กรณีศึกษา

วิศวกรรมคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีดิจิทัล: เปิดตัวหลักสูตรรูปแบบใหม่ มุ่งเน้นปฏิบัติงานจริง

ปัจจุบัน ประเทศไทยยังคงขาดแคลนบุคลากรด้านดิจิทัลเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ธุรกิจขาดความสามารถในการแข่งขัน เพื่อที่จะผลิตบัณฑิตมาเติมเต็มในตลาดแรงงานและตรงกับความต้องการของภาคเอกชนในโลกธุรกิจ ทางคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เล็งเห็นความสำคัญและเปิดหลักสูตรใหม่ ” Computer Engineering and Digital Technology (CEDT)” ในปีการศึกษา 2566 ที่เปิดรับนิสิตมากถึง 300 คนต่อปี ซึ่งถือเป็น 2 เท่าของหลักสูตรที่มีอยู่ก่อนอย่าง Computer Engineering อีกทั้งหลักสูตรนี้เป็นหลักสูตรแรกของมหาวิทยาลัยที่มีนโยบายการจัดการศึกษาที่แตกต่างจากมาตรฐานการอุดมศึกษา (Higher education sandbox) ตามข้อกำหนดสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ ที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาของกลุ่มผู้เชี่ยวชาญจากภาคเอกชน มุ่งเน้นให้นิสิตมีทักษะในทุกช่วงชั้นปีตลอดการศึกษา ผ่านการฝึกงานและสหกิจศึกษา ในองค์กรภาคเอกชนซึ่งเป็นคู่สัญญากับคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นการเสริมความเข้มแข็งให้แก่องค์กรคู่สัญญา และเสริมสร้างสมรรถนะให้แก่นิสิตจากประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน ณ สถานที่จริงและสถานการณ์จริง โดยมีบริษัทเอกชนที่ลงนามให้ความร่วมมือกับหลักสูตร CEDT อย่างเป็นทางการแล้วถึง 30 บริษัทชั้นนำของประเทศในหลายสาขา ทั้งสถานบันการเงินต่าง ๆ ธุรกิจด้านบริการ ธุรกิจทางด้านเทคโนโลยี ทั้ง IT consult, software, hardware, security and AI รวมถึงบริษัทอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้ ยังมีอีก 12 บริษัท อยู่ระหว่างดำเนินการลงนาม

ด้วยโครงสร้างหลักสูตรที่ทันสมัย ตรงกับความต้องการของตลาด มีกิจกรรมเสริมทั้งจากบริษัทเอกชนและตามความสนใจของนิสิต รวมถถึงการเปิดโอกาสให้นักเรียน ผู้ปกครอง และผู้จัดการแข่งขันต่าง ๆ ได้รวมเสนอข้อกำหนดในการคัดเลือกรอบ TCAS1 ซึ่งเป็นรอบที่ใช้ผลงานสะสม (portfolio) ของนักเรียนทั้งโครงการโอลิมปิกวิชาการและการประกวดแข่งขันต่าง ๆ  นอกจากนี้ การประชาสัมพันธ์และการให้ข้อมูลเกี่ยวกับหลักสูตร รวมถึงหลักเกณฑ์การรับเข้าศึกษาสามารถเข้าถึงได้ง่าย ผ่านทางสื่อออนไลน์จากสำนักข่าวต่าง ๆ และสื่อของหลักสูตรทั้งเว็บไซต์ เฟสบุ๊ค และติ๊กต๊อก พร้อมกับการประชาสัมพันธ์เชิงรุก (active participate) ผ่านการเป็นกรรมการในการแข่งขันต่าง ๆ เพื่อให้สาขาได้เป็นที่รู้จัก และ recruit นักเรียนที่ได้รับรางวัลให้เข้าศึกษาต่อ ทำให้หลักสูตรนี้ได้รับความสนใจจากนักเรียนโดยเฉพาะนักเรียนที่มึความสามารถสูงเพื่อเข้าศึกษาต่อเป็นอย่างมาก สะท้อนได้จากจำนวนนักเรียนที่สมัครมากกว่า 2,600 คน มีอัตราการแข่งขันเพิ่มขึ้นเป็น 7 เท่าจากปีที่ผ่านมา และผู้ผ่านการคัดเลือกในหลักสูตรนี้มีคะแนนสูงมาก จัดอยู่ในอันดับต้นร้อยละ 2 ของคะแนนการสอบเข้ามหาวิทยาลัย

จากจำนวนผู้สมัครและนิสิตในหลักสูตรใหม่นี้ เป็นตัวบ่งชี้ว่าได้ว่า การพัฒนาหลักสูตรให้สอดคล้องกับบริบทใหม่ของโลกธุรกิจในปัจจุบันมากขึ้นดังเช่น Higher education sandbox รวมถึงการประชาสัมพันธ์ที่สม่ำเสมอและเข้าถึงได้ง่าย ทำให้หลักสูตรนี้เป็นที่ต้องการและดึงดูดความสนใจจากนักเรียนผู้มีความสามารถสูง ให้สมัครเข้ามาเรียนในหลักสูตรดังกล่าวได้เป็นอย่างดี

ที่มา

คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

รายละเอียดที่เกี่ยวข้อง:

อื่นๆ

หลักสูตร “Quick MBA from Home” แพลตฟอร์มการเรียนรู้ตลอดชีวิตแบบบูรณาการ

การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ไม่เพียงสร้างผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจทั่วโลก แต่ยังส่งผลต่อระบบการศึกษา เป็นเหตุให้จำเป็นต้องออกแบบหลักสูตรใหม่ให้ยังสามารถถ่ายทอดองค์ความรู้ได้ต่อไปอย่างไม่หยุดชะงัก

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยขยายกระบบการศึกษาเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต

การเรียนรู้ตลอดชีวิตเป็นแนวคิดที่เน้นความสำคัญของการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องและการเรียนรู้ตลอดชีวิต ที่เน้นทางด้านการเพิ่มทักษะความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ชีวิต ให้เป็นไปตามความต้องการของผู้เรียน ซึ่งแตกต่างจากเรียนในระบบทั่วไป

“มายคอร์สวิลล์” ดิจิทัลแฟลตฟอร์มใหม่ เพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิตของคนไทย

จุฬาฯ นำนวัตกรรมเยียวยาสังคมเพื่อให้การเรียนรู้ของคนไทยไม่สะดุดหยุดชะงัก แม้อยู่ในสภาวะคับขันจากมาตรการล็อกดาวน์เมืองยาวนานจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

การปฏิบัติงานในแผนกฉุกเฉิน – การเรียนการสอนสหวิชาชีพเสมือนจริง (ER-VIPE)

การระบาดของ COVID-19 ก่อให้เกิดความท้าทายแก่นิสิตสหสาขาวิชาชีพเนื่องจากประสบการณ์ภาคปฏิบัติที่จำกัดเพราะขาดแคลนเจ้าหน้าที่ มีระยะเวลาในการสอนน้อย และความเสี่ยงต่อการรับเชื้อไวรัสสูง เพื่อแก้ไขปัญหานี้ ทีมของเราได้พัฒนานวัตกรรมการเรียนการสอนเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับนิสิตสหสาขาวิชาชีพสำหรับการปฏิบัติงานในแผนกฉุกเฉิน (ED)