โครงการและกิจกรรมเพื่อสังคมของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย: การส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีให้กับชุมชน 2567-2568
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมุ่งมั่นในการส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนในทุกมิติ ผ่านการดำเนิน กิจกรรมและโครงการบริการวิชาการเพื่อชุมชนอย่างต่อเนื่อง โดยบูรณาการองค์ความรู้จากหลากหลายสาขา ทั้งด้านสาธารณสุข การแพทย์ พยาบาลศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ วิทยาศาสตร์การกีฬา โภชนาการ และสังคมศาสตร์ เพื่อสร้างเสริมสุขภาวะกาย ใจ และสังคมของประชาชนอย่างยั่งยืน
โครงการเหล่านี้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายใน ชุมชนท้องถิ่นโดยรอบมหาวิทยาลัยและพื้นที่ห่างไกล รวมถึง กลุ่มผู้ด้อยโอกาส ผู้สูงอายุ ผู้มีปัญหาด้านรายได้ หรือสุขภาพเรื้อรัง ตลอดจน ผู้อพยพและผู้ลี้ภัยในพื้นที่ใกล้เคียง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมสุขภาพในประเด็นสำคัญ เช่น สุขอนามัย โภชนาการ การวางแผนครอบครัว การออกกำลังกาย กีฬา สุขภาพจิต และการดูแลผู้สูงอายุให้มีสุขภาวะที่ดี
จุฬาฯ ยังสนับสนุนให้นิสิต คณาจารย์ และบุคลากรมีส่วนร่วมในกิจกรรมอาสาและโครงการบริการวิชาการ เพื่อขยายผลความรู้จากห้องเรียนสู่ชุมชน และร่วมสร้างสังคมสุขภาวะที่เข้มแข็งอย่างยั่งยืน
ตัวอย่างโครงการและการดำเนินงานในช่วงปี 2567-2568
โครงการบริการสุขภาพผู้สูงวัยในบ้านพักคนชรา วันที่ 8 – 29 มีนาคม 2567
คณะสหเวชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ดำเนินโครงการดังกล่าว ณ มูลนิธิวัยวัฒนานิวาส สถานสงเคราะห์คนชรา จ.สมุทรปราการ และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ตำบลท้ายบ้าน จ.สมุทรปราการ โครงการนี้มุ่งเน้นการให้บริการตรวจสุขภาพที่ครอบคลุมและทั่วถึงแก่ผู้สูงอายุในสถานสงเคราะห์ โดยเพิ่มการตรวจเลือดควบคู่กับการตรวจปัสสาวะที่มีความละเอียดมากขึ้น เน้นการตรวจไมโครอัลบูมินในปัสสาวะ ซึ่งเป็นการนำผลการวิจัยของคณะสหเวชศาสตร์จุฬาฯมาประยุกต์ใช้ในการดูแลสุขภาพผู้สูงวัยให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
โครงการนี้เป็นหนึ่งในกิจกรรมการให้บริการวิชาการแก่สังคมและชุมชนซึ่งเป็นพันธกิจสำคัญของคณะสหเวชศาสตร์ จุฬาฯ ที่ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ในสถานสงเคราะห์และบ้านพักคนชรา ที่ซึ่งผู้สูงวัยอาจไม่ได้รับการดูแลสุขภาพที่ทั่วถึงทุกคน การที่ผู้สูงอายุได้รับการตรวจเลือดและปัสสาวะจะช่วยในการวินิจฉัยโรคที่อาจเกิดขึ้นได้ในผู้สูงอายุ เพื่อจะได้ป้องกันและรักษาโรคต่อไป
นอกจากนี้โครงการนี้ยังเป็นประโยชน์ต่อนิสิตที่ร่วมโครงการ เป็นการบูรณาการด้านการเรียนการสอนกับการวิจัย ทำให้นิสิตได้สัมผัสประสบการณ์จริงในวิชาชีพ ได้เรียนรู้และเห็นปัญหาของชุมชน เพื่อส่งเสริมจิตสำนึกในการช่วยเหลือสังคมและพัฒนาอย่างยั่งยืนในด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของสังคมไทย
