หลายคนที่เคยประสบกับเหตุการณ์วิกฤตไม่ได้ตระหนักถึงความจำเป็นในการเข้าบำบัดรักษาสุขภาพจิต เนื่องจากค่านิยมในสังคมเป็นสาเหตุที่สำคัญทำให้ผู้คนที่ได้รับความบาดเจ็บทางอารมณ์จากเหตุการณ์รุนแรงไม่เข้ารับการบำบัด ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศมีความเชื่อว่าการเข้ารับการบำบัดหมายถึงการเป็นคนบ้าหรือมีสภาพจิตใจที่อ่อนแอ การปรับทัศนคติในเรื่องนี้กับผู้คนในสังคมมีความจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อให้การบำบัดสุขภาพจิตสามารถเข้าถึงได้ง่ายและเป็นที่ยอมรับ กลุ่ม Mobile Arts Therapy (MAT) จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งร่วมกับ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ, สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และมูลนิธิเจมส์ เอช ดับเบิลยู ทอมป์สัน ใช้ศิลปะเป็นสื่อกลางในการสื่อสารและการแสดงออกเพื่อช่วยให้ผู้คนรับมือและตอบสนองต่อเหตุการณ์วิกฤต กลุ่ม MAT มีเป้าหมายที่จะให้การสนับสนุนและเชื่อมโยงความรู้สึกแก่ผู้คนและชุมชนที่เคยประสบกับเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจ การใช้ศิลปะในการบำบัดนี้ เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการช่วยให้ผู้คนสามารถประมวลผลอารมณ์และประสบการณ์ของตนได้ มีประโยชน์อย่างยิ่งในสถานการณ์ที่การบำบัดแบบดั้งเดิมอาจไม่สามารถเข้าถึงหรือยอมรับได้ ความพยายามของกลุ่ม MAT ในการใช้ศิลปะเป็นสื่อกลางนี้ เป็นแนวทางใหม่ในการเข้าถึงผู้ต้องได้รับการบำบัด ช่วยลดกระแสทางด้านลบของสังคมเกี่ยวกับเข้ารับการบำบัดจิตใจ
Source: John Lloyd Gordovez
[ https://www.youtube.com/watch?v=3ybvFX5f43o ]
Creative Arts Therapy เป็นการบำบัดรูปแบบหนึ่งที่ใช้สื่อศิลปะต่างๆ เช่น ละคร ดนตรี การเคลื่อนไหว และทัศนศิลป์ เพื่อให้ผู้คนได้แสดงออกและเข้าใจอารมณ์และประสบการณ์ของตน ซึ่งเกี่ยวข้องกับ 3 ส่วน คือ ผู้เข้าร่วมการบำบัด การสร้างสรรค์ทางศิลปะ และนักบำบัด มีเป้าหมายเพื่อช่วยให้ผู้ที่เข้าร่วมแก้ไขปัญหาทางอารมณ์ รับรู้ความรู้สึกตนเอง ผ่านทางการสร้างสรรค์ ละคร ทัศนศิลป์ และดนตรี ซึ่งจะช่วยให้ผู้คนสื่อสารอารมณ์ความรู้สึกที่ยากจะอธิบายออกมาเป็นคำพูด Creative Arts Therapy สามารถช่วยฟื้นฟูการควบคุมอารมณ์และโดยเน้นกระบวนการบำบัดมากกว่าผลลัพธ์สุดท้าย กลุ่ม MAT ได้ใช้ Creative Arts Therapy ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์วิกฤตต่างๆ ในประเทศไทยเช่น การยิงที่โคราช วิกฤตน้ำท่วมปี 2554-2555 และการยิงที่หนองบัวลำภู นอกจากนี้ยังใช้เพื่อช่วยเหลือเด็กที่เคยประสบกับการล่วงละเมิดทางเพศอีกด้วย
ผู้เข้าร่วมโปรแกรม “Creative Arts Therapy” ของกลุ่ม MAT ให้ความคิดเห็นว่าตนเองความเครียดและความวิตกกังวลลดลง และความรู้สึกของชุมชนเพิ่มขึ้นหลังจากเข้าร่วมกิจกรรม กลุ่ม MAT หวังที่จะปรับปรุงและปรับแต่งรูปแบบการบำบัดให้ตรงตามความต้องการและความคาดหวังของผู้รอดจากเหตุการณ์วิกฤติต่างๆในอนาคต
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยไฮฟากำลังวางแผนที่จะเปิดหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา ที่เกี่ยวกับ Creative Arts Therapy เป็นที่แรกในประเทศไทยที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งจะเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสาขานี้และได้รับการฝึกอบรมเฉพาะเจาะจงมากขึ้น
ที่มา
- คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางนวัตสหศิลป์เพื่อสุขภาวะ อิมิลี่ – ซากอย แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (CARIW)
รายละเอียดที่เกี่ยวข้อง
อื่นๆ
กิจกรรมเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิตสาธารณะตลอดปีที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้
ด้วยความมุ่งมั่นให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิตสาธารณะที่ทุกคนสามารถเข้าถึงกิจกรรมเหล่านี้ได้ จึงได้ดำเนินการจัดโครงการและกิจกรรมสาธารณะด้านวิชาการ การถ่ายทอดความรู้ และการฝึกอบรมสายอาชีพสำหรับประชาชนอย่างสม่ำเสมอตลอดทั้งปี หลากหลายรูปแบบ ทั้ง onsite และ Online โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดให้มีหลักสูตรเรียนฟรีออนไลน์ จัดพื้นห้องสมุดให้ใช้ฟรี และ co-working space แก่นิสิต บุคลากร และประชาชนทั่วไป
การศึกษาในมหาวิทยาลัยไม่ได้มีไว้สำหรับนักศึกษาเท่านั้น เป็นสถานที่สำหรับทุกคน จุฬาลงกรณ์ได้พัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับการเรียนรู้ออนไลน์อย่างต่อเนื่องเพื่อสนับสนุนแนวคิดของ “การเรียนรู้ตลอดชีวิต” และเพื่อเตรียมความพร้อมให้คนไทยเข้าถึงข้อมูลได้จากทุกที่โดยไม่ต้องไปเรียนในมหาวิทยาลัย
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเปิดโอกาสให้นิสิตจัดตั้งชมรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
เพื่อเป็นศูนย์กลางของกิจกรรมและโครงการที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
โครงการออกกำลังกายอย่างปลอดภัยด้วยเทรนเนอร์ส่วนบุคคลและวิทยาศาสตร์การกีฬา อาสาปันสุข (สุขภาพกาย และสุขภาพใจ)
คนไทยมีพฤติกรรมเสี่ยงโรคไม่ติดต่อและการบาดเจ็บเพิ่มสูงขึ้น โดยสำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขได้สำรวจและเล็งเห็นแนวโน้มมาตั้งแต่ปี 2558 พบความชุกของคนที่มีภาวะน้ำหนักเกิน ถึงร้อยละ 30.5 ภาวะอ้วน ร้อยละ 7.5 ภาวะการสูบบุหรี่ ร้อยละ 21.3 และการดื่มแอลกอฮอล์ ร้อยละ 36.2 ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยแรงงานและกลุ่มผู้สูงอายุที่ขาดการออกกำลังกายและการบริโภคอาหารไม่ถูกหลักโภชนาการ