กรณีศึกษา

นวัตกรรมโดรนใต้น้ำจากจุฬาฯ กับภารกิจพิทักษ์ท้องทะเลไทย

การสำรวจธรรมชาติแบบดั้งเดิมในพื้นที่ที่มนุษย์ยากจะเข้าถึงและอาจเป็นอันตรายต่อตัวผู้สำรวจนับเป็นอีกหนึ่งอุปสรรคที่ทำให้การค้นพบทางวิทยาศาสตร์ของมวลมนุษยชาติเป็นไปด้วยความล่าช้า และทำให้ความจริงของธรรมชาติประการสำคัญยังมิถูกพิสูจน์ทราบตามหลักฐานทางวิชาการ แต่เมื่อเทคโนโลยีเจริญรุดหน้า มนุษย์จึงพัฒนานวัตกรรมอากาศยานไร้คนขับ (Unmanned Aerial Vehicle : UAV) และนำมาใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในภารกิจสำรวจทางธรรมชาติเพื่อให้ผู้สำรวจได้รับความสะดวกสบายและเกิดความปลอดภัยขณะปฏิบัติงาน อากาศยานไร้คนขับไม่มีนักบินประจำการอยู่บนเครื่อง แต่ยังสามารถควบคุมได้จากระยะไกล ซึ่งอากาศยานไร้คนขับนี้ได้รับการออกแบบให้มีรูปร่าง ขนาด รูปแบบ และเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป และ “โดรน”​(Drone) ก็ถือเป็นอากาศยานไร้คนขับประเภทหนึ่ง

โดรน (Drone) เป็นอากาศยานที่ควบคุมได้จากระยะไกล ใช้การควบคุมอัตโนมัติได้ใน 2 ลักษณะ กล่าวคือ 1) ควบคุมอัตโนมัติจากระยะไกล และ 2) ควบคุมแบบอัตโนมัติโดยใช้ระบบการบินด้วยตนเองซึ่งต้องอาศัยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่มีระบบซับซ้อนและยังต้องติดตั้งไว้ในอากาศยาน โดยภาพที่ได้จากโดรนจะถูกส่งเป็นสัญญาณภาพหรือสัญญาณวิดีโอมายังศูนย์ควบคุม เพื่อให้ศูนย์ควบคุมแปลความหมายจากภาพ และนำข้อมูลไปใช้งานด้านในภารกิจต่าง ๆ ต่อไป

ด้วยคุณสมบัติของนวัตกรรมอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนในข้างต้น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยคณะสัตวแพทยศาสตร์ จึงได้ริเริ่มพัฒนาโดรนหรืออากาศยานไร้คนขับมาประยุกต์ใช้ให้สามารถออกสำรวจใต้ท้องทะเลได้ และทดสอบการทำงานในพื้นที่ท้องทะเลเกาะล้าน เกาะครก และเกาะสาก จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นแหล่งที่มีความหลากหลายของระบบนิเวศทั้งทางบกและทางทะเล บนเกาะพบพรรณไม้ชายฝั่งทะเล และพรรณไม้ตามเกาะที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ขณะเดียวกันในท้องทะเลบริเวณนี้ยังพบแนวปะการังที่ยังสมบูรณ์และหลากหลาย รวมถึงปลาตามแนวปะการังอีกหลายชนิด 

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยใช้โดรนสำรวจใต้น้ำเพื่อเก็บรวบรวมภาพความสวยงาม สำรวจทรัพยากรใต้ทะเล เรียนรู้ความหลากหลาย และหาวิธีการปกป้องโลกใต้ทะเล อีกทั้งยังคอยตรวจสอบผลกระทบทางทะเลที่อาจเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ ระดับน้ำทะเล และความเป็นกรดของน้ำทะเล เพื่อปลูกจิตสำนึกให้ชุมชนและนักท่องเที่ยวตระหนัก รัก และหวงแหนท้องทะเลไทยมากยิ่งขึ้น และด้วยคุณสมบัติของโดรนใต้น้ำที่สามารถเข้าถึงแนวปะการังได้ในทุกมุมชนิดที่มนุษย์ไม่สามารถเข้าถึงได้ คณะนักวิจัยยังได้ใช้โดรนใต้น้ำนี้เป็นอุปกรณ์สำรวจและประเมินโครงสร้างปะการังที่เสียหายจากเหตุภัยธรรมชาติและใช้ร่วมปฏิบัติการในภารกิจกู้ภัยฉุกเฉินต่าง ๆ โดยลดการใช้แรงงานมนุษย์และลดการลงไปรบกวนสิ่งที่ชีวิตใต้ท้องทะเลโดยไม่จำเป็น 

ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีโดรนถ่ายภาพในปัจจุบัน สามารถทำให้ขนาดของลำโดรนมีขนาดเล็กลงและมีระบบ GPS ที่ทำให้ทั้งสะดวกและปลอดภัยในการใช้งานมากยิ่งขึ้น ประกอบราคาที่ไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับช่วงแรกที่ผู้ผลิตนำเทคโนโลยีนี้ออกวางจำหน่าย ยิ่งเมื่อมีซอฟท์แวร์รองรับการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นทั้งแบบให้ใช้งานฟรีและใช้งานเชิงพาณิชย์ด้วยแล้ว ล้วนเป็นมูลเหตุจูงใจให้คณะนักวิจัยจากคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หันมานำโดรนมาพัฒนาให้ใช้งานใต้น้ำเฉกเช่นเดียวกันกับการบินอยู่บนท้องฟ้า โดยรูปแบบของโดรนใต้น้ำจะมีรูปทรงคล้ายปลาและติดตั้งกล้องแบบปรับทิศทางได้เอาไว้ เพื่อใช้ถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอได้ทั้งขณะอยู่เหนือน้ำและใต้น้ำด้วยมุมมองเช่นเดียวกันกับปลา นอกจากนี้ยังทำงานได้ทั้งในน้ำจืด น้ำเค็ม หรือน้ำที่ผสมคลอรีน และยังได้พัฒนาแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 4 ชั่วโมง และที่มากไปกว่านั้นตัวเครื่องยังพัฒนาให้กันน้ำได้ถึง 100% และดำดิ่งลงน้ำลึกถึง 30 เมตร

ความพิเศษของโดรนสำรวจใต้น้ำชุดนี้ ยังได้รับการออกแบบมาให้ประยุกต์ใช้งานคลื่นโซนาร์เพื่อตรวจจับเหล่าปลาที่อยู่ใต้โดรนลึกลงไปอีก 40 เมตร โดยมีระบบ Wi-Fi เพื่อส่งภาพ วิดีโอ และข้อมูลต่าง ๆ ที่จับได้โดยกล้องความละเอียดระดับ 4k ที่ผนวกติดมากับตัวเครื่องให้แก่ผู้ใช้งาน ซึ่งสามารถดูผ่านแอปพลิเคชันบนระบบ iOS หรือ Android ได้เลยทันที

อย่างไรก็ตามเนื่องจากการรับส่งคลื่นวิทยุใต้น้ำนั้นเป็นไปได้อย่างไม่ดีนัก PowerRay จึงต้องอาศัยการรับส่งข้อมูลผ่านสายเคเบิลที่โยงไปยังสถานีรับส่งสัญญาณ Wi-Fi ที่จะลอยอยู่บนผิวน้ำเพื่อส่งข้อมูลภาพและรับคำสั่งจากรีโมตบังคับ โดยข้อมูลเหล่านี้จะส่งให้ผู้ควบคุมที่อยู่เหนือผิวน้ำแบบ real-time ผ่านสายเชื่อมต่อกับทุ่น ซึ่งทุ่นนี้จะเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตอีกที

ปัจจุบัน มีโดรนใต้น้ำออกปฏิบัติหน้าที่ในท้องทะเลเกาะล้าน เกาะครก และเกาะสาก รวมทั้งสิ้น 7 ลำ นับเป็นการพัฒนานวัตกรรมและนำมาใช้พิทักษ์ รักษา และป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับระบบนิเวศทางทะเลของไทยที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ก้าวเข้ามามีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมทางทะเลอย่างชัดเจน

