จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกับความร่วมมือเพื่อการพัฒนาเมืองและที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมอย่างยั่งยืน
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยให้ความสำคัญกับการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืนและการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยทำงานร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่น ภาครัฐ และภาคเอกชนในการวางแผนและพัฒนาเมือง (urban planning and development) อย่างเป็นระบบ เพื่อสร้างชุมชนเมืองที่น่าอยู่และเท่าเทียม มหาวิทยาลัยใช้ศักยภาพทางวิชาการและงานวิจัยเพื่อสนับสนุนการกำหนดนโยบาย กลไกการบริหารจัดการพื้นที่ และนวัตกรรมที่ส่งเสริมการพัฒนาเมืองในมิติสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล
ในด้านที่อยู่อาศัย จุฬาฯ มีบทบาทในการสนับสนุนการพัฒนาและการเข้าถึงที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพและราคาที่เหมาะสม (affordable housing) สำหรับประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย ผู้สูงอายุ และกลุ่มแรงงานในเขตเมือง ผ่านความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและชุมชนท้องถิ่นในการพัฒนาพื้นที่ การจัดระบบสาธารณูปโภค และการวางผังเมืองที่เป็นธรรม เพื่อให้ทุกคนสามารถอยู่อาศัยในเมืองได้อย่างมั่นคงและมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน
ภาคีขับเคลื่อนและพัฒนาที่อยู่อาศัยโดยชุมชน เปิดวงแลกเปลี่ยนบทเรียนการขับเคลื่อนงานด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยโดยชุมชนในระดับเอเชียและนานาประเทศ
วันที่ 2-3 กรกฎาคม 2567 ภาคีขับเคลื่อนและพัฒนาที่อยู่อาศัยโดยชุมชน หน่วยงานภาครัฐและท้องถิ่น ภาคธุรกิจเอกชน ประชาสังคม นักวิชาการ สถาบันการศึกษา ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้นำชุมชน องค์กรระหว่างประเทศ พร้อมผู้แทนจากประเทศต่างๆ ในเอเชียแปซิฟิกกว่า 13 ประเทศ เปิดวงแลกเปลี่ยนการขับเคลื่อนงานด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยโดยชุมชนในระดับเอเชียและนานาประเทศ นำเสนอรูปธรรมกลไกและปัจจัยที่ส่งเสริมการพัฒนาเมือง สังคม และคุณภาพชีวิต โดยให้ความสำคัญกับบทบาทของชุมชนเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนา
กระทรวง พม. โดยสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. ร่วมกับมูลนิธิศูนย์ศึกษาที่อยู่อาศัยแห่งเอเซีย มูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย วิทยาลัยโลกคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาควิชาเคหการ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สถาบันอาศรมศิลป์ และเครือข่ายสถาปนิกชุมชน (CAN) หน่วยงานภาคีสนับสนุนและองค์การระหว่างประเทศ ได้แก่ UN-ESCAP, UN-HABITAT, International CO-Habitat Network, Development Planning Unit, University College of London, Habitat for Humanity ร่วมจัด การประชุมสัมมนาระหว่างประเทศการพัฒนาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อยที่ชุมชนเป็นหลัก (Collective Housing Conference) : “คำตอบคือชาวชุมชน ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง แก้ไขปัญหาควายากจน สร้างคนและชุมชนที่เข้มแข็ง กุญแจสู่ความยั่งยืน” ชูประเด็น “การพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้ที่ชุมชนเป็นหลัก (Collective Housing)” ที่ประเทศไทย ระหว่างวันที่ 1 – 4 กรกฎาคม 2567
