จากความสำเร็จของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่ได้พลิกฟื้นชุมชนเก่าแก่รอบมหาวิทยาลัยย่าน “สวนหลวง-สามย่าน-สยามสแควร์” กลับมาคึกคักมีชีวิตชีวาด้วยสีสันแห่งงานศิลปะกราฟิตี้ในโครงการ Chula Art Town โดยคณะศิลปกรรมศาสตร์ (FAA) ที่ดึงศิลปินสตรีทอาร์ตชั้นนำร่วมกับนิสิตเก่าจุฬาและนักเรียนรอบรั้วมหาวิทยาลัยนับร้อยชีวิตมาร่วมถ่ายทอดเรื่องราววิถีชีวิตของชุมชนแห่งนี้ รังสรรค์งานศิลปะบนกำแพงอาคารสถานที่นับสิบจุด แปลงมุมอับ นำขยะจากชุมชนมาสร้างงานศิลปะให้กลับกลายเป็นทัศนียภาพใหม่ที่มีเสน่ห์ชวนมอง จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ใจกลางกรุงที่ดึงดูดเหล่าฮิปสเตอร์สายเช็กอินต้องห้ามพลาด ทำให้บทบาทผู้พัฒนาชุมชนด้วยศิลปะของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยฉายแววเด่นชัดขึ้นเรื่อย ๆ ในปี 2563 ซึ่งโครงการเหล่านี้ได้ช่วยพัฒนาสังคม สร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างรายได้สู่ชุมชนนับล้านบาทต่อปี อาทิ 1) ฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการให้กับคนขับมอเตอร์ไซค์รับจ้างและรถตุ๊กตุ๊กในพื้นที่มากกว่า 50 คน เพื่อเป็นมัคคุเทศก์ท้องถิ่นนำเที่ยว ณ แกลเลอรีอเนกประสงค์ของคณะ (ART4C) ที่ตั้งอยู่ในชุมชน 2) สร้างห้องเรียนกลางแจ้งเยียวยาผู้ป่วยเด็กอาการดาวน์ซินโดรมโดยใช้กำแพงแสดงผลงานศิลปะ และใช้อักษรเบรลล์ที่ออกแบบพิเศษเพื่อให้ผู้บกพร่องทางสายตาสามารถเข้าถึงงานศิลปะได้ 3) พัฒนาความร่วมมือระหว่างสถาบันศิลปะและวัฒนธรรมกับเขตปทุมวันและชุมชนบ้านครัว สู่การจัดทำแผนที่เพื่อเที่ยวชมงานศิลปะและวัฒนธรรมที่ผสมผสานระหว่างศิลปะร่วมสมัย วิถีชีวิตชุมชน และอาหารที่หลากหลายทางวัฒนธรรมผ่านโปรแกรมที่จัดขึ้นจนได้รับเลือกให้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการสร้างสรรค์ศิลปะท้องถิ่น (Pathumwan Art Routes; PARs) ด้วยเหตุนี้จึงไม่น่าแปลกใจที่เพื่อนบ้านโดยรอบจะตอบรับการพัฒนาชุมชนด้วยศิลปะของมหาวิทยาลัย ทำให้งานศิลปะเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ Chula Art Town ยังได้พัฒนาเทคนิคการเสพศิลป์เชื่อมโยงโลก offline เข้าสู่โลกดิจิทัล โดยนำ QR Code เข้ามาใช้เพื่อระบุตำแหน่งบนแผนที่เสมือนจริงพร้อมจัดทำวีดิทัศน์บอกเล่าแรงบันดาลใจของศิลปินในแต่ละจุดผ่าน Smart Phone เพียงสแกน QR Code บนสื่อสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ เพื่อเพิ่มอรรถรสให้ผู้รับชม แม้ในยามวิกฤตจนต้องปิดเมือง แต่การเสพศิลป์ในแบบฉบับ Chula Art Town ยังคงดำเนินต่อไปบน Digital Platform ที่ เปิดให้ผู้รับชมทั่วทุกมุมโลกท่องเที่ยวได้เสมือนจริงบน “Google Art & Culture” ด้วยเทคนิค Augmented Reality (AR) โดยเป็น 1 ใน 5 นิทรรศการสำคัญที่ผ่านการคัดเลือกแล้วให้จัดแสดง กลายเป็นการแสดงผลงานศิลปะไร้พรมแดนและขีดจำกัด โดยมีผู้ชมในโลกออนไลน์แล้วกว่า 3,700 ครั้ง เป็นที่ประจักษ์แล้วว่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยพร้อมขับเคลื่อนสังคมด้วยศิลปะสร้างแรงบันดาลใจและเยียวยาผู้คนในสังคมควบคู่กัน

