จุฬาฯ ส่งเสริมการใช้น้ำอย่างรู้คุณค่าในรั้วมหาวิทยาลัย
Photo by David Becker on Unsplash
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนภายในมหาวิทยาลัย ภายใต้แนวคิด “การใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า” (Conscious Water Usage) เพื่อสร้างความตระหนักรู้และปลูกฝังพฤติกรรมอนุรักษ์น้ำให้กับนิสิต คณาจารย์ และบุคลากรของจุฬาฯ รวมถึงผู้ที่เข้ามาใช้พื้นที่ของมหาวิทยาลัยทุกกลุ่ม มหาวิทยาลัยได้ดำเนินโครงการและกิจกรรมส่งเสริมการใช้น้ำอย่างรู้คุณค่าต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น การบำบัดน้ำเสียจากการอุปโภค บริโภคและนำกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ การปรับปรุงสุขภัณฑ์ประหยัดน้ำ และการจัดกิจกรรมรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการใช้ทรัพยากรน้ำอย่างคุ้มค่าและรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งเพื่อให้การอนุรักษ์น้ำกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมองค์กรและวิถีชีวิตในรั้วจุฬาฯ อย่างแท้จริง นำไปสู่การเป็นมหาวิทยาลัยต้นแบบด้านการใช้น้ำอย่างยั่งยืนในประเทศไทย
จุฬาฯ ดำเนินการส่งเสริมในเรื่องการใช้น้ำอย่างรู้คุณค่าภายในมหาวิทยาลัย ตั้งแต่ในระดับผู้บริหารโดยได้มีการกำหนดและเผยแพร่ “นโยบายการจัดการและส่งเสริมการอนุรักษ์การใช้น้ำและสุขาภิบาลอย่างยั่งยืนจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” เพื่อให้นิสิต คณาจารย์ และบุคลากรทุกหน่วยงานในมหาวิทยาลัยใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติในเรื่อง การสนับสนุนการจัดการน้ำและสุขาภิบาลภายในจุฬาฯ การใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ การจัดการน้ำเสียอย่างมีมาตรฐาน รวมทั้งการสร้างเสริมจิตสำนึกและพฤติกรรมในการใช้น้ำอย่างรู้คุณค่าและยั่งยืน
นโยบายการจัดการและส่งเสริมการอนุรักษ์การใช้น้ำและสุขาภิบาลอย่างยั่งยืน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ในระดับการปฏิบัติ จุฬาฯ ได้ดำเนินโครงการและกิจกรรมส่งเสริมการใช้น้ำอย่างมีสติและรู้คุณค่าที่มุ่งเป้าไปที่นิสิต คณาจารย์ และบุคลากร หลายรูปแบบ เช่น
1. การปรับปรุงและปรับเปลี่ยนสุขภัณฑ์ประหยัดน้ำ
สำนักบริหารระบบกายภาพ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นหน่วยงานส่วนกลางของมหาวิทยาลัยที่รับผิดชอบด้านอาคาร สถานที่ และพื้นที่ทางกายภาพทั้งหมดของมหาวิทยาลัย ได้ดำเนินการปรับเปลี่ยนก๊อกน้ำในห้องน้ำให้เป็นระบบเซนเซอร์ปล่อยน้ำแบบอัตโนมัติ เพื่อช่วยลดการกดน้ำในแต่ละครั้ง และช่วยในเรื่องการลืมปิดน้ำหลังจากการใช้งานเพื่อเป็นการช่วยประหยัดน้ำ นอกจากนี้ยังได้ดำเนินการปรับเปลี่ยนสุขภัณฑ์ภายในอาคารในความรับผิดชอบทั้งหมดให้เป็นแบบช่วยประหยัดน้ำ
2. การติดป้ายรณรงค์และกิจกรรมส่งเสริมการประหยัดน้ำและการใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า
สำนักบริหารระบบกายภาพ จุฬาฯ ได้จัดทำและติดแผ่นป้ายรณรงค์การประหยัดน้ำ ภายในอาคารในความรับผิดชอบในบริเวณพื้นที่ที่มีการใช้น้ำ เช่น ภายในห้องน้ำ ห้องครัว และห้องซักล้าง เพื่อส่งเสริมสร้างความตระหนักถึงความสำคัญและรู้จักใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า เพื่อเป็นการสื่อสารสร้างความตระหนักให้แก่นิสิต คณาจารย์ และบุคลากรของจุฬาฯ รวมทั้งบุคคลทั่วไปจากภายนอกที่เข้ามาใช้บริการในพื้นที่ข้างต้นของมหาวิทยาลัย
นอกจากนี้ สำนักบริหารระบบกายภาพ ยังได้ขอความร่วมมือไปยังคณะและหน่วยงานต่าง ๆ ของจุฬาฯ ในการติดแผ่นป้ายรณรงค์การประหยัดน้ำ ในบริเวณพื้นที่ที่มีการใช้น้ำของคณะและหน่วยงานด้วย
ห้องครัว อาคารจามจุรี 5 จุฬาฯ
คณะพยาบาลศาสตร์ จุฬาฯ ได้มีการจัดกิจกรรม “ส่งเสริมความตระหนักและใช้พลังงานอย่างประหยัดและคุ้มค่า” ภายใต้โครงการ Green Office ประจำปีงบประมาณ 2568 ให้กับนิสิต คณาจารย์ และบุคลากรของคณะ ซึ่งภายในกิจกรรมประกอบไปด้วย
- ดำเนินการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์โปสเตอร์รณรงค์การประหยัดน้ำ-ประหยัดไฟฟ้า ผ่านไลน์ของอาจารย์และบุคลากรของคณะ
- ติดสติกเกอร์และข้อความรณรงค์ประหยัดน้ำ ในห้องน้ำชาย-หญิง
- ปรับเปลี่ยนใช้ก๊อกน้ำอัตโนมัติบางส่วนร่วมกับก๊อกน้ำปกติ
ห้องน้ำ คณะพยาบาลศาสตร์ จุฬาฯ
สำหรับสำนักงานหอพักนิสิต จุฬาฯ และ คณะกรรมการนิสิตหอพักจุฬาฯได้ร่วมกันจัดทำและติดแผ่นป้ายรณรงค์ช่วยกันปิดน้ำ-ปิดไฟฟ้า ในพื้นที่ส่วนกลางและห้องน้ำรวม รวมถึงห้องส่วนตัวเมื่อไม่ใช้งาน ภายในหอพักนิสิต จุฬาฯ พร้อมทั้งจัดกิจกรรมเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ ให้ความรู้และขอความร่วมมือนิสิตที่พักอาศัยในหอพักนิสิต จุฬาฯ ช่วยกันปิดน้ำ-ปิดไฟ เมื่อไม่ได้ใช้ เพื่อเป็นการช่วยสร้างความตระหนักและจิตสำนึกให้แก่นิสิตของจุฬาฯ ในการช่วยประหยัดการใช้พลังงาน ลดการปล่อยมลพิษ ลดผลกระทบจากภาวะโลกร้อน และช่วยทำให้ค่าน้ำ-ค่าไฟฟ้าลดลง [ https://rcuchula.com/rcu_web/index.php ]

