กรณีศึกษา

ดูแลคุณภาพชีวิตนิสิตครบวงจรในวิกฤตโควิด-19 ด้วยนวัตกรรม Pre-vent Protect Cure

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นวิกฤติที่ไม่เพียงส่งผลกระทบรุนแรงต่อสภาพเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ แต่ยังหมายรวมถึงระบบการศึกษาไทยที่สถาบันอุดมศึกษาจำเป็นต้องดูแลสวัสดิภาพของนิสิตให้อยู่รอดปลอดภัยในวิกฤติ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ใช้แนวคิด “CU shelter-in-place” เพื่อให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นดั่งบ้านที่ปลอดภัย (Save zone) ของนิสิตกว่า 37,000 คน ฝ่าวิกฤตนี้ด้วยนวัตกรรมจุฬาฯ ทั้ง ป้องกัน (Prevent) ปกป้อง (Protect) และรักษา (Cure) และออกมาตรการดูแลคุณภาพชีวิตนิสิตจุฬาฯ อย่างครบวงจร ได้แก่

1) ดูแลสุขภาพและสุขภาวะเพื่อความเป็นอยู่ที่ดี (Health and Well-being Management) โดยนำนวัตกรรมบริการ “Chula Covid-19 Strip Test Service” มาใช้ตรวจคัดกรองนิสิตกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อ ผลงานที่พัฒนาจากสตาร์ทอัพจุฬาฯ กลับมาดูแลนิสิต ช่วยลดความตื่นตระหนกและความเสี่ยงจากการเดินทางไปที่โรงพยาบาล และยังได้โครงการ “CU V Care” จัดเตรียมอาคารสถานที่พักพิงกว่า 100 ห้องภายในมหาวิทยาลัยสำหรับกักแยกตัวผู้ที่มีความเสี่ยง, ผู้ที่พักฟื้นจากการติดเชื้อโควิด-19  และผู้ที่เข้าข่ายการสืบค้นโรค (Patient under Investigation หรือ PUI) โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ควบคู่การจัดบริการให้คำปรึกษาเชิงจิตวิทยาโดยหน่วยส่งเสริมสุขภาวะนิสิต (Chula Student Wellness) และศูนย์สุขภาวะทางจิต (Center for Psychological Wellness) เยียวยาสภาพจิตใจที่อาจเกิดจากความเครียดโดยไม่มีค่าใช้จ่ายด้วยเช่นกัน

2) สนับสนุนให้นิสิตสามารถเรียนและทำงานจากที่บ้านได้อย่างต่อเนื่องบนแพลตฟอร์มออนไลน์ (Work From Home (WFH), Live & Mobility) โดยแจก SIM Card ของมหาวิทยาลัย และคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กแบบแบ่งปันกันเรียน (Sharing Economy) นับร้อยเครื่องจากสมาคมนิสิตเก่าจุฬาฯ เพื่อช่วยเหลือนิสิตที่ขาดแคลนอุปกรณ์ใช้เรียนออนไลน์ด้วยอีกทางหนึ่ง

3) สื่อสารในสถานการณ์โควิด-19 (CU COVID-19 Communication) อย่างตรงไปตรงมาและใกล้ชิดกับนิสิตผ่านช่องทางออนไลน์ “จุฬาฯ รู้ สู้ COVID-19” และ Mobile Application “CUNex” ให้บริการด้านข้อมูลข่าวสาร แจ้งเตือนสถานการณ์และข้อควรปฏิบัติตนให้นิสิตรับทราบในภาวะวิกฤตนี้ได้ทันท่วงที และติดต่อแจ้งความประสงค์ขอรับความช่วยเหลือต่าง ๆ จากมหาวิทยาลัยได้อย่างใกล้ชิด