ที่มา: คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
รายละเอียดที่เกี่ยวข้อง:
- https://artsandculture.google.com/asset/the-chula-art-town-map-vorapoj-songcharoen/BAFUA3P86blbgg
 - https://artsandculture.google.com/exhibit/mwKigMUowHQpJw?hl=th
 - https://art4c.org/map/
 - https://issuu.com/poj1967/docs/cu_art_town_book
 - https://patricklepetit.jalbum.net/BANGKOK/PHOTOS/STREET%20ART/Chula%20Art%20Town/CHULA%20ART%20TOWN%20FULL.pdf
 - https://th.readme.me/p/27688
 - https://travel.mthai.com/blog/219106.html
 - https://www.matichon.co.th/lifestyle/news_1640618
 - https://artsandculture.google.com/exhibit/mwKigMUowHQpJw?hl=th
 - https://www.komchadluek.net/news/breaking-news/377234
 - https://www.youtube.com/watch?v=bTOWkkgcNZw&feature=emb_logo
 - https://www.youtube.com/watch?v=PYi-IaGU_7E
 

SDG ที่เกี่ยวข้อง
อื่นๆ
นวัตกรรมฟื้นฟูป่าเสื่อมโทรมด้วยราไมคอร์ไรซา พิสูจน์ทราบแล้วจากป่าต้นน้ำน่าน พร้อมส่งผ่านสู่สมรภูมิไฟป่าทั่วโลก โดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เป้าหมายที่จะรักษาผืนป่าของไทยให้มีพื้นที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 40 ของพื้นที่ทั้งประเทศตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
ธนาคารปูม้า เกาะสีชัง ต้นแบบศูนย์เรียนรู้เพิ่มทางรอดปูม้าไทยคืนสู่ท้องทะเล
เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2563 มีชาวประมงที่จับปูม้าที่ท้องนอกกระดองมาให้ ศูนย์เรียนรู้ธนาคารปูม้าบนบก อำเภอเกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี เป็นจำนวน 457 ตัว เพื่อเพาะเป็นลูกปูม้า ศูนย์สามารถดูแลปูไข่จนลูกปูม้าถึง 565,219,724 ตัว และแม้ลูกปูม้าจะมีเปอร์เซนต์รอดชีวิตที่ 40-60% ศูนย์ก็ยังสามารถเอาลูกปูม้าไปปล่อยในทะเลได้มากเกินกว่า
อนุรักษ์ปลากระเบนเจ้าพระยา อนุรักษ์ลุ่มน้ำแม่กลอง
นักวิชาการต่างยกให้ปลากระเบนเจ้าพระยาเป็นสิ่งมีชีวิตบ่งชี้ความไม่สมดุลของระบบนิเวศน้ำจืดด้วยคุณสมบัติของปลาชนิดนี้ที่มีความไวต่อสารพิษและสภาพการเปลี่ยนแปลงของถิ่นที่อยู่อาศัย
CU-PIG FARMING: โรงเรียนสาธิตการเลี้ยงสุกร เปิดทางเลือกใหม่ของเกษตรกรในจังหวัดน่าน
จังหวัดน่านประสบปัญหาผลผลิตทางการเกษตรไม่เพียงพอต่อการบริโภคภายในจังหวัด ส่งผลให้ต้องพึ่งพาการนำเข้าสินค้าเกษตรจากที่อื่น โดยเฉพาะเนื้อสัตว์ที่มีโปรตีนสูง เช่น เนื้อสุกร เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนทางด้านอาหาร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจึงริเริ่มโครงการเพื่อเพิ่มผลผลิตเนื้อสุกร เพื่อสนับสนุนการดำรงชีวิตอย่างยั่งยืนของเกษตรกรในท้องถิ่น












