กรณีศึกษา

CU Innovation Hub: เสริมพลังขับเคลื่อน Start-ups พลิกโฉมอนาคตสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ

ศูนย์กลางนวัตกรรมแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หรือ CU Innovation Hub (CU I Hub) ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 โดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มุ่งหวังให้เป็นหน่วยงานในการสนับสนุนและเร่งสร้าง Start-ups ที่มีคุณภาพ ตอบสนองนโยบาย Thailand 4.0 และเพื่อพัฒนากำลังคนที่มีทักษะและความสามารถในการคิดเชิงนวัตกรรม รวมทั้งการเป็นศูนย์กลางการสร้างนวัตกรรมที่ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคม โดยเชื่อมโยงงานวิจัย เทคโนโลยี สิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญา และการบ่มเพาะธุรกิจ Startup สู่ตลาดจริง [ https://cuinnovationhub.com/ ] [ https://www.facebook.com/cuihub/ ]

สำหรับการดำเนินงานของ CU Innovation Hub ที่มีการดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน ได้แก่

  1. บ่มเพาะบุคลากรด้านนวัตกรรมและความเป็นผู้ประกอบการ เพื่อพัฒนานิสิต บุคลากร นักวิจัย ให้มีทักษะด้านคิดสร้างสรรค์ การแก้ปัญหา และการนำเทคโนโลยีมาสร้างมูลค่า
  2. สนับสนุนการสร้างและขยายตัวของ Startup และนวัตกรรม ครอบคลุมตั้งแต่ไอเดีย-ต้นแบบ (incubation), ให้คำปรึกษา, การหาเงินทุน, การจับคู่กับเครือข่ายเอกชน/นักลงทุน, พื้นที่ทำงาน (workspace) และช่วยตั้งบริษัท spin-off
  3. จัดการทรัพย์สินทางปัญญาและการแปรรูปผลงานวิจัย สนับสนุนการจดสิทธิบัตร การใช้ประโยชน์จาก intellectual property, เพื่อให้ผลงานวิจัยนำไปสู่การสร้างมูลค่าในเชิงเศรษฐกิจและสังคม
  4. ให้บริการแบบ One-Stop Service Ecosystem สำหรับ Startup ตั้งแต่ต้นทาง (แนวคิด) กลางทาง (การฝึกอบรม การให้คำปรึกษา) ไปจนถึงปลายทาง (การขยายตลาด, การร่วมลงทุน)
  5. การมุ่งเน้นด้านนวัตกรรมเพื่อประโยชน์สังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม โดยมีหัวข้อสนับสนุน (focus areas) เช่น สุขภาพและผู้สูงอายุ, การศึกษา, Bio-Circular Green Food & Agriculture, สังคมที่ยั่งยืน, Deep Tech

ปัจจุบัน Start-ups และ Spin-off ภายใต้การดูแลของ CU Innovation Hub มีความหลากหลาย ครอบคลุมกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเชิงลึก (Deep Tech) ต่างๆ โดยสามารถแบ่งประเภทหลัก ๆ ได้ดังนี้