โครงการนี้ได้เสียงตอบรับที่ดีจากผู้สูงวัยที่เข้าร่วมโครงการ โดยมีผลการประเมินความพึงพอใจของผู้รับบริการสูงถึง 97.8%
กิจกรรมตรวจวัดสุขภาพชุมชนรอบจุฬาฯ วันที่ 25 มีนาคม 2567
สำนักงานจัดการทรัพย์สินจุฬาฯ (PMCU) ร่วมกับโครงการนวัตกรรมชุมชน “บ้านสุขภาพจุฬาฯ” โดยวิทยาลัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข จัดกิจกรรมตรวจวัดสุขภาพเบื้องต้น ได้แก่ การวัดความดันโลหิต วัดอัตราการเต้นของหัวใจ ความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อแขนขา ให้แก่ผู้ประกอบการ ผู้ใช้บริการภายในตลาดสามย่าน ชุมชนรอบจุฬาฯ และประชาชนทั่วไป ช่วยให้ประชาชนได้รับโอกาสการตรวจคัดกรองสุขภาพเบื้องต้น โดยเฉพาะผู้ที่อาจไม่ได้เข้าถึงการตรวจสุขภาพบ่อยครั้ง ซึ่งมีประโยชน์ในการตรวจพบปัญหาสุขภาพตั้งแต่ระยะเริ่มต้น
การจัดกิจกรรมนี้อย่างต่อเนื่องไม่ได้เป็นเพียงการช่วยส่งเสริมและพัฒนาสุขภาพในระยะสั้นเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างความตระหนักด้านสุขภาพของคนในพื้นที่ชุมชนโดยรอบจุฬาฯ ช่วยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ลดความเสี่ยงจากโรคเรื้อรัง เช่น ความดันโลหิตสูงหรือโรคหัวใจ
[ https://pmcu.co.th/news/28920/ ]
โครงการ “คัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่และมะเร็งตับสำหรับประชาชน” วันที่ 12-13 กรกฎาคม 2568
เป็นส่วนหนึ่งของ โครงการบริการทางสาธารณสุขเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเนื่องในโอกาสที่ทรงเจริญพระชนมายุ 70 พรรษา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ตระหนักและให้ความสำคัญในการพัฒนาโครงการ กิจกรรมด้านสาธารณสุขเพื่อชุมชน และสังคมมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมให้การสนับสนุนเพื่อผลักดันให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดี
และในการนี้ได้ประสานความร่วมมือกับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทยและคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โรงพยาบาลศิริราชและรามาธิบดี และเครือข่ายพันธมิตรของหน่วยงานสาธารณสุข จังหวัดอุทัยธานี และพื้นที่ใกล้เคียง จัดโครงการ “คัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่และมะเร็งตับสำหรับประชาชน” ณ โรงพยาบาลจังหวัดอุทัยธานี เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี ส่งเสริมสุขภาวะของผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส ผู้อพยพ และผู้ลี้ภัยและประชาชนในชุมชน จังหวัดอุทัยธานี และจังหวัดใกล้เคียงให้ได้มีโอกาสรับการดูแลรักษาจากสถานพยาบาลที่มีประสิทธิภาพ ให้บริการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ และลำไส้ตรงด้วยการส่องกล้อง โดยวิธี Colonoscopy และตรวจมะเร็งตับ ไขมันเกาะตับและภาวะตับแข็งด้วยเครื่องอัลตราซาวด์ช่องท้องและเครื่องตรวจพังผืด Fibro Scan ให้กับประชาชนในจังหวัดอุทัยธานีและรายรอบ ซึ่งเป็นการป้องกันโรคก่อนเกิดโรค เพื่อลดอัตราการเสียชีวิตอำเภอต่างๆ ในจังหวัดอุทัยธานี และรายรอบ มีจำนวนผู้ป่วยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และมะเร็งตับเพิ่มขึ้นทุกปี