เทคโนโลยีราไมคอร์ไรซาเพื่อการปลูกและฟื้นฟูป่าอย่างสร้างสรรค์และยั่งยืน
Image source: Ectomycorrhizal Reforestation Project in Thailand
จากการสำรวจในปี 2564 พบว่ามีพื้นป่าเพียง 31.59% ของพื้นที่ทั้งหมดในประเทศไทย สาเหตุหลักของการลดลงของผืนป่าเกิดจาก ไฟป่า การตัดไม้ทำลายป่าเพื่อการเกษตรและการลักลอบตัดไม้ นอกจากนี้พื้นป่าที่เหลืออยู่ก็อยู่ในสภาพวิกฤต สภาพอากาศที่แห้งแล้งหรือการลักลอบเผาป่าอย่างผิดกฎหมาย ทำให้เกิดไฟป่า ที่นอกจากจะทำให้ผืนป่าลดลงแล้ว การเกิดไฟป่ายังทำลายสุขภาพของประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณนั้น ตลอดรยะเวลาที่ผ่านมาการอนุรักษ์ป่าไม้ในประเทศไทยต้องต่อสู้กับความเชื่อที่ว่า การเผาป่าจะทำให้เกิดเห็ดที่ชาวบ้านสามารถนำไปสร้างรายได้ จึงทำให้มีการแอบเผาป่าอย่างผิดกฎหมายเพื่อนำเห็ดไปขาย การฟื้นฟูผืนป่าที่เสียหายจากการโดนเผานั้น มีความยากกว่าการฟื้นฟูป่าไม้ที่เกิดจากสาเหตุอื่น เนื่องจากจุลินทรีย์ สารอาหาร และความชื้น ในดินถูกทำลายไปด้วย
ผืนป่าที่ได้รับความเสียหายต้องได้รับการฟื้นฟู ขั้นตอนแรกที่สำคัญที่จะทำให้การฟื้นฟูผืนป่าสำเร็จนั้น คือการซ่อมแซมดิน นักวิจัยจากภาควิชาพฤกษศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ทดลองนำราไมคอร์ไรซา (Mycorrhiza) และจุลินทรีย์ในท้องถิ่นหลายชนิดมาผสมกับดินและพืชพื้นเมืองในพื้นที่ กลยุทธ์นี้ช่วยปลูกป่าต้นน้ำน่านและสระบุรี 3,000 ไร่ นอกจากนี้โครงการยังให้ความรู้และส่งเสริมการส่วนร่วมของชุมชนท้องถิ่นในการอนุรักษ์ผ่านการบรรยาย การฝึกภาคปฏิบัติ การใช้เทคโนโลยีราไมคอร์ไรซานอกจากจะช่วยในการฟื้นฟูป่าเป็นอย่างดีแล้ว ยังได้ผลพลอยได้เป็นเห็ดที่สามารถใช้เป็นอาหารและเพิ่มรายได้ให้แก่ชุมชน
ปัจจุบันโครงการราไมคอร์ไรซาในการฟื้นฟูผืนป่าได้รับการขยายเป็น 10 แห่งในประเทศไทยและ 1 แห่งในประเทศลาว โดยได้รับการสนับสนุนจาก Mushroom Initiative Limited ในฮ่องกง มูลนิธิอานันทมหิดลและกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โดยประสบความสำเร็จในฟื้นฟูป่าไม้ในสภาพเหมาะสมในแต่ละพื้นที่ นอกจากนี้ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยยังได้ร่วมมือกับกระทรวงกลาโหมและศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในการใช้เทคโนโลยีราไมคอร์ไรซาในการฟื้นฟูผืนป่า ซึ่งสามารถช่วยลดเวลาที่จะใช้ในการปลูกป่าลงจาก 40 ปี เป็น 30 ปี
การถ่ายทอดความรู้ด้านราไมคอร์ไรซา เพื่อการปลูกป่ามีความสำคัญต่อการบรรลุเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ซึ่งรวมถึงนโยบายความเป็นกลางทางคาร์บอนและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ร่วมกับหน่วยการต่างๆโครงการฝึกอบรม เช่น นวัตกรรมการเพาะราไมคอร์ไรซาในแบบจำลองธรรมชาติ จังหวัดสุรินทร์ และ การใช้ราไมคอร์ไรซาเพื่อส่งเสริมการปลูกป่าไทย ซึ่งสนับสนุนโดยมณฑลทหารบกที่ 38 และศูนย์เครือข่ายการเรียนรู้ภาค นอกจากนี้ ยังมีโครงปลูกป่าในพื้นที่อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน ที่นำโดยนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยได้รับการสนับสนุนจากกิจการนิสิต ภาควิชาพฤกษศาสตร์ องค์การบริหารส่วนตำบลสันทะ และมูลนิธิฟื้นฟูป่าในท้องถิ่น
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยร่วมกับองค์กรต่าง ๆ เพื่อช่วยฟื้นฟูผืนป่าโดยใช้เทคโนโลยีราไมคอร์ไรซา ความพยายามเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อฟื้นฟูพื้นที่สีเขียวที่เสียหาย ลดการลักลอบเผาป่าที่ผิดกฎหมาย และส่งเสริมการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืนระหว่างชาวบ้านกับป่า เทคโนโลยีนี้สามารถไปปรับใช้ในการฟื้นฟูผืนป่าที่ถูกทำลายทั่วโลก
ที่มา: คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
รายละเอียดที่เกี่ยวข้อง:
SDG ที่เกี่ยวข้อง
อื่นๆ
โครงการวิศวกรรมอาสาพัฒนาชนบท (ค่ายวิศวพัฒน์)
คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมด้วยคณาจารย์ผู้ทรงความรู้ ถือเป็นแหล่งบ่มเพาะองค์ความรู้ที่สำคัญทางการชลประทานที่พร้อมถ่ายทอดสู่นิสิตนำไปสู่การฝึกปฏิบัติจริงในการแก้ปัญหาด้านการจัดการน้ำให้กับชุมชนห่างไกล ผ่านค่ายวิศวพัฒน์ ซึ่งเป็นโครงการค่ายวิศวกรรมอาสาพัฒนาชนบทที่พร้อมปลูกฝังความเป็นผู้นำทั้งในด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมให้แก่นิสิตจิตอาสาที่เข้าร่วมค่าย ด้วยปัญหาความแห้งแล้ง ขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตร ของบ้านเชตวัน ตำบลสันทะ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน
เข้าใจชุมชนคนรักช้าง สู่สถาปัตยกรรมเพื่อช้าง Elephant World จังหวัดสุรินทร์
ความตั้งใจให้พื้นที่เป็นศูนย์อนุรักษ์ช้างที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นแหล่งศึกษาข้อมูลทางวิชาการ ผลักดันให้โลกของช้างเป็นแหล่งท่องเที่ยวเกี่ยวกับช้างแบบครบวงจร
โรงเรียนสาธิตการเลี้ยงสุกร
หากจะพยายามอธิบายความหมายของคำว่าการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือคำว่าความมั่นคงทางอาหารให้กับชาวบ้านที่อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน ก็อาจจะไม่สามารถจะเข้าใจได้เลยว่ามีความสำคัญอย่างไร จนกระทั่งได้รับมอบลูกหมูให้หนึ่งคู่