จาก “ละอ่อนสา-รักษ์ป่า-น่าน” ถึง “ละอ่อนน่านเรียน-รู้-รักษ์ป่า” ใช้ Google Earth Pro เพื่ออนุรักษ์ป่าชุมชน
ด้วยเหตุความเสื่อมโทรมของป่าน่าน ทำให้เกิดโอกาสแห่งร่วมมือระหว่างศูนย์เครือข่ายการเรียนรู้เพื่อภูมิภาค (CLNR) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลผาสิงห์ อำเภอเมือง และสถาบันวิจัยปรับปรุงพันธุกรรมสัตวบาล ซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลไหล่น่าน อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน ร่วมกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนในจังหวัดน่าน เพื่อวางแนวทางการปลูกป่าและสร้างความสมดุลในระบบนิเวศของป่าชุมชน “ไหล่น่าน”
ผลงานวิจัยที่ร่วมกับชุมชนในตำบลไหล่น่านในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พงษ์ชัย ดำรงโรจน์วัฒนา และนิสิตระดับปริญญาตรี-โท ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบว่า ว่าพื้นที่ป่าชุมชนที่ตั้งอยู่รอบสถานีวิจัยคัดเลือกและบำรุงพันธุ์สัตว์ ตำบลไหล่น่าน ได้รับการดูแลจากชุมชนอยู่บ้าง แต่ยังขาดการบูรณาการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเชิงการบริหารจัดการเชิงอนุรักษ์และศึกษาทรัพยากรต่าง ๆ ในป่าชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม ในปี 2561 นักวิจัยจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตัวแทนชาวบ้าน ตัวแทน อบต. ตัวแทนนักเรียนและครูโรงเรียนสา จึงร่วมกันทำกิจกรรมบูรณาการจัดการองค์ความรู้ด้านป่าชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม โดยส่งเสริมให้ผู้เข้าร่วมโครงการมีส่วนร่วมและตระหนักถึงความสำคัญของการจัดการป่าชุมชน รวมทั้งสร้างความเข้มแข็งของกระบวนการเพื่อความยั่งยืนและประโยชน์ที่สูงขึ้น โดยให้คณะนักวิจัยเข้ามาช่วยดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ในปลายเดือนมกราคม 2562 จึงได้จัดทำเส้นทางศึกษาธรรมชาติในป่าชุมชนบ้านบุญเรือง


ตัวแทน อบต.ไหล่น่าน และผู้แทนครูโรงเรียนสา ตั้งใจสร้างเส้นทางศึกษาธรรมชาติแห่งนี้ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ธรรมชาติวิทยาและรองรับคณะเยี่ยมดูงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ตลอดจนร่วมสนองพระราชดำริ ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในการดำเนินงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.) โดยให้ตัวแทนนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมสร้างเส้นทางศึกษาธรรมชาตินี้ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้นอกห้องเรียนโดยทำโครงงานของรายวิชาการค้นคว้าอิสระ (Independent Study) ซึ่งใช้หลักการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Project-based and problem-based learning) มุ่งเน้นให้เกิดการพัฒนาทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 (21st century learning skill) ควบคู่กันไป
การสร้างเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะทาง 1,500 เมตรนี้ นอกจะเป็นการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชุมชนแล้ว ยังเป็นการสร้างกิจกรรมที่หลากหลายให้กับนักเรียน นักศึกษา คนในชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคีเครือข่าย เช่น นักวิจัยจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้แลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างกัน เช่น การอบรมความรู้เกี่ยวกับการสร้างเส้นทางศึกษาธรรมชาติ การอบรมการใช้ GPS Essentials และ Google Earth Pro การอบรมและแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับทรัพยากรเห็ดในป่าชุมชน การเดินชมป่าชุมชนกับตัวแทน อบต. ชาวบ้าน ครู และนักเรียน รวม 3 ครั้ง เพื่อจัดทำเส้นทางศึกษาธรรมชาติจัดทำป้ายความรู้และสื่อประชาสัมพันธ์ให้ อบต.ไหล่น่านและชุมชนได้ใช้ประโยชน์ โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมจากทุกภาคส่วน จำนวน 96 คน และที่มากไปกว่านั้นคือนักเรียนกลุ่มนี้ได้นำความรู้และประสบการณ์มาจัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์ 8 โครงงาน ได้แก่
- การสร้างเส้นทางศึกษาธรรมชาติในป่าชุมชน
- ความหลากหลายของไม้ยืนต้นตามแนวเส้นทางการศึกษาธรรมชาติ
- ความหลากหลายของไม้ยืนต้นตามแนวเส้นทางศึกษาธรรมชาติในระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ Google Earth Pro
- การเติบโตของต้นไม้ในแปลงถาวร
- ความหลากหลายของพืชสมุนไพรและการใช้ประโยชน์
- ความหลากหลายของเห็ดและการใช้ประโยชน์
- ความหลากหลายของมดในเส้นทางศึกษาธรรมชาติ
- อาหารพื้นบ้านจากทรัพยากรในป่าชุมชน