นอกจากนี้ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยยังใส่ใจสวัสดิภาพด้านการเงิน จึงได้ประกาศนโยบาย “10+” และ “10++” ลดค่าเล่าเรียนลงอีกร้อยละ 10 ทุกสาขาวิชา และให้การสนับสนุนค่าใช้จ่ายและทุนทุกประเภทอีกกว่า 5,000 ทุน รวมงบประมาณกว่า 500 ล้านบาท เพื่อเยียวยานิสิตและครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 คืนเงินค่าหอพักให้นิสิตที่มีความประสงค์กลับภูมิลำเนาเดิมร้อยละ 50 และจัดหาประกันภัยโควิด-19 ให้กับนิสิตทุกคนอีกกว่า 37,000 กรมธรรม์

ทั้งหมดนี้คือส่วนหนึ่งของการดูแลคุณภาพชีวิตนิสิตครบวงจรด้วยนวัตกรรม Prevent Protect Cure ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจัดสรรให้กับนิสิตในวิกฤตโควิด-19 ตามแนวคิด CU Shelter-in-place

ที่มา:    สำนักบริหารกิจการนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

รายละเอียดที่เกี่ยวข้อง:

อื่นๆ

การจัดซื้อของจุฬาฯ กับเรื่องของความอย่างยั่งยืน

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นหนึ่งในหน่วยงานที่มีการใช้วัสดุสำนักงานและวัสดุสิ้นเปลืองจำนวนมาก การจัดหาวัสดุดังกล่าว ดำเนินการภายใต้นโยบายการให้ความสำคัญต่อความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตามนโยบายสำคัญด้านมหาวิทยาลัยสีเขียวที่มีการรณรงค์และสร้างความตระหนักให้เห็นความสำคัญมาโดยตลอด ทั้งในประชาคมชาวจุฬาฯ ชุมชนโดยรอบ พื้นที่ต่อเนื่องและสาธารณะ

การสนับสนุนของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรื่องการปฏิบัติงานที่ยืดหยุ่นของบุคลากร

ถึงแม้ว่าในปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ได้คลี่คลายลงและลดระดับความรุนแรงของโรคจนกลายเป็นโรคประจำถิ่นแล้ว แต่จากการเกิดสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของทางภาครัฐ ดำเนินการปรับตัวและปรับเปลี่ยนรูปแบบการปฏิบัติงานของบุคลากรจากรูปแบบเดิมที่กำหนดให้บุคลากรต้องเข้ามาปฏิบัติงาน ณ สถานที่ตั้งของหน่วยงานภายในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยเท่านั้น สู่ลักษณะของการปฏิบัติงานที่มีความยืดหยุ่น รองรับชีวิตและการทำงานวิถีใหม่

การส่งเสริมการทำงานทางไกลให้กับบุคลากรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน

ปัจจุบันจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยส่งเสริมรูปแบบการทำงานทางไกลหรือการปฏิบัติงานจากระยะไกล เป็นตัวเลือกสำหรับบุคลากร ซึ่งเป็นแนวทางในการทำงานจากสถานที่ใดก็ได้ที่อยู่นอกสำนักงาน การทำงานทางไกลเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายประจำวันให้กับบุคลากร และช่วยในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้ เนื่องจากบุคลากรไม่จำเป็นต้องเดินทางออกไปทำงานเนื่องจากเปลี่ยนมาใช้การประชุมผ่านการประชุมทางวิดีโอ

การออกแบบอาคารเขียว ตามมาตรฐาน TREES กับการสร้างอาคารใหม่และการปรับปรุงอาคารของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยอย่างยั่งยืน

ภายในพื้นที่ กว่า 1,153 ไร่ ในการดูแลของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นที่ตั้งของอาคารสำนักงาน ส่วนอาคารเรียน และอาคารที่ใช้เพื่อการสนับสนุนด้านการเรียนการสอนในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยไม่ต่ำกว่า 200 อาคาร การใช้อาคารดังกล่าว มีการใช้พลังงานและทรัพยากรในการใช้งานและดูแลรักษาเป็นอย่างมาก เพื่อช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงให้ความสำคัญและกำหนดแนวทางในการก่อสร้างอาคารใหม่หรือการปรับปรุงอาคารที่มีอยู่ โดยส่งเสริมให้มีการออกแบบอาคารที่ช่วยประหยัดพลังงาน ประหยัดน้ำ และมีการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์และมีประสิทธิภาพสูงสุด