[ https://www.thaipost.net/public-relations-news/615178/ ]
โครงการพัฒนาระบบการจัดการที่อยู่อาศัยสำหรับทุกคน กรณีศึกษา เมืองมหานครและเมืองศูนย์กลางเศรษฐกิจประเทศไทย (Housing for All)
มูลนิธิสถาบันศึกษาเมือง Urban Studies Institute foundation (USI) ได้ร่วมดำเนิน โครงการ “การพัฒนาระบบการจัดการที่อยู่อาศัยสำหรับทุกคนฯ (Housing for all)” คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่(บพท.) ในปีงบประมาณ 2567 โดยเล็งเห็นถึงปัญหา ที่อยู่อาศัย ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการดำรงชีวิตของประชาชน แต่อย่างไรก็ตามการเข้าถึงที่อยู่อาศัยอย่างเท่าเทียมกันสำหรับคนทุกกลุ่มในประเทศไทยนั้นยังถือเป็นช่องว่างที่สำคัญ โดยเฉพาะด้านที่อยู่อาศัยสำหรับกลุ่มเปราะบาง เช่น กลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือกลุ่มแรงงาน เช่น กลุ่มแรงงานจบใหม่/ ผู้เข้าสู่ตลาดงานครั้งแรก (first jobber) และกลุ่มแรงงานมีทักษะ (แรงงานสร้างสรรค์)
ในการประชุม วันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2568 ณ โรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส ได้มีการเปิดเวทีนำเสนอฐานข้อมูลด้านที่อยู่อาศัยประเทศไทย หรือ Thai Housing Data Portal เพื่อนำเสนอฐานข้อมูลที่พัฒนาขึ้นภายใต้ทุนวิจัยของ บพท. สำหรับสนับสนุนการวิเคราะห์และจัดการระบบที่อยู่อาศัยในพื้นที่เมือง โดยในงานประชุมได้มีการ แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ การทำงานของทีมวิจัยภายใต้โครงการวิจัย Housing ของ บพท. ในประเด็นด้านชุดข้อมูล ฐานข้อมูลและข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเพื่อพัฒนาที่อยู่อาศัย รวมไปถึงการเชื่อมโยงเครือข่ายข้อมูลวิจัยให้หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง เพื่อขับเคลื่อนระบบที่อยู่อาศัยทั้งในระดับนโยบายและระดับปฏิบัติ
โดยมีวัตถุประสงค์หลัก 3 ข้อในการพัฒนาโครงการ ได้แก่
- การพัฒนากลไกด้านระบบที่อยู่อาศัย (System) เพื่อการบริหารจัดการเมืองน่าอยู่ และสนับสนุน การเข้าถึงที่อยู่อาศัยในเมืองสำหรับทุกคน
- เพื่อพัฒนากลไกการประเมินสถานการณ์ที่อยู่อาศัยในเมือง และวัดผลกระทบในพื้นที่นำร่อง ระดับย่าน (Situation)
- เพื่อพัฒนายุทธศาสตร์เมือง (Strategy) ที่สนับสนุนระบบที่อยู่อาศัยสำหรับทุกคน
เพื่อขับเคลื่อนมาตราฐานของที่อยู่อาศัยและข้อมูล ที่จะนำไปสู่การผลักดันการสนับสนุนด้านการเงิน นโยบายและมาตรการ เนื่องจาก ประเด็นด้านที่อยู่อาศัย เชื่อมโยงปัจจัยที่หลากหลายทั้งรายได้ซึ่งส่งผลต่อความสามารถในการเข้าถึงที่อยู่อาศัย การสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐด้านความปลอดภัย และมีความมั่นคงในที่อยู่อาศัย (เมื่อการพัฒนาเมือง/เศรษฐกิจในเมืองเปลี่ยนไป) โดยมีเป้าหมายเพื่อ “สร้างระบบการบริหารจัดการเมืองน่าอยู่ในพื้นที่เมืองศูนย์กลางเศรษฐกิจระดับภาคที่สนับสนุนการเข้าถึงที่อยู่อาศัยในเมืองสำหรับทุกคน”
[ https://www.facebook.com/share/19tRxTWuvt/ ]
“จุฬาอารี” ขยายเครือข่ายและสร้างพลังช่างชุมชน