โดย ผลการดำเนินงานในช่วงสองวัน มีผู้สูงอายุ และกลุ่มเสี่ยง เข้ารับบริการถึง 140 ราย โดยได้ตรวจพบมะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะเริ่มต้นสองราย ซึ่งสามารถรับการผ่าตัดรักษาต่อให้หายขาดได้ และพบผู้ป่วยที่มีติ่งเนื้อก่อนเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ประมาณ 100 ราย โดยสามารถทำการรักษาด้วยการตัดติ่งเนื้อระหว่างทำหัตถการ ในช่วงการให้บริการซึ่ง เป็นการลดความเสี่ยงและลดขั้นตอนที่ผู้ป่วยจะต้องไปรอรับการบริการตามระบบปกติซึ่งใช้เวลามาก
โครงการนี้จึงเป็นโครงการที่ดีที่ทำให้ประชาชนที่มีอัตราเสี่ยงสูงได้เข้าถึงการบริการมีการคัดกรองได้รวดเร็วขึ้นเพื่อเป็นการลดอัตราการป่วยจากโรคมะเร็งในผู้ที่มีความเสี่ยงสูงสำหรับโรคมะเร็งลำไล้ใหญ่และอีกส่วนหนึ่งผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงมีภาวะพังพืดในตับ ด้วยเครื่องตรวจพังผืด Fibro Scan โดยกลุ่มนี้มีความเสี่ยงไปสู่มะเร็งตับ โดยได้คัดเลือกผู้ป่วย กลุ่มเสี่ยงต่อการเกิดภาวะตับแข็ง โดย ได้ทำการ คัดกรองจำนวน 200 คน
โดยสรุปโครงการในครั้งนี้ นับว่าเกิดประโยชน์อย่างมากสำหรับประชาชนชาวจังหวัดอุทัยธานี และจังหวัดรายรอบ
อนึ่ง โครงการนี้ถือว่าเป็นโครงการ เฉลิมพระเกียรติร่วมระหว่าง 3 สถาบัน อันได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดลและสภากาชาดไทย เป็นครั้งแรก”
คณะสหเวชศาสตร์ จุฬาฯ ผนึกพลัง 4 วิชาชีพ เสริมสร้างสุขภาพชุมชนอย่างยั่งยืน วันที่ 20 กรกฎาคม 2568

คณะสหเวชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เดินหน้าขับเคลื่อนการพัฒนาสุขภาพชุมชน ผ่านโครงการ “สหเวชศาสตร์เสริมสร้างสุขภาพชุมชนบ้านครัวแบบบูรณาการและยั่งยืน” ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากโครงการขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืนของจุฬาฯ
ภายในงานมีการบูรณาการความร่วมมือจาก 4 สาขาวิชาชีพหลัก ได้แก่ กายภาพบำบัด เทคนิคการแพทย์ โภชนาการและการกำหนดอาหาร และรังสีเทคนิคและฟิสิกส์ทางการแพทย์ รวมกับหลายภาคีเครือข่าย เช่น คณะพยาบาลศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ศูนย์บริการสาธารณสุข 2 วัดมักกะสัน กรุงเทพมหานคร และหลักสูตรเสริมสร้างสังคมสันติสุข รุ่นที่ 15 สถาบันพระปกเกล้าบริการตรวจสุขภาพฟรี พร้อมกิจกรรมให้ความรู้จาก 4 สาขาวิชาชีพ ได้แก่
- สาขาเทคนิคการแพทย์ – การตรวจเลือดเพื่อประเมินสุขภาพ, ตรวจหาเลือดแฝงในอุจจาระ (มะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะต้น), ตรวจภาวะติดเชื้อไข้เลือดออก
- สาขากายภาพบำบัด – การประเมินสมรรถภาพทางกาย ประกอบด้วย ตรวจความยืดหยุ่นร่างกาย, ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ, การทรงตัว, ความทนทานของระบบหัวใจ พร้อมสาธิตท่าออกกำลังกายที่เหมาะสม
- สาขารังสีเทคนิค – ตรวจวัดความหนาแน่นของกระดูกบริเวณส้นเท้าด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง, ให้ความรู้เกี่ยวกับโรคกระดูกพรุน และการตรวจวินิจฉัยทางรังสี