3. โครงการการนำน้ำกลับมาใช้ซ้ำ
จุฬาฯ โดย สำนักบริหารระบบกายภาพและสำนักงานจัดการทรัพย์สิน ดำเนินการนำน้ำทิ้งหรือน้ำเสียจากการอุปโภคบริโภค มาบำบัดและนำกลับมาใช้ใหม่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ภายในบริเวณพื้นที่สวนหลวง-สามย่าน โดยเฉพาะในส่วนที่ไม่ได้มีความต้องการน้ำที่มีคุณภาพระดับน้ำบริโภค แทนการใช้น้ำประปาทั้งหมดในการเติมน้ำเพื่อรักษาระดับน้ำในสระและรดน้ำต้นไม้สำหรับอุทยาน 100 ปี จุฬาฯ รวมทั้งรดน้ำต้นไม้ภายในพื้นที่ของมหาวิทยาลัย ซึ่งการดำเนินการนำน้ำเสียจากการใช้น้ำของผู้ที่อาศัยภายในอาคาร CU TERRACE และ CU i HOUSE กลับมาผ่านกระบวนการบำบัดน้ำเสีย และนำมาใช้ประโยชน์ในการรดน้ำต้นไม้ ช่วยประหยัดการใช้น้ำใหม่ได้ถึงปีละ 55 ล้านลิตร และสามารถประหยัดค่าน้ำได้ปีละประมาณ 150,000 บาท อีกทั้งยังช่วยให้ต้นไม้และพืชพรรณนานาชนิดได้เติบโตเป็นปอดของชุมชนอย่างยั่งยืนต่อไป


[ https://pmcu.co.th/samyan-smart-city/ ]