โครงการ “จุฬาอารี” (Chulalongkorn University Platform for Research Innovation) วิทยาลัยประชากรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับสถาบันองค์กรพัฒนาชุมชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จัดกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการเสริมพลังช่างชุมชนในการออกแบบเพื่อคนทุกวัย (Universal Design) เมื่อวันพุธที่ 28 พฤษภาคม 2568 ณ Social Innovation Hub อาคารวิศิษฐ์ ประจวบเหมาะ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 60 คน
การอบรมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้เป็นการขยายเครือข่ายระหว่างจุฬาอารี สถาบันองค์กรพัฒนาชุมชน ผ่านการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการจัดการสภาพแวดล้อมเพื่อความอยู่ดีมีสุขของชุมชนในบริบทของสังคมสูงวัย เพื่อพัฒนาศักยภาพช่างชุมชน ซึ่งมีประสบการณ์ในการทำงานหรือเป็นจิตอาสาในการสร้างหรือซ่อมบ้านให้มีทักษะในการนำการออกแบบเพื่อคนทุกวัย (Universal Design) ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการสร้างและปรับปรุงที่อยู่อาศัยของครอบครัวผู้สูงอายุในชุมชน และพื้นที่ส่วนกลางของชุมชนให้เหมาะสมในการดำเนินชีวิตของสมาชิกทุกวัยโดยคำนึงถึงความสะดวกและปลอดภัย
กิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการขับเคลื่อนและพัฒนาระบบรองรับแผนปฏิบัติการด้านผู้สูงอายุกรุงเทพมหานครในชุมชนนำร่อง ซึ่งเป็นความร่วมมือของจุฬาอารี สำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร โดยการสนับสนุนของ สำนักงานกองทุนสร้างเสริมสุขภาพ
[https://www.chula.ac.th/news/240006/ ]

Urban Studies Lab ศูนย์วิจัยอิสระด้านเมืองและการพัฒนาชุมชน จัดเวทีสรุปงาน “ขับเคลื่อนฐานข้อมูล และนโยบายที่อยู่อาศัย”
เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2568 ที่ห้อง ACUA Co-Working Space ชั้น 1 คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย Urban Studies Lab ศูนย์วิจัยอิสระด้านเมืองและการพัฒนาชุมชน จัดเวทีสรุปงาน “ขับเคลื่อนฐานข้อมูล และนโยบายที่อยู่อาศัย” เพื่อนำเสนอข้อมูลและข้อเสนอเชิงนโยบายต่อสถานการณ์ปัญหาที่อยู่อาศัยในเมืองไทย โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานรัฐ นักวิจัย และผู้ทรงคุณวุฒิด้านการพัฒนาเมืองเข้าร่วมอย่างคับคั่ง
งานวิจัยสะท้อนให้เห็นว่า ครัวเรือนบางกลุ่มมีภาระค่าใช้จ่ายด้านที่อยู่อาศัยเฉลี่ยสูงกว่า 30–40% ของรายได้ครัวเรือน และเมื่อรวมกับค่าเดินทางที่เพิ่มขึ้นจากการที่ที่อยู่อาศัยราคาย่อมเยาต้องอยู่ไกลศูนย์กลางเมือง ทำให้ประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มคนทำงานรุ่นใหม่ ต้องเผชิญภาระค่าใช้จ่ายที่สูงเกินสมดุลชีวิต
การสำรวจใน 4 จังหวัดนำร่อง ได้แก่ กรุงเทพฯ ขอนแก่น เชียงใหม่ และสงขลา พบแนวโน้มคล้ายกัน คือ Demand ของที่อยู่อาศัยราคาย่อมเยาและใกล้แหล่งงานมีสูง แต่ Supply มีจำกัด ขณะที่โครงสร้างข้อมูลที่อยู่อาศัยจากภาครัฐยังไม่เชื่อมโยงเป็นระบบเดียว
เพื่อตอบสนองต่อปัญหานี้ Urban Studies Lab ได้นำเสนอแนวทางการพัฒนาที่อยู่อาศัยในสามมิติ ทั้งการสร้างเครื่องมือวัดผลกระทบในระดับย่าน เพื่อทำความเข้าใจสถานการณ์จริง การพัฒนากลไกและระบบสนับสนุนให้คนเข้าถึงที่อยู่อาศัยได้มากขึ้น และการกำหนดยุทธศาสตร์เมืองในระยะยาวเพื่อให้เกิดระบบที่อยู่อาศัยสำหรับทุกคนอย่างแท้จริง นักวิจัยชี้ว่า หากไม่มีฐานข้อมูลที่แข็งแรงและเชื่อมโยงเป็นระบบ การกำหนดนโยบายก็จะไม่สามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุด
การประชุมได้รับเกียรติจากผู้แทนหลายภาคส่วน เช่น ผู้ช่วยผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ, รองผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.), ผู้แทนสภาพัฒน์ ตลอดจนคณาจารย์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและนักวิจัยอิสระ ร่วมแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเชิงนโยบาย โดย ดร.พงษ์พิศิษฐ์ หุยากรณ์ จาก Urban Studies Lab กล่าวย้ำว่า “หากไม่มีฐานข้อมูลที่แข็งแรงและเชื่อมโยงเป็นระบบ การออกนโยบายด้านที่อยู่อาศัยก็จะไม่สามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุด” และกล่าวเสริม โดย รศ.ดร.บุษรา โพวาทอง จากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภาควิชาเคหะการ กล่าวเสริม “การแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยเป็นเรื่องระยะยาว ต้องอาศัยการทำงานที่จริงจังและสม่ำเสมอในสามด้านหลัก หนึ่ง การระบุประเด็นปัญหาที่สำคัญที่สุดเพื่อผลักดันเมือง ไม่ใช่ทำทุกเรื่องพร้อมกัน สอง การใช้ประโยชน์จากกลไกที่มีอยู่แทนการสร้างใหม่ เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ และสาม การบูรณาการเข้าไปในแผนเทศบาลและหน่วยงานหลัก เพื่อให้เชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีได้อย่างแท้จริง”
[ https://www.sanook.com/news/9847534/ ]
ที่มา :
- คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- วิทยาลัยประชากรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
อื่นๆ
สผ. ร่วมกับ GIZ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หารือผู้เชี่ยวชาญในประเด็นความเสี่ยงของพืชเศรษฐกิจหลัก และข้อเสนอเชิงนโยบาย ด้านการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในภาคเกษตรของประเทศไทย
เพื่อรับฟังความคิดเห็นต่อผลการวิเคราะห์ประเด็นความเสี่ยงจากปัจจัยคุกคามทางสภาพอากาศต่อการเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจหลักในแต่ละพื้นที่ย่อย โดยมีผู้เชี่ยวชาญ ผู้แทนจากสถาบันการศึกษา และภาครัฐ เข้าร่วมการประชุม
นวัตกรรมฟื้นฟูป่าเสื่อมโทรมด้วยราไมคอร์ไรซา พิสูจน์ทราบแล้วจากป่าต้นน้ำน่าน พร้อมส่งผ่านสู่สมรภูมิไฟป่าทั่วโลก โดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เป้าหมายที่จะรักษาผืนป่าของไทยให้มีพื้นที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 40 ของพื้นที่ทั้งประเทศตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
พื้นที่สีเขียวของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พื้นที่เปิดเพื่อชุมชนและสังคมที่ทุกคนเข้าถึงได้
การจัดการพื้นที่ให้ร่มรื่นด้วยการปลูกต้นจามจุรีและต้นไม้ใหญ่ใน 14 สวน เป็นพื้นที่สีเขียวในรั้วมหาวิทยาลัยที่เปิดให้ชาวจุฬาฯ และประชาชนทั่วไปทุกเพศทุกวัย ได้เข้ามาใช้ประโยชน์ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ได้พักผ่อนหย่อนใจคลายร้อน เพิ่มอากาศที่บริสุทธิ์ ลดมลพิษ ส่งเสริมสุขภาพ สร้างการมีส่วนร่วมกับชุมชนเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเปิดโอกาสให้นิสิตจัดตั้งชมรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
เพื่อเป็นศูนย์กลางของกิจกรรมและโครงการที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม








