กรณีศึกษา

ความร่วมมือกับชุมชนเพื่อรักษาและเสริมสร้างระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพของพืชและสัตว์

เนื่องจากทรัพยากรธรรมชาติทั่วโลกกำลังตกอยู่ภายใต้อันตราย ความหลากหลายทางนิเวศวิทยาจึงเป็นเรื่องสำคัญในการเก็บรักษาไว้เพื่อประโยชน์ของคนรุ่นหลัง ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุยเดช บรมนาถบพิตร สมเด็จพระบรมชนกนาถ และ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อตอบสนองพระราชดำริและพัฒนาความยั่งยืนของความหลากหลายทางระบบนิเวศ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้เข้ามามีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พันธุ์ไม้ของไทย 

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุยเดช บรมนาถบพิตร สมเด็จพระบรมชนกนาถ ทรงชี้ให้เห็นความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรพันธุกรรมพืชเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2503 และในปี พ.ศ. 2535 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ทรงรับสนองพระราชประสงค์โดยทรงริเริ่มโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรพันธุกรรมพืช ซึ่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการสำคัญนี้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2541 โดยมีหน้าที่ศึกษาและขยายงานสู่สาธารณชน 

โครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อฝึกอบรมบุคลากรด้านการอนุรักษ์พันธุ์พืชและความหลากหลายทางระบบนิเวศ พร้อมสร้างงานวิจัยด้านการอนุรักษ์และพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติเพื่อประโยชน์ของประชาชน ภารกิจของจุฬาฯ มีความสำคัญอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ทรัพยากรธรรมชาติอยู่ภายใต้การคุกคามจากการเติบโตของจำนวนประชากร ซึ่งส่งผลให้มีการใช้ทรัพยากรเพิ่มขึ้นทั้งในด้านอาหาร ที่อยู่อาศัย พลังงาน และยารักษาโรค ในขณะที่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและอื่น ๆ ก็ส่งผลกระทบต่อทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมเช่นเดียวกัน 

ภารกิจหลักของโครงการ คือ การศึกษาพันธุ์พืชและความหลากหลายทางพันธุกรรมในสภาพแวดล้อมทางภูมิศาสตร์ต่าง ๆ ของประเทศไทย ตั้งแต่ป่าดิบเขา ป่าดิบชื้น ป่าเต็งรัง ป่าเต็งรัง ป่าดิบที่ราบต่ำ และป่าชายเลน จากการศึกษาพบว่ามีพันธุ์พืชที่พบเฉพาะในประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 20,000 ชนิด ประกอบด้วยเห็ด 1,200 ชนิด  ไลเคน 300 ชนิด เฟิร์น 633 ชนิด กล้วยไม้มากกว่า 1,000 ชนิด และพืชมีท่อลำเลียงกว่า 10,000 ชนิด และยังได้ขยายการศึกษาวิจัยไปสู่ความหลากหลายของสัตว์ที่มีถิ่นที่อยู่อาศัยแตกต่างกันในแต่ละภูมิประเทศ เช่น สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม นกและสัตว์เลื้อยคลาน ปลาและสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง เช่น แมลงและหอย สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ โปรโตซัว และสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ 

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้รับมอบหมายให้เป็นหนึ่งในห้าศูนย์แม่ข่ายประสานงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.) ของประเทศไทย เพื่อทำหน้าที่สนับสนุนการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ โดยให้คำปรึกษา ประสานงาน ส่งเสริมและสนับสนุนให้หน่วยงานร่วมสนองพระราชดำริตามภารกิจของหน่วยงาน อาทิเช่น สนับสนุนชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้สนองพระราชดำริดำเนินงานฐานทรัพยากรท้องถิ่น และสนับสนุนโรงเรียน และสถาบันการศึกษาให้สนองพระราชดำริดำเนินงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน) [ http://www.rspg.or.th/ ]

มหาวิทยาลัยได้ทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับชุมชนในพื้นที่ภาคกลางของประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวัดสระบุรี ลพบุรี และนครนายก เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรท้องถิ่น คือ 1) ทรัพยากรกายภาพ, 2) ทรัพยากรชีวภาพ (พืช สัตว์ จุลินทรีย์ เห็ดรา) 3) ทรัพยากรวัฒนธรรมและภูมิปัญญา อย่างเป็นระบบ ครอบคลุม 6 งาน ได้แก่

  • งานที่ 1 ปกปักทรัพยากรท้องถิ่น
  • งานที่ 2 สำรวจเก็บรวบรวมทรัพยากรท้องถิ่น
  • งานที่ 3 ปลูกรักษาทรัพยากรท้องถิ่น
  • งานที่ 4 อนุรักษ์และใช้ประโยชน์ทรัพยากรท้องถิ่น
  • งานที่ 5 ศูนย์ข้อมูลและทรัพยากรท้องถิ่น
  • งานที่ 6 สนับสนุนการอนุรักษ์และจัดทำฐานทรัพยากรท้องถิ่น

ผลงานที่สำคัญในปี พ.ศ.2566 คือ การร่วมกับโครงการ อพ.สธ. และ ภาคเอกชน จัดการอบรมเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับงานฐานทรัพยากรท้องถิ่นทั้ง 6 งาน ให้กับบุคลากรจากหน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและสถาบันการศึกษาจำนวน 2 ครั้ง ณ พื้นที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จังหวัดสระบุรี โดยมีผู้เข้าอบรม 96 คน จาก 54 หน่วยงาน

