กรณีศึกษา

โครงการปรับปรุงอาคารของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและเทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ

ในการดำเนินการเพื่อสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG) ในด้านพลังงาน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้มีการจัดทำโครงการและแผนที่จะปรับปรุงอาคารที่มีอยู่ให้มีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งโครงการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อช่วยในเรื่องการจัดการการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพอีกหลายโครงการด้วย

ตัวอย่างโครงการและแผนการดำเนินงานในช่วงปี 2566-2567

1. จุฬาฯ ได้ดำเนินการปรับเปลี่ยนระบบการใช้พลังงานแบบเดิม เป็นระบบการใช้พลังงาน​ทดแทนที่ไม่ก่อให้เกิดคาร์บอน​ (Zero-carbon Energy System) ได้แก่ พลังงานแสงอาทิตย์ (Solar PV development)

“จุฬาฯ เป็นมหาวิทยาลัยในเมือง จึงมีข้อจำกัดในด้านพื้นที่ การใช้พลังงานโซลาร์เซลล์ในฐานะพลังงานทดแทนจึงเหมาะกับบริบทของมหาวิทยาลัยที่สุดในปัจจุบัน”

จุฬาฯ​ได้ลงนามข้อตกลงกับการไฟฟ้านครหลวง (MEA) เพื่อดำเนินโครงการนำร่องติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาอาคารต่าง ๆ​ (Solar Rooftop) ซึ่งมีแผนจะดำเนินการติดตั้งทั้งหมด 65 อาคารทั่วทั้งมหาวิทยาลัยที่มีศักยภาพในการติดตั้งโซลาร์​เซลล์​​ ​ขณะนี้ได้ติดตั้งและใช้งาน​แล้ว​จำนวน​ 14​ อาคาร​ และคาดว่าจะติดตั้งแล้วเสร็จทั้งหมด​ภายใน​สิ้นปี​ 2566​ นี้

“หากติดตั้งและใช้งานครบทุกอาคารแล้วจะสามารถทดแทนการใช้ไฟฟ้า​ในจุฬาฯ​ ได้ถึง​ 25% ของการใช้ไฟฟ้าทั้งมหาวิทยาลัย​”

นอกจากนี้ จุฬาฯ จะเน้นให้ความสำคัญกับการออกแบบอาคารสีเขียว โดยจะออกแบบการก่อสร้างอาคารใหม่ให้เหมาะสม เช่น วางผังและทิศทางที่ตั้งของอาคารให้สัมพันธ์กับการรับแดด เน้นการใช้แสงธรรมชาติเพื่อลดการใช้พลังงานไฟฟ้า [ https://www.chula.ac.th/highlight/116277/ ]

2. จุฬาฯ ​ดำเนินการตรวจอายุการใช้งานและประเมินประสิทธิภาพ​อุปกรณ์​ไฟฟ้า เพื่อเปลี่ยนเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าประหยัดพลังงาน​ในอาคารส่วนกลาง

เช่น หลอดไฟ และเครื่องปรับอากาศ ทั้งยังมีการปรับปรุงระบบปรับอากาศภายในอาคาร โดยติดตั้งมอนิเตอร์เพื่อตรวจสอบความร้อนภายในระบบ และการใช้ระบบระบายอากาศ ระบบระบายความร้อน ตลอดจนมีการติดตั้งระบบบริหารจัดการพลังงานในอาคารอัจฉริยะ CU BEMs (Building Energy Management) ​ในอาคารทั่วทั้งมหาวิทยาลัย เพื่อใช้มอนิเตอร์ ควบคุมและสั่งการการใช้พลังงานในแต่ละอาคารให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด​ ลดการใช้พลังงานโดยไม่จำเป็น โดยสามารถตรวจสอบ​และจำกัดการใช้พลังงานในแต่ละอาคารผ่านเว็บแอปพลิเคชัน​และ​ dashboard ที่รายงานข้อมูลการใช้พลังงานสูงสุด​ (Peak Load)​ และจำนวนการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ​ซึ่งระบบนี้ออกแบบโดยหน่วยปฏิบัติการวิจัยระบบโครงข่ายไฟฟ้าสมาร์ทกริด (Smart Grid Reseach Unit- SGRU) ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับมหาวิทยาลัยโตเกียว และกลุ่มอุตสาหกรรมทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยได้รับทุนสนับสนุนจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน

3. สถาบันวิจัยพลังงาน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเล็งเห็นว่าเพื่อการพัฒนาเมืองอัจฉริยะอย่างยั่งยืน ประเทศ ไทยควรจะมีการพัฒนาแพลตฟอร์มกลางสำหรับการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City Open Platform) ที่สามารถรองรับ การเก็บข้อมูลและบริหารจัดการเมืองอัจฉริยะได้แบบครบวงจร

ดังนั้น จึงมีแนวคิดที่จะใช้พื้นที่ในมหาวิทยาลัยเพื่อ พัฒนา ทดสอบ และสาธิตระบบแพลตฟอร์มเพื่อรองรับการทำงานของเมืองอัจฉริยะ (CU Smart City Platform) ตามวิสัยทัศน์ “SMART 5” โดยในโครงการนี้ จะเน้นที่ระบบการบริหารจัดการพลังงานอัจฉริยะ และระบบอื่นๆ ที่เป็นส่วนเสริมการทำงาน ของระบบบริหารจัดการพลังงานอัจฉริยะ ทั้งนี้ ทีมวิจัยจะติดตั้งระบบเซนเซอร์ ระบบมิเตอร์ อุปกรณ์ IoT และระบบอัจฉริยะ อื่นๆ เพื่อปรับปรุงและพัฒนาพื้นที่ที่เป็นอยู่ให้รองรับการผลิตและการใช้พลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะระบบผลิต ไฟฟ้าจากพลังานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา ผนวกกับพัฒนาระบบบริหารจัดการความต้องการใช้ไฟฟ้าภายในอาคารให้ เหมาะสม นอกจากระบบบริหารจัดการพลังงานอัจฉริยะแล้ว จะสาธิตการเชื่อมต่อของ CU Smart City Platform กับระบบ จัดการสิ่งแวดล้อมอัจฉริยะ ระบบการสัญจรอัจฉริยะ และระบบการรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะ เพื่อให้เกิดการเข้าถึงข้อมูล ด้านต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้นเพื่อให้เกิดเป็นชุมชนอัจฉริยะภายในพื้นที่จุฬาฯ ด้วย

โดยได้เริ่มการดำเนินงานตามแผนงานที่กำหนดในช่วงปลายปี 2566 โดยผลผลิตของโครงการ (Output) ที่คาดหวังในปี 2567 คือ ได้แพล็ตฟอร์มมหาวิทยาลัยอัจฉริยะของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่ประกอบด้วย วิสัยทัศน์ “SMART 5” คือ ระบบบริหารจัดการพลังงานอัจฉริยะ (SMART ENERGY) ระบบตรวจวัดสิ่งแวดล้อมอัจฉริยะ (SMART ENVIRONMENT) ระบบรองรับการสัญจรอัจฉริยะ (SMART MOBILITY) ระบบประสานกับความปลอดภัยอัจฉริยะ(SMART SECURITY) ระบบผสานการสื่อสารกับชุมชนอัจฉริยะ (SMART COMMUNITY) ที่มีความพร้อมของการให้บริการของแพล็ตฟอร์มมหาวิทยาลัยอัจฉริยะของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่จะต้องมีข้อมูลครบถ้วนร้อยละ 100 ของส่วนงานทั้งหมดภายในพื้นที่เขตการศึกษาของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ที่มา:

  • สำนักบริหารระบบกายภาพ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • สถาบันวิจัยพลังงาน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

อื่นๆ

ความร่วมมือกับชุมชนเพื่อรักษาและเสริมสร้างระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพของพืชและสัตว์

ช่วยพัฒนาทรัพยากรบุคคลให้กับท้องถิ่น เพื่อให้มหาวิทยาลัยได้ร่วมกับชุมชนช่วยกันรักษาและเพิ่มพูนระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพของพืชและสัตว์ โดยเฉพาะระบบนิเวศในภาวะเสี่ยงอันเนื่องมาจากการพัฒนาเมืองในเขตภาคกลางของประเทศไทย

การส่งเสริมการใช้น้ำอย่างรู้คุณค่าภายในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ในการดำเนินการเพื่อสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในด้านน้ำสะอาดและสุขาภิบาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้มีการจัดทำโครงการและดำเนินการกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อเป็นการส่งเสริมให้อาจารย์ นิสิต และบุคลากรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตระหนักถึงความสำคัญและรู้จักใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า

การจัดภูมิทัศน์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยด้วยพันธุ์ไม้พื้นเมืองท้องถิ่น ทนแล้ง แข็งแรง และช่วยประหยัดน้ำ

ในการปรับปรุงสภาพแวดล้อม ภูมิทัศน์ และการเพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อสร้างเสริมความยั่งยืนในเรื่องของการช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยจึงตระหนักถึงความเหมาะสมในการเลือกพันธุ์ไม้พื้นเมืองท้องถิ่นที่จะนำมาปลูกเพิ่มเติมจากต้นไม้ที่มีอยู่แล้วดั้งเดิมภายในพื้นที่หรือในการปรับปรุงภูมิทัศน์ใหม่ โดยเลือกปลูกพันธุ์ไม้พื้นเมืองท้องถิ่น สลับกับพันธุ์ไม้อื่น ๆ ที่ปลูกอยู่ด้วย เนื่องจากพันธุ์ไม้พื้นเมืองท้องถิ่นจะทนทานต่อสภาพภูมิอากาศของประเทศที่ค่อนข้างแล้ง ซึ่งถือเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาด

BLOCK 28 : Start-up District โครงการพัฒนาฟื้นฟูพื้นที่สวนหลวง-สามย่าน

“CREATIVE & STARTUP VILLAGE” ย่านสตาร์ทอัพแห่งใหม่ใจกลางเมือง ชื่อมต่อทุกไลฟ์สไตล์ของคนสร้างสรรค์และเป็น community ที่ช่วยส่งเสริมนวัตกรรมและการเชื่อมโยงทางธุรกิจเกิดเป็น Eco-System ของธุรกิจสตาร์ทอัพ