จากการดำเนินงานตามประกาศจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรื่อง นโยบายด้านการบริหารจัดการขยะ พ.ศ.2566 [ http://www.sustainability.chula.ac.th/th/rule-regulation/3488/ ] และ ประกาศจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรื่อง มาตรการลดขยะพลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้งในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พ.ศ. 2566 [ http://www.sustainability.chula.ac.th/th/rule-regulation/3498/ ] มหาวิทยาลัยขยายการดำเนินการนโยบายด้านการบริหารจัดการขยะให้ครอบคลุมถึงร้านค้า ซึ่งเป็น Outsource ผู้ให้บริการอาหาร (food service) ในโรงอาหารส่วนกลางของมหาวิทยาลัยด้วย โดยระบุในสัญญาร้านค้า ให้ปฏิบัติตามนโยบายและมาตรการต่าง ๆ ด้านการจัดการขยะ โดยต้องให้ความร่วมมือกับโครงการ Chula Zero Waste ที่มีเป้าหมายในการลดการก่อขยะ ส่งเสริมการแยกขยะนำกลับไปใช้ประโยชน์ และการปลูกฝังจิตสำนึกส่งเสริมการบริโภคอย่างยั่งยืนภายในมหาวิทยาลัยให้แก่นิสิต คณาจารย์ บุคลากรจุฬาฯ


โดยข้อกำหนดที่ระบุในสัญญาร้านค้าที่เป็น Outsource ให้บริการอาหารหรือเครื่องดึ่ม ให้ปฏิบัติตามนโยบายและมาตรการต่าง ๆ ด้านการจัดการขยะและการส่งเสริมการบริโภคอย่างยั่งยืนภายในมหาวิทยาลัย มีตัวอย่างเช่น
- ผู้เช่าจะต้องให้ความร่วมมือกับโครงการ Chula Zero Waste ของมหาวิทยาลัยในการคัดแยกขยะเศษอาหาร ขยะทั่วไปและอื่นๆ รวมทั้งต้องทำความสะอาดห้องเก็บขยะเป็นประจำทุกวัน
- ผู้เช่าต้องใช้เครื่องปรุงเครื่องดื่มและขนมหวานทุกชนิดที่มีมาตรฐานรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข หรือสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอก.) หรือหน่วยงานอื่นที่รับรองความปลอดภัยอาหารของประเทศไทย
- ผู้เช่าต้องให้ความร่วมมือตามโครงการระบบความปลอดภัยอาหารของโรงอาหารรวมในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (การไม่ใช้น้ำมันทอดซ้ำและสุขาภิบาลอาหาร) และหากคณะกรรมการบริหารโรงอาหารรวมตรวจพบว่าผู้เช่าไม่ได้ให้ความร่วมมือตามโครงการฯ ผู้ให้เช่ามีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ทันที
- ผู้เช่าและผู้ปฏิบัติงานในร้านค้าทุกคนต้องเข้ารับการอบรมสุขาภิบาลอาหารที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นผู้จัดขึ้น

นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยโดยโครงการ Chula Zero Waste ได้จัดการประชุมประจำปีผู้ประกอบการร้านค้าซึ่งเป็น Outsource ในโรงอาหารรวมขึ้น เพื่อเป็นเวทีในการชี้แจงนโยบาย มาตรการ และระบบการจัดการขยะภายในโรงอาหารของมหาวิทยาลัยให้แก่ผู้ให้บริการอาหารได้รับรู้ อีกทั้งเป็นเวทีในการรับฟังปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงานและหาทางออกร่วมกัน โดยได้มีการจัดขึ้นทุกปีตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปัจจุบัน การประชุมประชุมประจำปีประกอบกับการทำงานร่วมกันกับผู้ให้บริการอาหารอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิด engagement และสร้างความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยกับผู้ให้บริการอาหารเป็นผลให้เกิดการขับเคลื่อนนโยบายการจัดการขยะสู่การปฏิบัติจริง อาทิเช่น
- การแยก Food waste / Organic waste จากการเตรียมอาหารและประกอบอาหารในครัว โดยมีการรวบรวมขยะประเภทนี้ทุกวันจากทุกโรงอาหารนำไปเข้าเครื่อง Bio-digester เพื่อแปรรูปเป็นสารปรับปรุงดินและน้ำหมักชีวภาพนำไปใช้ในการบำรุงรักษาต้นไม้ในบริเวณพื้นที่สีเขียวของมหาวิทยาลัย