ที่มา:

คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

อื่นๆ

จุฬาฯ อวดสองนวัตกรรมคืนชีวิตใหม่ให้ปะการังไทย ผสมเทียมสำเร็จครั้งแรกของโลก พร้อมชูเครื่องพิมพ์ 3 มิติสร้างปะการังเทียม

แก้ปัญหาระบบนิเวศใต้ท้องทะเลเสื่อมโทรม ที่ส่งผลกระทบความหลากหลายทางชีวภาพของพืชและสัตว์ในระบบนิเวศใต้ท้องทะเลทั้งทางตรงและทางอ้อม

การวิเคราะห์ลายนิ้วมือน้ำมันดิบ ติดตามมลพิษ: วิทยาลัยปิโตรเลียมและปิโตรเคมีทำงานเพื่อแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่กำลังเพิ่มขึ้น

ทุกๆ ปี ผู้คนที่อาศัยอยู่ใกล้ชายฝั่งหรือบริเวณป่าชายเลนในประเทศไทยจะพบคราบน้ำมันและก้อนน้ำมันบนชายฝั่ง ซึ่งเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม สิ่งมีชีวิต และกระทบการท่องเที่ยว โดยในช่วงหลังๆ ปริมาณก้อนน้ำมันที่พบเห็นเพิ่มมากขึ้น แสดงให้เห็นถึงปัญหาที่เลวร้ายมากขึ้น

ความร่วมมือในการสำรวจระดับนานาชาติ “ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมและการรับรู้ผลกระทบจากโรคโคโรน่าไวรัส 2019 (โควิด-19)”

วิทยาลัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข จุฬาฯ ได้รับความไว้วางใจและร่วมมือกับสมาคมมหาวิทยาลัยภาคพื้นแปซิฟิก (APRU) ในการสำรวจระดับนานาชาติ “ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมและการรับรู้ผลกระทบจากโรคโควิด-19 (COVID-19)” โดยมุ่งเน้นการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกและประเมินผลกระทบของโรคโควิด-19  ซึ่งมุ่งหวังที่จะช่วยในการพัฒนาแนวทางในการจัดการกับการระบาดของโรคโควิด-19 และเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการจัดการต่อโรคระบาดที่คล้าย ๆ กัน ในอนาคต

รื้อถอนแท่นปิโตรเลียมกลางอ่าวไทยอย่างไร ให้ความหลากหลายทางชีวภาพในท้องทะเลไทยยังคงอยู่

เร่งสร้างองค์ความรู้ให้เพียงพอและพร้อมใช้นำมาบริหารจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมทางทะเลนอกชายฝั่งอ่าวไทย โดยเฉพาะในกระบวนการวางแผนหาแนวทางที่เหมาะสม และตัดสินใจเชิงนโยบายที่เกี่ยวกับกิจกรรมการรื้อถอนแท่นปิโตรเลียมในอ่าวไทย

ไอคอน PDPA

เราใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของคุณ (ตั้งค่า)

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

Accept All
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • Necessary cookies
    เปิดใช้งานตลอด

    Necessary cookies are essential for the functioning of the website, allowing you to use and browse the site normally. You cannot disable these cookies in our website's system.

  • คุกกี้วิเคราะห์เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน

    คุกกี้เหล่านี้ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ เช่น จำนวนผู้เข้าชม, หน้าเว็บที่ได้รับความนิยม และพฤติกรรมการท่องเว็บ ซึ่งช่วยให้เจ้าของเว็บไซต์ปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ได้

  • คุกกี้การทำงานเพื่อจดจำการตั้งค่าผู้ใช้

    คุกกี้เหล่านี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ โดยจดจำการตั้งค่าที่ผู้ใช้เคยกำหนดไว้ เช่น ชื่อผู้ใช้, ภาษา, ภูมิภาค หรือการปรับแต่งเว็บไซต์ตามความต้องการ

Save