กรณีศึกษา

จุฬาฯ ฟื้นฟูระบบนิเวศป่าเสื่อมโทรม สู่ป่าแห่งการเรียนรู้คาร์บอนเครดิต เพื่อรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ

ด้วยสถานการณ์ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ทวีความรุนแรงเพิ่มสูงขึ้น ทั้งภาวะโลกร้อน การปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการสูญเสียพื้นที่ป่าธรรมชาติ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยซึ่งตระหนักถึงความสำคัญของ “ระบบนิเวศป่าไม้” อันเป็นแหล่งรากฐานสำคัญของความหลากหลายทางชีวภาพและความมั่นคงทางสิ่งแวดล้อม ที่จะช่วยลดปัญหาต่าง ๆ ดังกล่าวได้ จุฬาฯ จึงได้ดำเนินโครงการ “ปลูกป่าเพื่อการเรียนรู้คาร์บอนเครดิต จุฬาฯ สระบุรี” เพื่อฟื้นฟูพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมให้กลับมามีชีวิต สร้างสมดุลระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ และขับเคลื่อนการเรียนรู้ด้านระบบนิเวศป่าไม้และคาร์บอนเครดิตอย่างเป็นรูปธรรม

โครงการ “ปลูกป่าเพื่อการเรียนรู้คาร์บอนเครดิต จุฬาฯ สระบุรี” (Reforestation Project for Carbon Credit Learning, CU Saraburi)  ดำเนินการโดย ศูนย์เครือข่ายการเรียนรู้เพื่อภูมิภาค จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภายใต้การสนับสนุนและความร่วมมือจากผู้บริหาร คณาจารย์ บุคลากร นิสิต และศิษย์เก่า ร่วมกับภาคประชาชนและภาคเอกชน เพื่อเปลี่ยนพื้นที่ของจุฬาฯ ที่ ต.ตาลเดี่ยว อ.แก่งคอย จ.สระบุรี จำนวน 42.2 ไร่ ให้กลายเป็นพื้นที่สีเขียวที่อุดมสมบูรณ์

พื้นที่ดังกล่าวเคยเป็น ป่าเสื่อมโทรม (ecosystem under threat) ที่ขาดการดูแลและเสี่ยงต่อการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ โครงการจึงมุ่ง “ฟื้นฟูและขยายระบบนิเวศที่มีอยู่ (maintain and extend ecosystems)” ผ่านการปลูกพันธุ์ไม้หลากหลายชนิด เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนของสารอาหารในดินและสร้างที่อยู่อาศัยให้กับสัตว์นานาพันธุ์ เมื่อเวลาผ่านไป ระบบนิเวศเริ่มฟื้นคืน ชุมชนรอบข้างมีพื้นที่สีเขียวเพิ่มขึ้น และสัตว์ขนาดเล็กเริ่มกลับมาหากินในพื้นที่

นอกจากการปลูกป่าแล้ว โครงการยังมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ระบบนิเวศป่าไม้ คาร์บอนเครดิต และความหลากหลายทางชีวภาพ สำหรับให้เยาวชน นิสิต และประชาชนทั่วไปเข้ามาเรียนรู้และมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาป่าอย่างยั่งยืน กิจกรรมที่จัดขึ้นครอบคลุมทั้งการอบรมด้านการอนุรักษ์ การเก็บข้อมูลพันธุ์ไม้ การวัดค่าคาร์บอนในต้นไม้ และการประเมินความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่

ความสำเร็จของโครงการสะท้อนผ่านการที่มหาวิทยาลัยได้รับการขึ้นทะเบียนอย่างเป็นทางการในโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (Standard T-VER) จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 โดยพื้นที่ 42.2 ไร่ของจุฬาฯ สามารถกักเก็บก๊าซเรือนกระจกได้สูงถึง 217 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี ซึ่งนับว่ามีอัตราการกักเก็บก๊าซเรือนกระจกต่อไร่สูงสุดของสถาบันอุดมศึกษาในประเทศไทย

โครงการ “ปลูกป่าเพื่อการเรียนรู้คาร์บอนเครดิต จุฬาฯ สระบุรี”  เป็นอีกโครงการหนึ่งที่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยลงมือ ดำเนินงานโดยตรง (work directly) เพื่อ ฟื้นฟูและขยายระบบนิเวศที่ถูกคุกคาม พร้อมส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพของทั้งพืชและสัตว์อย่างยั่งยืน ผ่านการปลูกป่า การวิจัย และการเรียนรู้ร่วมกับชุมชน

