Ensure healthy lives and promote well-being for all at all ages.
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างสภาพแวดล้อมที่เท่าเทียมและเอื้อต่อการเรียนรู้ของทุกคน โดยเฉพาะกลุ่มผู้ที่มีภาวะทุพพลภาพหรือความต้องการพิเศษ มหาวิทยาลัยได้กำหนดนโยบายและมาตรการด้านการเข้าถึงและการสนับสนุนที่ชัดเจน เพื่อให้ทุกคนในรั้วจุฬาฯ สามารถใช้ชีวิต เรียนรู้ และทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพ
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยให้ความสำคัญกับการขยายผลองค์ความรู้จากมหาวิทยาลัยสู่พื้นที่ชุมชนและสังคมภายนอกมหาวิทยาลัย ผ่านโครงการหรือกิจกรรมหรือหลักสูตรการถ่ายทอดความรู้เชิงรุก ทั้งแบบ ad-hoc and programmed เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนและสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างยั่งยืน
ด้วยความมุ่งมั่นให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิตสาธารณะที่ทุกคนสามารถเข้าถึงกิจกรรมเหล่านี้ได้ โดยไม่คำนึงถึงเชื้อชาติ ศาสนา ความทุพพลภาพ หรือเพศ จึงได้ดำเนินการจัดโครงการและกิจกรรมสาธารณะด้านวิชาการ การถ่ายทอดความรู้ และการฝึกอบรมสายอาชีพสำหรับประชาชนอย่างสม่ำเสมอตลอดทั้งปี
ในยุคที่โลกกำลังเผชิญวิกฤตด้านสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ การมีส่วนร่วมของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในกระบวนการพัฒนาและกำหนดนโยบาย ด้านความยั่งยืน ของหน่วยงานภาครัฐ หรือ องค์กรนอกภาครัฐระดับภูมิภาค ไม่ใช่เพียงบทบาททางวิชาการหรือวิจัย แต่ยังรวมถึงบทบาทเชิงยุทธศาสตร์ในฐานะผู้ร่วมให้ข้อคิดเห็นชี้ปัญหาและวิเคราะห์ความท้าทาย การร่วมพัฒนายุทธศาสตร์และนโยบาย การจำลองสถานการณ์อนาคต การติดตามและประเมินผลการดำเนินงาน ไปจนถึงการสนับสนุนการบริหารเชิงปรับตัว
ในยุคที่โลกเผชิญกับความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลที่ซับซ้อนมากขึ้นทุกขณะ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ก้าวขึ้นมาเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง มหาวิทยาลัยได้ขยายบทบาทของตนออกไปมากกว่าในระดับประเทศ ผ่านความร่วมมือระดับนานาชาติในการรวบรวมและวัดผลข้อมูลตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อสนับสนุนการกำหนดนโยบายในระดับโลก โดยมีหลักฐานเชิงข้อมูลรองรับ และส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืนอย่างครอบคลุมทุกมิติ
ในโลกที่เต็มไปด้วยความท้าทายด้านสุขภาพ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยยืนหยัดเป็นประภาคารแห่งความหวัง ด้วยการทุ่มเทขับเคลื่อน เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG) ข้อที่ 3 ขององค์การสหประชาชาติ—สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของทุกคน ผ่านเครือข่ายความร่วมมือที่ทอดยาวจากชุมชนท้องถิ่นสู่เวทีโลก
ในปัจจุบันการการดูแลสุขภาพกายและสุขภาพจิตเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมทางการศึกษา ด้วยความตระหนักถึงความสำคัญนี้ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นหนึ่งในสถาบันการศึกษาชั้นนำของประเทศไทย ได้ดำเนินมาตรการที่ครอบคลุมเพื่อให้บริการและดูแลด้านสุขภาพทางกายและการสนับสนุนดูแลด้านสุขภาพทางจิตใจแก่นิสิตและบุคลากรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ
ในยุคที่โลกกำลังเผชิญสภาวะวิกฤตสภาพภูมิอากาศ การผลักดันให้เกิดนโยบายพลังงานสะอาด และเทคโนโลยีประหยัดพลังงาน กลายเป็นภารกิจสำคัญของรัฐและสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในฐานะสถาบันการศึกษาที่มีหน่วยงานที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในศาสตร์นี้ จึงได้เข้ามีส่วนร่วมในการแสดงบทบาทและให้ความร่วมมือในฐานะแหล่งข้อมูลสนับสนุนการพัฒนานโยบายเกี่ยวกับพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีด้านการส่งเสริมประสิทธิภาพทางพลังงานให้กับทั้งหน่วยงานของภาครัฐ รวมไปถึงหน่วยงานภาคเอกชนด้วย
ศูนย์กลางนวัตกรรมแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 มุ่งหวังให้เป็นหน่วยงานในการสนับสนุนและเร่งสร้าง Start-ups ที่มีคุณภาพ ตอบสนองนโยบาย Thailand 4.0 และเพื่อพัฒนากำลังคนที่มีทักษะและความสามารถในการคิดเชิงนวัตกรรม รวมทั้งการเป็นศูนย์กลางการสร้างนวัตกรรมที่ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคม โดยเชื่อมโยงงานวิจัย เทคโนโลยี สิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญา และการบ่มเพาะธุรกิจ Startup สู่ตลาดจริง
ในปัจจุบันการการดูแลสุขภาพกายและสุขภาพจิตเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมทางการศึกษา ด้วยความตระหนักถึงความสำคัญนี้ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นหนึ่งในสถาบันการศึกษาชั้นนำของประเทศไทย ได้ดำเนินมาตรการที่ครอบคลุมเพื่อให้บริการด้านสุขภาพกายและการสนับสนุนด้านสุขภาพจิตแก่บุคลากรและนิสิตของมหาวิทยาลัย
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยให้ความสำคัญกับนิสิตในฐานะผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลักของมหาวิทยาลัย โดยมุ่งเน้นให้นิสิตมีบทบาทในการดูแลสิทธิและความเป็นอยู่ของตนเอง เพื่อให้เสียงของนิสิตได้รับการรับฟังและสามารถมีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางที่เกี่ยวข้องกับชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยจึงเปิดโอกาสให้นิสิตเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของคณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัยในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับนิสิตโดยตรง
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยตระหนักและให้ความสำคัญกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืนเป็นอย่างมาก เห็นได้จากการกำหนดเป็นยุทธศาสตร์ด้านหนึ่งของมหาวิทยาลัย คือ ยุทธศาสตร์ Impactful Growth และมีการสื่อสารถ่ายทอดยุทธศาสตร์นี้ลงไปยังหน่วยงานระดับต่าง ๆ ภายในมหาวิทยาลัย รวมทั้งการกำหนดให้เป็นหนึ่งใน OKR หลักของมหาวิทยาลัยด้วย
Necessary cookies are essential for the functioning of the website, allowing you to use and browse the site normally. You cannot disable these cookies in our website's system.
คุกกี้เหล่านี้ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ เช่น จำนวนผู้เข้าชม, หน้าเว็บที่ได้รับความนิยม และพฤติกรรมการท่องเว็บ ซึ่งช่วยให้เจ้าของเว็บไซต์ปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ได้
คุกกี้เหล่านี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ โดยจดจำการตั้งค่าที่ผู้ใช้เคยกำหนดไว้ เช่น ชื่อผู้ใช้, ภาษา, ภูมิภาค หรือการปรับแต่งเว็บไซต์ตามความต้องการ