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ทำโครงการ “ละอ่อนน่านเรียน-รู้-รักษ์ป่า” เพื่อขยายมิติอื่นๆ ของการพัฒนาเยาวชนอย่างยั่งยืน โดยต่อยอดจากความสำเร็จของโครงการละอ่อนสารักษ์ป่าน่านร่วมกับโครงการการเเรียน-รู้-รักษ์นก ตามแนวคิดขององค์การสหประชาชาติเกี่ยวกับ “การศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน” ผสมผสานกับบทเรียนที่ได้จากกิจกรรมต่างๆ ในโครงการนี้ เป้าหมายความยั่งยืนในอนาคตในมิติอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้น โครงการ “ละอ่อนน่านเรียน-รู้-รักษ์ป่า” มีวัตถุประสงค์เพื่อถ่ายทอดความรู้ด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนแก่เยาวชน นำความรู้ไปปฏิบัติโดยผสมผสานกับการเรียนรู้ในห้องโรงเรียนและการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นตัวตั้ง (problem-based learning)
สำหรับกิจกรรมที่ดำเนินการในโครงการละหานน่าน ประกอบด้วย กิจกรรมต่างๆ ดังนี้
- จัดอบรมเรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืน ความสำคัญของระบบนิเวศป่าไม้ การใช้ Application GPS Essentials, Google Earth Pro และ Google Drive ในการทําฐานข้อมูลทรัพยากรพันธุ์ไม้และจัดเก็บข้อมูลการศึกษาภาคสนาม
- จัดอบรมเกี่ยวกับการติดตามศึกษาระบบนิเวศป่าไม้และการสร้างแปลงถาวร จากนั้นทําการสร้างแปลงถาวรในพื้นที่ป่าร่วมกับตัวแทน อปท. และตัวแทนชุมชน
- จัดอบรมการวางแปลงถาวรและการเก็บข้อมูลในพื้นที่แปลงถาวรเพิ่มเติม อบรมการสร้างและใช้เกมส์การเรียนรู้ โดยจัดอบรมตามโรงเรียนและร่วมวางแปลงถาวรในพื้นที่ที่ได้เลือกไว้
- จัดอบรมการวิเคราะห์ข้อมูลการค้นคว้าอิสระของนักเรียน โดยจัดการอบรมผ่านโปรแกรม Zoom

ที่มา:
- คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- ศูนย์เครือข่ายการเรียนรู้เพื่อภูมิภาค จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
อื่นๆ
จากห้องเรียนสู่ผืนป่า: จุฬาฯ ส่งต่อองค์ความรู้ระบบนิเวศสู่ชุมชนและสังคม
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในฐานะสถาบันการศึกษา ที่เห็นความสำคัญของการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพและระบบนิเวศของประเทศ โดยเฉพาะการส่งเสริมการเรียนรู้เกี่ยวกับพืชและสัตว์ป่าซึ่งเป็นรากฐานหนึ่งของความยั่งยืนในระบบนิเวศ มหาวิทยาลัยได้จัดให้มีโครงการและหลักสูตรด้านระบบนิเวศสำหรับชุมชน ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการอนุรักษ์และการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย: เชื่อมโยงโลก สร้างสรรค์ความยั่งยืน
ในยุคที่โลกเผชิญกับความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลที่ซับซ้อนมากขึ้นทุกขณะ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ก้าวขึ้นมาเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง มหาวิทยาลัยได้ขยายบทบาทของตนออกไปมากกว่าในระดับประเทศ ผ่านความร่วมมือระดับนานาชาติในการรวบรวมและวัดผลข้อมูลตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อสนับสนุนการกำหนดนโยบายในระดับโลก โดยมีหลักฐานเชิงข้อมูลรองรับ และส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืนอย่างครอบคลุมทุกมิติ
หลักสูตรความรู้และการจัดกิจกรรมรณรงค์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในเรื่องของผลกระทบที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศปี 2567-2568
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีความรุนแรงขึ้นในปัจจุบันได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของผู้คน ทั้งในแง่ของการเกิดพิบัติภัยจากสภาพอากาศที่รุนแรงโดยตรง และภัยพิบัติอื่น ๆ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่ประชาคมโลกได้ทุ่มเทความพยายามอย่างมากในการแก้ไข จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในฐานะสถาบันการศึกษาที่มีส่วนร่วมและเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ จึงมีการจัดทำหลักสูตรฝึกอบรม สัมมนา เสวนารวมทั้งกิจกรรมการรณรงค์ที่เกี่ยวข้องกับทั้งเรื่องความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ผลกระทบ การบรรเทา การปรับตัว การลดผลกระทบ และการเตือนภัยล่วงหน้าต่าง ๆ ให้กับประชาชนทั่วไป ชุมชน สังคม และหน่วยงานทั้งระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ ให้มีความรู้ ความเข้าใจ มีการรับรู้ และสามารถตอบสนอง รับมือ และปรับตัวเมื่อต่อประสบกับปัญหานี้ได้อย่างเหมาะสม
รูปแบบที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุไทยเพื่อส่งเสริมสุขภาพกาย สุขภาพใจ ภายใต้แนวคิดชุมชนที่เป็นมิตรกับผู้สูงอายุ
ปัจจุบันประเทศไทยได้กลายเป็นสังคมสูงวัย ตั้งแต่ พ.ศ. 2548 โดยปัญหาสุขภาพทั้งทางกาย และจิตใจ ยังคงเป็นปัจจัยที่สำคัญหนึ่งของผู้สูงอายุ ในด้านที่อยู่อาศัยพบว่า ผู้สูงอายุในประเทศไทยส่วนใหญ่ถึงร้อยละ 92.44 ต้องการที่จะอยู่อาศัยในที่อยู่อาศัยเดิม และต้องการปรับปรุงที่อยู่อาศัย และสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับผู้สูงอายุ ตามแนวคิด การสูงวัยในถิ่นเดิม (Aging in place) ปัจจัยสำคัญคือ ที่อยู่อาศัยต้องถูกออกแบบให้เป็นที่อยู่อาศัยที่สามารถเข้าถึงได้ ซึ่งจำเป็นต้องมีความเกี่ยวโยงกับชุมชนที่ต้องดำเนินการปรับสภาพแวดล้อมของชุมชนให้เอื้อต่อการใช้ชีวิตของผู้สูงอายุเช่นเดียวกัน










