จุฬาฯ ต้าน COVID-19 ด้วยกลยุทธ์หลายมิติ; การวินิจฉัย การรักษา และการฉีดวัคซีน
ในช่วงวิกฤตโรคระบาด COVID-19 ทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้สนับสนุนงานวิจัย การบริการ และนวัตกรรมมากมายแก่สังคมเพื่อฟื้นคืนสถานการณ์ที่ตึงเครียด ซึ่งรวมถึงวิธีการวินิจฉัย แพลตฟอร์มออนไลน์ด้านการดูแลผู้ป่วย (วอร์ดเสมือน) และงานด้านศูนย์บริการวัคซีน
การตรวจวินิฉัย
COVID-19 เป็นโรคติดเชื้อที่ทำให้เกิดโรคระบบทางเดินหายใจ การตรวจพบว่า ติดเชื้อตั้งแต่ช่วงแรกๆ เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในการต่อสู้กับโรคนี้ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้พัฒนาวิธีตรวจโรค COVID-19 โดยใช้ความรู้ด้าน CRISPR-Cas12a ซึ่งการตรวจด้วยวิธีนี้สามารถตรวจจับโควิด สายพันธุ์ อัลฟ่า เบตา และเดลต้า รวมถึงสายพันธุ์โอไมครอน (สายพันธุ์ที่แยกได้ตอนต้นปี 2565) ได้ ทางผู้วิจัยได้ใช้น้ำลายในการสุมตรวจตัวอย่างน้ำลายของผู้ไม่มีอาการจำนวน 578 คนในการทดสอบการตรวจด้วยวิธีนี้ พบว่า มีความไว ความจำเพาะ และความแม่นยำถึง 96.86%



ศูนย์บริการวัคซีน
การฉีดวัคซีนเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการป้องกันการแพร่เชื้อ ประชาชนจำเป็นต้องมีภูมิต้านทานโรค COVID-19 เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรค จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้จัดตั้งศูนย์วัคซีนขึ้นมีวัตถุวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแหล่งบริการวัคซีนสำหรับนิสิต บุคลากร และประชาชนทั่วไปในชุมชนรอบๆ โดยเฉพาะผู้ที่ประกอบอาชีพแบบหาเช้ากินค่ำรวมถึงผู้อพยพและผู้ลี้ภัยที่ไม่มีโอกาสได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19ในระบบปกติ ตั้งแต่วันที่ 10 พฤษภาคม ถึง 30 ธันวาคม พ.ศ. 2565 ศูนย์บริการวัคซีนของจุฬาฯ ได้ฉีดวัคซีนให้กับประชาชน นิสิต และบุคคลากรเป็นจำนวน 190,725 โดส
[ https://www.chula.ac.th/news/51744/ ]
กล่องรอดตาย; หอพักผู้ป่วยเสมือน
Source: Thai PBS
[ https://www.youtube.com/watch?v=0-TxvgTtkk4 ]
COVID-19 เป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ อาการของโควิด-19 มีตั้งแต่ไม่มีอาการ แต่สามารถแพร่ชื้อได้ จนถึงอาหารหนักจนทำให้เสียชีวิต แต่อาการที่พบได้บ่อยที่สุดคือ มีไข้ ไอ และอ่อนเพลีย สำหรับผู้ป่วยที่มีอายุมากหรือมีโรคประจำตัวบางอย่าง มีแนวโน้มที่จะเจ็บป่วยรุนแรง COVID-19 เป็นโรคที่แพร่กระจายไปในอากาศ ผู้คนสามารถติดได้เมื่อหายใจเอาละอองหรืออนุภาคในอากาศขนาดเล็กที่มีไวรัสเข้าไป ในช่วงที่มีการระบาด โรงพยาบาล COVID-19 เต็มไปด้วยผู้ป่วยอาการหนัก ดังนั้น ผู้ป่วยที่มีอาการเล็กน้อยถึงปานกลางควรกักตัวที่บ้าน อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยบางรายที่มีอาการทางคลินิกเล็กน้อยถึงปานกลางในช่วงแรกก็มีโอกาสที่อาการจะพัฒนาเป็นอาการรุนแรงได้ในเวลาต่อมา ดังนั้น การตรวจติดตามสัญญาณชีพจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยกลุ่มนี้ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับ สมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ The Sharpener พัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลด้านการดูแลสุขภาพออนไลน์ ทำเป็นวอร์ดเสมือนสำหรับติดตามผู้ป่วยโควิด-19 โดยผู้ป่วยจะได้รับกล่องรอดตายซึ่งบรรจุอุปกรณ์สำหรับตรวจสัญญาณชีพและยาตามอาการ กล่องรอดตายจะถูกส่งไปยังผู้ป่วยที่บ้าน หลังจากที่ผู้ป่วยลงทะเบียนและแจ้งอาการในระบบ(ออนไลน์) ผู้ป่วยจะวัดสัญญาณชีพและบันทึกข้อมูลบนแพลตฟอร์มออนไลน์กล่องรอดตายกลับมา โดยจะมีอาสาสมัครที่ผ่านการฝึกอบรมมาช่วยดูแลสอบถามอาการผู้ป่วยและตรวจสอบค่าสัญญานชีพต่างๆ ในวอร์ดเสมือนจริง หากมีเหตุฉุกเฉินอาสาสมัครจะติดต่อประสานงานกับทางโรงพยาบาลเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยในทันที ตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม ถึง 4 กรกฎาคม 2565 กล่องรอดตายจำนวน 4,521 กล่อง ได้มอบให้กับนิสิต บุคลากร และนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ กล่องรอดตายจำนวน 5,900 กล่อง ได้มอบให้กับประชาชนทั่วไป ซึ่งรวมถึงผู้อพยพและผู้ลี้ภัย
[ https://www.chula.ac.th/highlight/48984/ ]
[ https://www.chula.ac.th/news/59175/ ]
ที่มา:
- คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- ศูนย์บริการสุขภาพแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- สมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์
Related articles:
อื่นๆ
จุฬาฯ ชู “แสมสารโมเดล” แก้ขยะล้นทะเลไทย
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดย “ภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะวิทยาศาสตร์” และ“สถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำ” เผยผลสำเร็จ “แสมสารโมเดล” นำร่องแก้ปัญหาขยะบนบกไหลลงทะเลชลบุรี ด้วยหลัก 3Rs ลดขยะพื้นที่แสมสารได้จริงกว่าร้อยละ 30 พร้อมขยายผลความสำเร็จจากชุมชนสู่ระดับชาติ
เรียนรู้โลกกว้างผ่านแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิต พิพิธภัณฑ์และหอศิลป์จุฬาฯ เปิดชมฟรีตลอดปี
จุฬาฯ เปิดพื้นที่ให้เป็นแหล่งเรียนรู้เชิงวิชาการและการอนุรักษ์ผ่านการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์และหอศิลป์ซึ่งมีทั้งส่วนที่อยู่ภายในกำกับของส่วนกลางมหาวิทยาลัยและอยู่ในส่วนความรับผิดชอบของหลายคณะ รวมมากถึง 23 แห่ง
จุฬาฯ หวังเพิ่มประชากรเต่าทะเล หนุนตั้งเครือข่ายคุ้มครองแหล่งวางไข่ในอ่าวไทย
จำนวนเต่าทะเลในประเทศไทยลดลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2513 แม้รัฐบาลจะประกาศใช้กฎหมาย กำหนดเขตหวงห้าม ประกาศขึ้นทะเบียนเต่าทะเลในบัญชีรายชื่อของอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งพันธุ์พืชป่าและสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) และพยายามสำรวจและศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งอาศัยของเต่าทะเล เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ในการอนุรักษ์เต่าทะเลก็ตาม แต่จำนวนของเต่าทะเลในประเทศไทยยังคงลดลงจนใกล้ถึงจุดวิกฤต จากจำนวนมากกว่า 2,500 รังต่อปี เมื่อ 50 ปีที่แล้ว ปัจจุบันเหลือเพียงปีละ 300-400 รังต่อปี เท่านั้น
จังหวัดชลบุรีมั่นใจ ศูนย์เรียนรู้ธนาคารปูม้าเกาะสีชังอุ้มประมงชายฝั่งยั่งยืนทุกมิติ
วัตถุประสงค์หลักเพื่อพัฒนาองค์ความรู้และเทคโนโลยีการเพาะพันธุ์ปูม้าแบบฟาร์มบนบก ช่วยเพิ่มอัตราการรอดของลูกพันธุ์ปูม้าจากการสลัดไข่ของแม่ปูม้า ซึ่งกลุ่มชาวประมงเรือเล็กหรือชาวประมงพื้นบ้านจะนำแม่ปูม้าที่มีไข่ติดกระดองมาฝากไว้ที่ศูนย์เรียนรู้ธนาคารปูม้าบนบกเพื่อให้ไข่ฟักตัวเป็นลูกปูม้าวัยอ่อนแทนที่จะนำออกขายทันที