- สาขาโภชนาการและการกำหนดอาหาร – ตรวจองค์ประกอบร่างกาย, ให้คำปรึกษาและคำแนะนำด้านโภชนาการเฉพาะบุคคล
- คณะพยาบาลศาสตร์ – บริการตรวจคัดกรองสุขภาพเบื้องต้น และกิจกรรม care จิต care ใจ
โดยให้บริการตรวจคัดกรองประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่ครอบคลุม ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส ผู้อพยพ และผู้ลี้ภัยที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชุมชนและบริเวณโดยรอบ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย

ที่มา:
- คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- คณะสหเวชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- วิทยาลัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- คณะพยาบาลศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- สำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
อื่นๆ
CU Innovations for Society ภารกิจกู้วิกฤติโควิด-19 เพื่อคนไทย
“นวัตกรรมจุฬาฯ” รับใช้ชาติกู้สถานการณ์โควิด-19 ดูแลคนไทยครบทุกมิติทั้งป้องกัน (Prevent) ปกป้อง (Protect) และรักษา (Cure) ช่วยแก้ปัญหาและยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย ทั้งยังสามารถต่อยอดขยายไปยังประเทศเพื่อนบ้านในเอเชีย
เทคโนโลยีราไมคอร์ไรซาเพื่อการปลูกและฟื้นฟูป่าอย่างสร้างสรรค์และยั่งยืนในทุกพื้นที่ของประเทศไทย
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา การอนุรักษ์ป่าไม้ในประเทศไทยต้องต่อสู้กับความเชื่อที่ว่า การเผาป่าจะทำให้เกิดเห็ดที่ชาวบ้านสามารถนำไปสร้างรายได้ จึงทำให้มีการแอบเผาป่าอย่างผิดกฎหมายเพื่อนำเห็ดไปขาย การฟื้นฟูผืนป่าที่เสียหายจากการโดนเผานั้นยากกว่าการฟื้นฟูป่าไม้ที่เกิดจากสาเหตุอื่น เนื่องจากจุลินทรีย์ สารอาหาร และความชื้นในดินถูกทำลายไปด้วย
หลากหลายกิจกรรมการศึกษาเพื่อสร้างความยั่งยืนของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่จัดสู่ชุมชนและสังคม
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในฐานะสถาบันการศึกษา มุ่งเน้นใช้องค์ความรู้ที่มีหลากหลายศาสตร์ในการพัฒนาชุมชนและสังคมให้ดีขึ้น การดำเนินการด้านหนึ่งของมหาวิทยาลัยจึงได้ดำเนินการจัดกิจกรรมด้านการศึกษาให้กับสังคมในวงกว้างทั้งกับกลุ่มศิษย์เก่า ประชาชนทั่วไป ผู้อยู่อาศัยในท้องถิ่น ผู้พลัดถิ่นเพื่อให้ส่งเสริมให้คนทุกกลุ่มมีความรู้ในการดูแลตนเอง และสามารถเป็นกำลังคนที่มาช่วยในการพัฒนาชุมชนและสังคมต่อไปได้ รวมทั้งเป็นการช่วยลดความเหลื่อมล้ำในสังคมด้วย
CU-PIG FARMING: โรงเรียนสาธิตการเลี้ยงสุกร เปิดทางเลือกใหม่ของเกษตรกรในจังหวัดน่าน
จังหวัดน่านประสบปัญหาผลผลิตทางการเกษตรไม่เพียงพอต่อการบริโภคภายในจังหวัด ส่งผลให้ต้องพึ่งพาการนำเข้าสินค้าเกษตรจากที่อื่น โดยเฉพาะเนื้อสัตว์ที่มีโปรตีนสูง เช่น เนื้อสุกร เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนทางด้านอาหาร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจึงริเริ่มโครงการเพื่อเพิ่มผลผลิตเนื้อสุกร เพื่อสนับสนุนการดำรงชีวิตอย่างยั่งยืนของเกษตรกรในท้องถิ่น