ความสำเร็จของโครงการนี้ไม่ได้เพียงสร้างพื้นที่สีเขียวและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเท่านั้น แต่ยังปลุกจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมในสังคม สร้างโอกาสในการเรียนรู้แก่เยาวชน และสร้างแบบอย่างให้สถาบันอุดมศึกษาอื่น ๆ เห็นถึงพลังของการบูรณาการองค์ความรู้ วิจัย และการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน เพื่อรักษาโลกและความหลากหลายทางชีวภาพไว้ให้คงอยู่คู่กับมนุษยชาติอย่างยั่งยืน

[ https://www.chula.ac.th/news/245359/ ]

ที่มา :   ศูนย์เครือข่ายการเรียนรู้เพื่อภูมิภาค จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

อื่นๆ

หอพักบุคลากร สวัสดิการที่เอื้อต่อการพัฒนางานของคนจุฬาฯ

ในปี พ.ศ. 2563 จุฬาฯ มีบุคลากรทั้งสิ้น 8,178 คน นโยบายการจัดสวัสดิการและบุคลากรสัมพันธ์จึงเป็นสิ่งที่จุฬาฯ ใส่ใจและดูแลเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการจัดหาที่พักอาศัยภายในหรือบริเวณโดยรอบมหาวิทยาลัยในรูปแบบหอพัก เพื่อให้บุคลากรผูกพันและมีความสุขในการทำงาน เอื้อให้สามารถพัฒนางานอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยได้อย่างเต็มที่

สุขภาพดีถ้วนหน้า จุฬาฯ จัดให้

จุฬาฯ จัดพื้นที่ออกกำลังกายเพื่อให้กับนิสิต บุคลากรและประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงพื้นที่ออกกำลังกายโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ตามนโยบายของจุฬาฯ ที่มุ่งสนับสนุนและส่งเสริมสุขภาพประชาชน แก้ปัญหากิจกรรมทางกายไม่เพียงพอ

การดำเนินการเรื่องการเข้าถึงบริการดูแลสุขภาพทางกายและสุขภาพจิตที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ในปัจจุบันการการดูแลสุขภาพกายและสุขภาพจิตเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมทางการศึกษา ด้วยความตระหนักถึงความสำคัญนี้ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นหนึ่งในสถาบันการศึกษาชั้นนำของประเทศไทย ได้ดำเนินมาตรการที่ครอบคลุมเพื่อให้บริการด้านสุขภาพกายและการสนับสนุนด้านสุขภาพจิตแก่บุคลากรและนิสิตของมหาวิทยาลัย

ประเทศไทยประกาศความสำเร็จซื้อ-ขายคาร์บอนเครดิตจากขยะเปียกชุมชนครั้งแรกของโลก

กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับ UN Thailand พร้อมด้วยพันธมิตรภาคีเครือข่ายภาคเอกชนโดย KBANK ซึ่งสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านประเทศไทยและประชาคมมุ่งสู่ “สังคมคาร์บอนเป็นศูนย์”  ประกาศความสำเร็จการซื้อ-ขายคาร์บอนเครดิตขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 4 จังหวัดนำร่องเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ภายหลังสามารถจูงใจให้พี่น้องประชาชนมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสังคมด้วยการแยกขยะและจัดทำถังขยะเปียกลดโลกร้อนที่สามารถแปลงกลับมาเป็นเงินทุนให้กับหมู่บ้านและชุมชน

ไอคอน PDPA

เราใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของคุณ (ตั้งค่า)

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

Accept All
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • Necessary cookies
    เปิดใช้งานตลอด

    Necessary cookies are essential for the functioning of the website, allowing you to use and browse the site normally. You cannot disable these cookies in our website's system.

  • คุกกี้วิเคราะห์เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน

    คุกกี้เหล่านี้ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ เช่น จำนวนผู้เข้าชม, หน้าเว็บที่ได้รับความนิยม และพฤติกรรมการท่องเว็บ ซึ่งช่วยให้เจ้าของเว็บไซต์ปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ได้

  • คุกกี้การทำงานเพื่อจดจำการตั้งค่าผู้ใช้

    คุกกี้เหล่านี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ โดยจดจำการตั้งค่าที่ผู้ใช้เคยกำหนดไว้ เช่น ชื่อผู้ใช้, ภาษา, ภูมิภาค หรือการปรับแต่งเว็บไซต์ตามความต้องการ

Save