ศูนย์แม่ข่ายประสานงาน อพ.สธ. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ยังได้ร่วมกับจังหวัดสระบุรีจัดกิจกรรม “สระบุรีสนองพระราชดำริเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน” เพื่ออบรมให้ความรู้ในการขับเคลื่อนกิจกรรมงานฐานทรัพยากรท้องถิ่นทั้งในระดับจังหวัดและระดับอำเภอ โดยจัดการอบรม 16 ครั้ง ให้กับผู้รับการอบรมมากกว่า 1,480 คน จาก 109 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในพื้นที่ 13 อำเภอของจังหวัดสระบุรี โดยยังคงให้บริการให้คำปรึกษาแนะนำกับหน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

กิจกรรมที่ ศูนย์แม่ข่ายประสานงาน อพ.สธ. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดให้หน่วยงานและสถานศึกษาเหล่านี้ ได้ช่วยพัฒนาทรัพยากรบุคคลให้กับท้องถิ่น เพื่อให้มหาวิทยาลัยได้ร่วมกับชุมชนช่วยกันรักษาและเพิ่มพูนระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพของพืชและสัตว์ โดยเฉพาะระบบนิเวศในภาวะเสี่ยงอันเนื่องมาจากการพัฒนาเมืองในเขตภาคกลางของประเทศไทย

สามารถดูรายละเอียดการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ได้ที่

ที่มา :

  • คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • ศูนย์เครือข่ายการเรียนรู้เพื่อภูมิภาค จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

อื่นๆ

เปิดเคล็ดลับความสำเร็จ จุฬาฯ สมาร์ทซิตี้ ชวนดูคาระวาน Smart Mobility

จุฬาฯ ขับเคลื่อนโครงการ “จุฬาฯ สมาร์ทซิตี้” (Chula Smart City) ผ่าน “SMART 4” นำนวัตกรรมอัจฉริยะ 4 มิติ ได้แก่ Smart Living, Smart Energy, Smart Environment และ Smart Mobility รองรับไลฟ์สไตล์ใหม่ให้ประชาคมจุฬาฯ กว่า 50,000 คน ที่ใช้ชีวิตบนพื้นที่กว่า 1.5 พันไร่ ใจกลางกรุงเทพฯ พร้อมสร้างคุณค่าต่อยอดให้ชุมชนและสังคม ชูจุดเด่นยานยนต์หลากรูปแบบตอบโจทย์ SMART MOBILITY

ห้องสมุดของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แหล่งทรัพยากรทางวิชาการเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิตสำหรับทุกคน

สำนักงานวิทยทรัพยากร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หรือ หอสมุดกลาง เป็นหน่วยงานของจุฬาฯ ที่เปิดให้บริการและอำนวยความสะดวกในการใช้งานทรัพยากรสารสนเทศทุกประเภทที่มีมาตรฐาน เพื่อสนองความต้องการด้านการเรียน การสอน การวิจัย และความใฝ่รู้ ทั้งแก่นิสิต อาจารย์ บุคลากรของจุฬาฯ และบุคคลทั่วไป สำหรับการเรียนรู้ตลอดชีวิต ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

การออกแบบอาคารเขียว ตามมาตรฐาน TREES กับการสร้างอาคารใหม่และการปรับปรุงอาคารของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยอย่างยั่งยืน

ภายในพื้นที่ กว่า 1,153 ไร่ ในการดูแลของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นที่ตั้งของอาคารสำนักงาน ส่วนอาคารเรียน และอาคารที่ใช้เพื่อการสนับสนุนด้านการเรียนการสอนในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยไม่ต่ำกว่า 200 อาคาร การใช้อาคารดังกล่าว มีการใช้พลังงานและทรัพยากรในการใช้งานและดูแลรักษาเป็นอย่างมาก เพื่อช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงให้ความสำคัญและกำหนดแนวทางในการก่อสร้างอาคารใหม่หรือการปรับปรุงอาคารที่มีอยู่ โดยส่งเสริมให้มีการออกแบบอาคารที่ช่วยประหยัดพลังงาน ประหยัดน้ำ และมีการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์และมีประสิทธิภาพสูงสุด

จุดบริการน้ำดื่มที่สะอาด ปลอดภัย และฟรีทั่วทั้งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยสำหรับทุก ๆ คน

ปัจจุบันจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้จัดให้มีจุดบริการน้ำดื่มฟรีกว่า 130 จุด ทั่วทั้งมหาวิทยาลัย เพื่อบริการให้กับนิสิตและบุคลากร ตลอดจนบุคคลภายนอกที่เข้ามาติดต่อ เยี่ยมชม หรือใช้บริการหน่วยงานต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัย และประชาชนทั่วไปที่เข้ามาในพื้นที่ของมหาวิทยาลัย โดยจุดบริการน้ำดื่มนอกจากฟรีแล้ว แน่นอนว่ามหาวิทยาลัยมีการดูแลความสะอาด ปลอดภัย และมีการดูแลบำรุงรักษาตามมาตรฐานอย่างสม่ำเสมอ

ไอคอน PDPA

เราใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของคุณ (ตั้งค่า)

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

Accept All
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • Necessary cookies
    เปิดใช้งานตลอด

    Necessary cookies are essential for the functioning of the website, allowing you to use and browse the site normally. You cannot disable these cookies in our website's system.

  • คุกกี้วิเคราะห์เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน

    คุกกี้เหล่านี้ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ เช่น จำนวนผู้เข้าชม, หน้าเว็บที่ได้รับความนิยม และพฤติกรรมการท่องเว็บ ซึ่งช่วยให้เจ้าของเว็บไซต์ปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ได้

  • คุกกี้การทำงานเพื่อจดจำการตั้งค่าผู้ใช้

    คุกกี้เหล่านี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ โดยจดจำการตั้งค่าที่ผู้ใช้เคยกำหนดไว้ เช่น ชื่อผู้ใช้, ภาษา, ภูมิภาค หรือการปรับแต่งเว็บไซต์ตามความต้องการ

Save