[ http://www.green.chula.ac.th/index.php/water/water-recycling-project/ ]
4. การปลูกพืชและจัดภูมิทัศน์ด้วยพันธุ์ไม้พื้นเมืองทนแล้ง เพื่อประหยัดน้ำในการดูแลรักษา
สำนักบริหารระบบกายภาพดำเนินการปรับปรุงสภาพแวดล้อม ภูมิทัศน์ และการเพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในจุฬาฯ โดยเลือกพันธุ์ไม้พื้นเมืองท้องถิ่นในการนำมาปลูกเพิ่มเติมจากต้นไม้ที่มีอยู่แล้วดั้งเดิมภายในพื้นที่และในการปรับปรุงภูมิทัศน์ใหม่ เนื่องจากพันธุ์ไม้พื้นเมืองท้องถิ่นจะทนทานต่อสภาพภูมิอากาศของประเทศไทยที่ค่อนข้างแล้ง ต้องการน้ำที่น้อย จึงเป็นการช่วยลดและประหยัดการใช้น้ำประปาของมหาวิทยาลัยที่ต้องนำไปรดน้ำต้นไม้ได้ อีกทั้งพันธุ์ไม้พื้นเมืองท้องถิ่นยังง่ายต่อการดูแลรักษาและช่วยรักษาระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพในท้องถิ่นได้อย่างเหมาะสม เช่น การจัดภูมิทัศน์บริเวณอาคารธรรมสถาน จุฬาฯ ที่ในบริเวณด้านหน้าอาคารปลูกต้นมะขาม และต้นประดู่ ส่วนบริเวณด้านหลังปลูกเป็นต้นไทร
[ http://www.sustainability.chula.ac.th/th/report/3681/ ]

อาคารธรรมสถาน จุฬาฯ
จากการดำเนินงานทั้งหมดนี้ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้แสดงให้เห็นถึงการขับเคลื่อนอย่างเป็นระบบในการ “ส่งเสริมการใช้น้ำอย่างรู้คุณค่าในรั้วมหาวิทยาลัย” ทั้งในเชิงนโยบาย โครงสร้างพื้นฐาน และการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในมหาวิทยาลัย อันเป็นแบบอย่างของสถาบันอุดมศึกษาที่มุ่งมั่นสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน
ที่มา:
- สำนักบริหารระบบกายภาพ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- สำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- สำนักงานหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- คณะพยาบาลศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

SDG ที่เกี่ยวข้อง
อื่นๆ
“อาคารเขียว” กับ การพัฒนาอาคารใหม่อย่างยั่งยืนของจุฬาฯ
การพัฒนาพื้นที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มุ่งเน้นความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม คำนึงถึงบริบทการเปลี่ยนแปลงที่เป็นปัจจุบันที่มีความสำคัญในหลากหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริบทที่มีความเกี่ยวข้องกับความตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก (Climate change) ซึ่งมีผลมาจากกิจกรรมหรือการใช้ทรัพยากรที่เกิดขึ้นในแง่มุมต่างๆ โดยเฉพาะด้านการพัฒนาทางกายภาพภายในพื้นที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
“MindSpace” แพลตฟอร์มออนไลน์ใหม่แก้ปัญหาสุขภาพจิตนิสิต
ปัจจุบัน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีนิสิตทุกระดับที่กำลังศึกษาอยู่ ราว 37,000 คน นิสิตจำเป็นต้องเรียนออนไลน์ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และได้รับผลกระทบในหลายมิติโดยเฉพาะด้านสภาพจิตใจ Chula Student Wellness Center จึงสำรวจภาวะสุขภาพจิตของนิสิตในปีการศึกษาล่าสุด พบว่า ร้อยละ 15 ของนิสิตทั้งหมดหรือประมาณ 5,550 คน ต้องการความช่วยเหลือจากนักจิตวิทยาและจิตแพทย์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกับมาตรฐานคุณภาพน้ำและแนวทางการจัดการน้ำอย่างยั่งยืน
การส่งเสริมการจัดการสิ่งแวดล้อมและน้ำอย่างยั่งยืน เพื่อการอนุรักษ์และรักษาทรัพยากรน้ำให้มีคุณภาพที่ดี เป็นการปกป้องสุขภาพที่ดีให้กับมนุษย์ รวมไปถึงเป็นการปกป้องระบบนิเวศของพืชและสัตว์ที่ต้องอาศัยน้ำเพื่อการดำรงชีวิต ซึ่งถือเป็นประเด็นสำคัญอีกประการหนึ่งที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อมุ่งสู่การเป็นมหาวิทยาลัยแห่งความยั่งยืน และช่วยส่งเสริมสังคมโลกให้บรรลุตามเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ ทั้ง 17 เป้าหมาย
เปิดเคล็ดลับความสำเร็จ จุฬาฯ สมาร์ทซิตี้ ชวนดูคาระวาน Smart Mobility
จุฬาฯ ขับเคลื่อนโครงการ “จุฬาฯ สมาร์ทซิตี้” (Chula Smart City) ผ่าน “SMART 4” นำนวัตกรรมอัจฉริยะ 4 มิติ ได้แก่ Smart Living, Smart Energy, Smart Environment และ Smart Mobility รองรับไลฟ์สไตล์ใหม่ให้ประชาคมจุฬาฯ กว่า 50,000 คน ที่ใช้ชีวิตบนพื้นที่กว่า 1.5 พันไร่ ใจกลางกรุงเทพฯ พร้อมสร้างคุณค่าต่อยอดให้ชุมชนและสังคม ชูจุดเด่นยานยนต์หลากรูปแบบตอบโจทย์ SMART MOBILITY











