เนินชะลอความเร็ว (Speed Hump) การสร้างพื้นที่เพื่อส่งเสริมการเดินเท้าในมหาวิทยาลัย
พื้นที่ภายในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นพื้นที่ที่มีความร่มรื่น และการเดินทางไปยังอาคารต่างๆ ก็สามารถทำได้โดยไม่ลำบาก มหาวิทยาลัยจึงสนับสนุนการเดินเท้าในมหาวิทยาลัย สำหรับนิสิต อาจารย์ บุคลากร และบุคคลทั่วไปที่เข้ามาสัญจรในพื้นที่ของมหาวิทยาลัย ซึ่งนอกจากการจัดสร้าง CU Covered Walkways ทางเชื่อมสำหรับคนที่ไม่รีบหรือชอบเดินภายในจุฬาฯ เป็นทางเดินมีหลังคาที่เชื่อมโยงอาคารเรียนทั่วมหาวิทยาลัย เพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้กับทุกคนที่ต้องการเดินทางไปยังสถานที่ใกล้เคียงด้วยการเดิน ลดจำนวนรถยนต์และรถจักรยานยนต์ภายในมหาวิทยาลัยที่เป็นสาเหตุของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และยังส่งเสริมวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดีของนิสิต บุคลากรและบุคคลทั่วไปผ่านการออกกำลังกายด้วยการเดิน พร้อมปกป้องผู้ที่เดินเท้าจากฝนและแสงแดดที่รุนแรงโดยรอบพื้นที่มหาวิทยาลัย และอุโมงค์ลอดใต้ถนนสำหรับใช้เดินข้ามไปยังพื้นที่อีกฝั่งของมหาวิทยาลัย [ https://www.thaipbs.or.th/news/content/311964 ] ให้ทุกคนสามารถเดินได้โดยสะดวกและปลอดภัยแล้ว มหาวิทยาลัยยังมีการออกแบบและจัดทำ และเนินชะลอความเร็วขึ้นในจุดทางข้าม ผสมผสานเข้ากับการทำเป็นทางม้าลาย ในหลายจุดทั่วทั้งมหาวิทยาลัย


โดยการจัดทำเนินชะลอความเร็ว มุ่งเน้นการใช้ประโยชน์เป็นทางข้ามให้กับทุกคนที่ต้องเดินสัญจรไปมาในพื้นที่ของมหาวิทยาลัย และยิ่งโดยเฉพาะสำหรับผู้พิการที่ต้องใช้รถเข็น เนื่องจากมีความต่างระดับระหว่างทางเท้าและถนน ทำให้ผู้พิการที่ใช้รถเข็นไม่สามารถใช้เป็นทางข้ามได้ ในการจัดทำเนินชะลอความเร็วจะจัดทำให้มีระดับเท่ากับระดับทางเท้าทั้งสองฝั่ง เพื่อใช้ในการสัญจรที่ต่อเนื่องของผู้พิการ โดยในการจัดทำจะคำนึงถึงจุดที่เหมาะสม เช่น ระยะที่ปลอดภัยในการติดตั้ง จุดที่เหมาะสมของทางข้ามคนเดินเท้า และเส้นทางการสัญจรของผู้พิการ โดยมหาวิทยาลัยได้มีการศึกษาเส้นทางการสัญจรของผู้พิการให้สามารถสัญจรที่ต่อเนื่องได้ เพื่อให้เป็นไปตามหลักการการออกแบบเพื่อทุกคน (Universal Design) และส่งเสริมการเดินเท้าให้กับทุกคนที่ต้องเข้ามาเดินผ่าน หรือเข้ามาเดินภายในพื้นที่ของมหาวิทยาลัย ให้เดินได้อย่างสะดวกและปลอดภัย รวมทั้งจะสามารถใช้เป็นทางข้ามกรณีที่มีนำท่วมขังบริเวณถนนภายในมหาวิทยาลัยได้
นอกจากนี้ เนินชะลอความเร็ว จะเป็นตัวช่วยจำกัดความเร็วยานพาหนะภายในมหาวิทยาลัย ไม่ให้ใช้ความเร็วเกินกว่าที่กำหนด เพื่อความปลอดภัยต่อ นิสิต บุคลากร และบุคคลภายนอกที่เข้ามาเดินภายในพื้นที่ของมหาวิทยาลัย รวมถึงตัวผู้ใช้ยานพาหนะเอง ซึ่งในปัจจุบันภายในมหาวิทยาลัยมีการใช้ยานพาหนะที่หลากหลาย เช่น รถยนต์ รถจักรยานยนต์ จักรยาน Scooter รวมถึงรถสาธารณะต่างๆ เช่น รถโดยสารภายในมหาวิทยาลัย รถสามล้อไฟฟ้า (MuvMi) โดยการจำกัดความเร็วจะสามารถลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุ และความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นได้อีกด้วย




ที่มา:
สำนักบริหารระบบกายภาพ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
อื่นๆ
สุขภาพดีถ้วนหน้า จุฬาฯ จัดให้
จุฬาฯ จัดพื้นที่ออกกำลังกายเพื่อให้กับนิสิต บุคลากรและประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงพื้นที่ออกกำลังกายโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ตามนโยบายของจุฬาฯ ที่มุ่งสนับสนุนและส่งเสริมสุขภาพประชาชน แก้ปัญหากิจกรรมทางกายไม่เพียงพอ
การพัฒนาพื้นที่ของจุฬาฯ อย่างยั่งยืน ฟื้นฟูสวนหลวง-สามย่าน BLOCK 33 : Residential & Wellness
โครงการพัฒนาฟื้นฟูพื้นที่สวนหลวง-สามย่านสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะและอาคารเขียว โดยใช้แนวความคิดจากการเชื่อมต่อพื้นที่สีเขียว สร้างความเป็นชีวิต (Life Style) สร้างที่พักอาศัยคุณภาพ (Live Style) จนก่อเกิดพื้นที่เรียนรู้ (Learning Style) มุ่งเน้นการออกแบบก่อสร้างอาคารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
Center of SHE คุมเข้มความปลอดภัยแล็บจุฬาฯ นับพันด้วย “ChemTrack & WasteTrack 2016
ความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการมีความสำคัญอย่างมากในมหาวิทยาลัย ไม่มีใครอยากประสบอุบัติเหตุ ได้รับอันตรายจากสารเคมีที่สะสมเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว การปลูกฝังให้นิสิตผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวข้องกับห้องปฏิบัติการในมหาวิทยาลัยมีจิตสำนึกในเรื่องความปลอดภัยในการทำงานก่อนจะจบออกไปประกอบวิชาชีพในการทำงานในหน่วยงานต่างๆ มีความจำเป็นอย่างยิ่ง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีห้องปฏิบัติการหรือห้อง Lab มากกว่า 1,000 ห้อง จึงดำเนินการด้านระบบความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการและการกำจัดสารเคมี ของเสียอันตรายอย่างถูกวิธีมากว่า 20 ปี
การปรับปรุงอาคารของจุฬาฯ และการพัฒนาเทคโนโลยีสนับสนุนต่าง ๆ เพื่อเป็นการช่วยลดและใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยให้ความสำคัญกับการใช้พลังงานอย่างประหยัดและมีประสิทธิภาพในทุกมิติของการดำเนินงาน โดยส่วนหนึ่งสามารถเห็นได้จากการจัดทำแผนและโครงการอย่างต่อเนื่องเพื่อปรับปรุงอาคารที่มีอยู่เดิมให้มีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น ภายใต้แนวทางการพัฒนาอาคารเขียว (Green Building) และการบริหารจัดการพลังงานอย่างยั่งยืน