- ลดการใช้ Single-use plastic ในโรงอาหาร งดการแจกถุงพลาสติกฟรีสำหรับ take away order รวมถึงจะให้ช้อนส้อมพลาสติก หรือ หลอดพลาสติกเมื่อผู้รับบริการร้องขอเท่านั้น

- เลิกการใช้แก้วพลาสติกในโรงอาหารและเปลี่ยนเป็นแก้ว “Zero Waste Cup” ที่เป็นแก้ว biodegradable และมีการจัดการแบบ closed-loop management โดยมีถังทิ้งเฉพาะแก้วนี้เพื่อรวบรวมกลับมาย่อยและหมักเป็นปุ๋ย และยังสามารถนำแก้วใช้แล้วนี้ไปใช้ใส่ดินอนุบาลต้นอ่อนได้ (แทนการใช้ถุงพลาสติก) ก่อนนำไปลงดินปลูกโดยไม่ต้องนำต้นไม้ออกจากภาชนะเนื่องจากสามารถย่อยสลายได้เองเมื่อฝังลงในดิน

รวมไปถึง ร้านค้าผู้ให้บริการอาหารและเครื่องดื่มยังให้ความร่วมมือในการบันทึกข้อมูลปริมาณขยะประเภทต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายในร้าน และให้ความร่วมมือในการให้ส่วนลดแก่ผู้ใช้บริการที่นำภาชนะหรือแก้วส่วนตัวมาใช้ในโรงอาหาร เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างแรงจูงใจในการเสริมสร้าง Eco Lifestyle in campus

ที่มา:
- สถาบันวิจัยสภาวะแวดล้อม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- สำนักบริหารระบบกายภาพ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

SDG ที่เกี่ยวข้อง
อื่นๆ
สุขภาพดีถ้วนหน้า จุฬาฯ จัดให้
จุฬาฯ จัดพื้นที่ออกกำลังกายเพื่อให้กับนิสิต บุคลากรและประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงพื้นที่ออกกำลังกายโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ตามนโยบายของจุฬาฯ ที่มุ่งสนับสนุนและส่งเสริมสุขภาพประชาชน แก้ปัญหากิจกรรมทางกายไม่เพียงพอ
การสนับสนุนของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรื่องการปฏิบัติงานที่ยืดหยุ่นของบุคลากร
ถึงแม้ว่าในปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ได้คลี่คลายลงและลดระดับความรุนแรงของโรคจนกลายเป็นโรคประจำถิ่นแล้ว แต่จากการเกิดสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของทางภาครัฐ ดำเนินการปรับตัวและปรับเปลี่ยนรูปแบบการปฏิบัติงานของบุคลากรจากรูปแบบเดิมที่กำหนดให้บุคลากรต้องเข้ามาปฏิบัติงาน ณ สถานที่ตั้งของหน่วยงานภายในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยเท่านั้น สู่ลักษณะของการปฏิบัติงานที่มีความยืดหยุ่น รองรับชีวิตและการทำงานวิถีใหม่
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกับการให้บริการและดูแลสุขภาพทางกายและสุขภาพทางจิตใจสำหรับนิสิตและบุคลากรของจุฬาฯ
ในปัจจุบันการการดูแลสุขภาพกายและสุขภาพจิตเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมทางการศึกษา ด้วยความตระหนักถึงความสำคัญนี้ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นหนึ่งในสถาบันการศึกษาชั้นนำของประเทศไทย ได้ดำเนินมาตรการที่ครอบคลุมเพื่อให้บริการและดูแลด้านสุขภาพทางกายและการสนับสนุนดูแลด้านสุขภาพทางจิตใจแก่นิสิตและบุคลากรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ
คณะทำงานบริหารดูแลด้านความเท่าเทียม ความหลากหลาย และการอยู่ร่วมกันของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นสถานศึกษาทางวิชาการและวิชาชีพชั้นสูง ซึ่งบริหารงานโดยยึดหลักความเท่าเทียม เคารพสิทธิมนุษยชน ความเสมอภาค การอยู่ร่วมกัน และความหลากหลายของบุคคลทุกคนในทุกมิติ โดยไม่เลือกปฏิบัติหรือจำกัดสิทธิประโยชน์ใด ๆ ที่สมควรได้รับโดยชอบ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมต่อเชื้อชาติ สัญชาติ สีผิว ภาษา ศาสนา เพศตามกำเนิดและเพศสภาพ อายุ สถานภาพการสมรส สภาวะหรือความพร้อมทางร่างกาย ความทุพพลภาพ หรือสิ่งอื่นใดที่เป็นความแตกต่างเฉพาะบุคคล




