม่บทพื้นที่พาณิชยกรรม สวนหลวง-สามย่าน ผังแม่บทการพัฒนาพื้นที่สนามกีฬาแห่งชาติ และพื้นที่ภายในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อีกด้วย

นอกจากนี้ในด้านการออกแบบอาคารต่างๆ ยังให้ความสำคัญถึงการออกแบบเพื่อรองรับการใช้งานของกลุ่ม universal design ในทุกพื้นที่ โดยมหาวิทยาลัยได้ปฏิบัติตามกฎหมายควบคุมอาคารที่กำหนดให้มีทางลาดหรือลิฟต์ให้กับคนพิการ รวมทั้งการมีห้องน้ำคนพิการ ระบบการนำทางในพื้นที่ภายนอกอาคารที่ได้มาตรฐาน ซึ่งทำให้การใช้งานในพื้นที่ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นมิตรกับผู้ใช้งานในทุกสถานภาพ

ที่มา:

สำนักงานจัดการทรัพย์สิน  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
สำนักบริหารระบบกายภาพ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

รายละเอียดที่เกี่ยวข้อง:

อื่นๆ

“MindSpace” แพลตฟอร์มออนไลน์ใหม่แก้ปัญหาสุขภาพจิตนิสิต

ปัจจุบัน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีนิสิตทุกระดับที่กำลังศึกษาอยู่ ราว 37,000 คน นิสิตจำเป็นต้องเรียนออนไลน์ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และได้รับผลกระทบในหลายมิติโดยเฉพาะด้านสภาพจิตใจ Chula Student Wellness Center จึงสำรวจภาวะสุขภาพจิตของนิสิตในปีการศึกษาล่าสุด พบว่า ร้อยละ 15 ของนิสิตทั้งหมดหรือประมาณ 5,550 คน ต้องการความช่วยเหลือจากนักจิตวิทยาและจิตแพทย์

การจัดซื้อของจุฬาฯ กับเรื่องของความอย่างยั่งยืน

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นหนึ่งในหน่วยงานที่มีการใช้วัสดุสำนักงานและวัสดุสิ้นเปลืองจำนวนมาก การจัดหาวัสดุดังกล่าว ดำเนินการภายใต้นโยบายการให้ความสำคัญต่อความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตามนโยบายสำคัญด้านมหาวิทยาลัยสีเขียวที่มีการรณรงค์และสร้างความตระหนักให้เห็นความสำคัญมาโดยตลอด ทั้งในประชาคมชาวจุฬาฯ ชุมชนโดยรอบ พื้นที่ต่อเนื่องและสาธารณะ

ประเทศไทยประกาศความสำเร็จซื้อ-ขายคาร์บอนเครดิตจากขยะเปียกชุมชนครั้งแรกของโลก

กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับ UN Thailand พร้อมด้วยพันธมิตรภาคีเครือข่ายภาคเอกชนโดย KBANK ซึ่งสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านประเทศไทยและประชาคมมุ่งสู่ “สังคมคาร์บอนเป็นศูนย์”  ประกาศความสำเร็จการซื้อ-ขายคาร์บอนเครดิตขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 4 จังหวัดนำร่องเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ภายหลังสามารถจูงใจให้พี่น้องประชาชนมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสังคมด้วยการแยกขยะและจัดทำถังขยะเปียกลดโลกร้อนที่สามารถแปลงกลับมาเป็นเงินทุนให้กับหมู่บ้านและชุมชน

บริษัท ซียูเอ็นเทอร์ไพรส์ จำกัด

สร้างนวัตกร ต่อยอดงานวิจัย และส่งเสริมนวัตกรรมให้เกิดประโยชน์เชิงพาณิชย์ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจแก่สังคม โดยดำเนินงานร่วมกับศูนย์กลางนวัตกรรมแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้คำแนะนำบ่มเพาะผู้ประกอบการ ระดมทุน รวมทั้งร่วมลงทุนในบริษัทสปินออฟ

ไอคอน PDPA

เราใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของคุณ (ตั้งค่า)

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

Accept All
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • Necessary cookies
    เปิดใช้งานตลอด

    Necessary cookies are essential for the functioning of the website, allowing you to use and browse the site normally. You cannot disable these cookies in our website's system.

  • คุกกี้วิเคราะห์เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน

    คุกกี้เหล่านี้ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ เช่น จำนวนผู้เข้าชม, หน้าเว็บที่ได้รับความนิยม และพฤติกรรมการท่องเว็บ ซึ่งช่วยให้เจ้าของเว็บไซต์ปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ได้

  • คุกกี้การทำงานเพื่อจดจำการตั้งค่าผู้ใช้

    คุกกี้เหล่านี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ โดยจดจำการตั้งค่าที่ผู้ใช้เคยกำหนดไว้ เช่น ชื่อผู้ใช้, ภาษา, ภูมิภาค หรือการปรับแต่งเว็บไซต์ตามความต้องการ

Save