กรณีศึกษา

บริษัท ซียูเอ็นเทอร์ไพรส์ จำกัด

การปฏิรูปจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย สู่มหาวิทยาลัยวิจัยที่ทำการสอน (Research University that Teaches) ได้ถูกขับเคลื่อนผ่านระบบนิเวศน์การนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ ซึ่งนอกเหนือจากการผลลัพธ์ด้านการอ้างอิงผลงาน (Citation) ในรูปแบบการตีพิมพ์เผยแพร่ (Publication) การจดสิทธิบัตร (Intellectual property) และการอนุญาตใช้สิทธิ์ (Licensing) ซึ่งดำเนินการโดยสำนักบริหารงานวิจัย และสำนักบริหารทรัพย์สินทางปัญญาแล้ว จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยยังได้จัดตั้งบริษัทจำกัด (University Holding Company) ชื่อว่า บริษัท ซี ยู เอ็นเทอร์ไพรส์ จำกัด (CU Enterprise) มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างนวัตกร  ต่อยอดงานวิจัย และส่งเสริมนวัตกรรมให้เกิดประโยชน์เชิงพาณิชย์ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจแก่สังคม โดยดำเนินงานร่วมกับศูนย์กลางนวัตกรรมแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (CU Innovation Hub) ให้คำแนะนำบ่มเพาะผู้ประกอบการ (Entrepreneurship development) ระดมทุน (Accelerate) รวมทั้งร่วมลงทุนในบริษัทสปินออฟ (University spin-offs) ที่ดำเนินงานโดยคณาจารย์และนักวิจัยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปัจจุบันมีบริษัทสตาร์ทอัพ 354 ทีม และบริษัทสปินออฟเกิดขึ้นแล้ว จำนวน 100 บริษัท สร้างมูลค่าทางการตลาด (Market  Valuation) กว่า 22,000 ล้านบาท บริษัทสปินออฟมีการบริจาคหุ้น 10% คืนให้กับ CU Enterprise แล้ว  จำนวน 13 บริษัท แบ่งเป็นงานวิจัยและนวัตกรรมกลุ่มวิทยาศาสตร์สุขภาพ กลุ่มเทคโนโลยี และกลุ่มอาหารและการเกษตร นอกจากนี้ยังมีการรวมตัวกันของนักวิจัยก่อตั้งชมรม Club Chula Spin-off มีสมาชิกกว่า 200 คน ให้คำแนะนำช่วยเหลือนักวิจัยรุ่นใหม่ที่จะเริ่มประกอบการธุรกิจต่อไป นอกจากนี้ได้มีการถ่ายทอดประสบการณ์บริหารจัดการผลงานวิจัยและนวัตกรรมของ บริษัท CU Enterprise สู่ระดับคณะและหน่วยงาน โดยให้ทุนตั้งต้นเพื่อดำเนินการบริษัทในรูปแบบเดียวกัน ปัจจุบันมีบริษัท Holding company ระดับคณะและหน่วยงานแล้ว 10 บริษัท

กลไกการขับเคลื่อนการนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์นี้ เป็นต้นแบบให้กับมหาวิทยาลัยไทยในเครือข่ายอีก 11 แห่ง ได้สร้างเครือข่ายความร่วมมือกับศิษย์เก่า และภาคอุตสาหกรรม ทำให้เกิดการขับเคลื่อนการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติกับโจทย์วิจัยที่จะสร้างประโยชน์แก่สังคมได้จริง โดยคณาจารย์และนักวิจัยบริษัทสปินออฟ รับนิสิตเข้าทำงานและเรียนรู้โจทย์ปัญหาในบริษัท ทำให้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนิสิตจะได้เรียนรู้การแก้ไขปัญหาด้วยงานวิจัยและนวัตกรรมแล้ว  ยังได้ฝึกการเป็นผู้ประกอบการ และบ่มเพาะลักษณะความเป็นผู้นำแห่งอนาคตอีกด้วย ด้วยประสิทธิภาพการขับเคลื่อนการนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์นี้ ทำให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  ได้คะแนน SDG 9 สูงขึ้นในทุกตัวชี้วัด  และได้รับการจัดอันดับสูงขึ้นจากอันดับที่  60 ในปี 2021  เป็นอันดับที่ 26 ของโลก และเป็นอันดับที่ 14 ในปีปัจจุบัน รวมทั้งศูนย์บ่มเพาะของมหาวิทยาลัย CU Innovation Hub ได้รับรางวัล Launchpads พร้อมกับบริษัท  ใบยา ไฟโตฟาร์ม จำกัด ที่ได้รับรางวัล Frontiers จากงาน Asiastar 10×10 จัดโดย Alibaba Cloud ประเทศสิงคโปร์ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2022 นี้

ที่มา:   บริษัท ซียูเอ็นเทอร์ไพรส์ จำกัด  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

รายละเอียดที่เกี่ยวข้อง:

อื่นๆ

“อาคารเขียว” กับ การพัฒนาอาคารใหม่อย่างยั่งยืนของจุฬาฯ

การพัฒนาพื้นที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มุ่งเน้นความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม คำนึงถึงบริบทการเปลี่ยนแปลงที่เป็นปัจจุบันที่มีความสำคัญในหลากหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริบทที่มีความเกี่ยวข้องกับความตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก (Climate change) ซึ่งมีผลมาจากกิจกรรมหรือการใช้ทรัพยากรที่เกิดขึ้นในแง่มุมต่างๆ โดยเฉพาะด้านการพัฒนาทางกายภาพภายในพื้นที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ความร่วมมือกับชุมชนเพื่อรักษาและเสริมสร้างระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพของพืชและสัตว์

ช่วยพัฒนาทรัพยากรบุคคลให้กับท้องถิ่น เพื่อให้มหาวิทยาลัยได้ร่วมกับชุมชนช่วยกันรักษาและเพิ่มพูนระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพของพืชและสัตว์ โดยเฉพาะระบบนิเวศในภาวะเสี่ยงอันเนื่องมาจากการพัฒนาเมืองในเขตภาคกลางของประเทศไทย

การจัดซื้อของจุฬาฯ กับเรื่องของความอย่างยั่งยืน

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นหนึ่งในหน่วยงานที่มีการใช้วัสดุสำนักงานและวัสดุสิ้นเปลืองจำนวนมาก การจัดหาวัสดุดังกล่าว ดำเนินการภายใต้นโยบายการให้ความสำคัญต่อความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตามนโยบายสำคัญด้านมหาวิทยาลัยสีเขียวที่มีการรณรงค์และสร้างความตระหนักให้เห็นความสำคัญมาโดยตลอด ทั้งในประชาคมชาวจุฬาฯ ชุมชนโดยรอบ พื้นที่ต่อเนื่องและสาธารณะ

จุฬาฯ กับรูปแบบการเดินทางอย่างยั่งยืนที่หลากหลาย: Chula Smart Mobility

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดย สำนักงานจัดการทรัพย์สิน (PMCU) ขับเคลื่อนโครงการ “สามย่านสมาร์ทซิตี้” (Samyan Smart City) ผ่าน “7 Smart” นำนวัตกรรมอัจฉริยะ 7 มิติ ได้แก่ Smart Environment , Smart Mobility , Smart Living, Smart Energy, Smart Economy, Smart People และ Smart Governance รองรับไลฟ์สไตล์ใหม่ให้ประชาคมจุฬาฯ กว่า 50,000 คน ที่ใช้ชีวิตบนพื้นที่กว่า 1.5 พันไร่ ใจกลางกรุงเทพฯ พร้อมสร้างคุณค่าต่อยอดให้ชุมชนและสังคม