  1. กลุ่มสุขภาพและการแพทย์ (Health & MedTech): มุ่งเน้นการใช้นวัตกรรมเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและการรักษาพยาบาล ตัวอย่างเช่น ใบยา ไฟโตฟาร์ม (Baiya Phytopharm) Start-up ที่วิจัยและพัฒนาวัคซีนจากใบพืช ซึ่งโด่งดังจากวัคซีนโควิด-19 และกำลังต่อยอดไปยังวัคซีนป้องกันโรคอื่นๆ
  2. กลุ่มปัญญาประดิษฐ์และหุ่นยนต์ (AI & Robotics): พัฒนาเทคโนโลยี AI และระบบหุ่นยนต์เพื่อแก้ปัญหาในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการทำงาน การวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง และการสร้างระบบอัตโนมัติ ตัวอย่างเช่น Haxter เป็น Start-up ผู้พัฒนาหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติสำหรับภาคอุตสาหกรรมและการแพทย์
  3. กลุ่มเทคโนโลยีการศึกษา (EdTech): สร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อยกระดับการเรียนรู้และการศึกษาให้เข้าถึงง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวอย่างเช่นVonder เป็น Start-ups แพลตฟอร์มสร้างบทเรียนและเกมเพื่อการเรียนรู้สำหรับองค์กรและสถาบันการศึกษา
  4. กลุ่มเทคโนโลยีเคมี วัสดุ และพลังงาน (Chem, Material & Energy Tech): มุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนาวัสดุศาสตร์ขั้นสูง พลังงานทางเลือก และเทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืน ซึ่งตอบโจทย์ด้านเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและ BCG (Bio-Circular-Green Economy) ตัวอย่างเช่น
    • Chula E-Motor เป็น Start-up พัฒนาและผลิตมอเตอร์สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่มีประสิทธิภาพสูง
    • MICROCAP เครื่องผลิตออกซิเจนจากจุลสาหร่ายที่ดักจับ CO₂ และปล่อยออกซิเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงกว่าต้นไม้หลายเท่า ผลงานนี้พัฒนาโดยทีมวิจัยจุฬาฯ และได้รับการสนับสนุนจาก CU Innovation Hub จนต่อยอดสู่บริษัท Algae Deep Tech จำกัด ที่ดำเนินธุรกิจจริงในตลาด ถือเป็นกรณีชัดเจนที่แสดงถึงบทบาทของมหาวิทยาลัยในการสนับสนุน Start-ups ด้านเทคโนโลยีสีเขียวและเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำอย่างเป็นรูปธรรม [ https://www.chula.ac.th/highlight/255148/ ]
  1. กลุ่มดิจิทัลและแพลตฟอร์ม (Digital & Platform): พัฒนาซอฟต์แวร์และแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อตอบสนองความต้องการในหลากหลายธุรกิจ ตั้งแต่ E-commerce, FinTech ไปจนถึงแพลตฟอร์มสำหรับบริหารจัดการเฉพาะทาง ตัวอย่างเช่น CU-D.R.I.V.E. เป็น Start-up แพลตฟอร์มสำหรับบริหารจัดการสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าที่พัฒนาร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ
  2. กลุ่มอาหารและการเกษตร (Food & AgriTech): นำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มมูลค่าและประสิทธิภาพในอุตสาหกรรมอาหารและการเกษตร เช่น การพัฒนาอาหารแห่งอนาคต (Future Food), เทคโนโลยีการเพาะปลูกอัจฉริยะ (Smart Farming) ตัวอย่างเช่น Tann D เป็น Start-up ที่พัฒนาผลิตภัณฑ์โปรตีนทางเลือกและอาหารสุขภาพจากพืช

ที่มา:

ศูนย์กลางนวัตกรรมแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

อื่นๆ

นวัตกรรมเครื่องบำบัดโรคระบบทางเดินหายใจอัตราการไหลสูงในภาวะฉุกเฉินการระบาด COVID-19

ใน พ.ศ. 2564 ทั่วโลกเกิดการระบาดของ COVID-19  เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมถึงประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการระบาดที่เกิดจากเชื้อกลายพันธุ์อัลฟาและเดลตา ทำให้มีผู้ติดเชื้อยืนยันเกิน 363,000 รายและผู้เสียชีวิตเกือบ 3,000 รายในประเทศไทยถึงเดือนกรกฎาคม อาการรุนแรงของผู้ป่วยนำมาสู่เครื่องช่วยหายใจและเครื่องบำบัดโรคอัตราการไหลสูงขาดแคลนเนื่องจากมีต้องการทั่วโลก

นวัตกรรมโดรนใต้น้ำจากจุฬาฯ กับภารกิจพิทักษ์ท้องทะเลไทย

วิทยาศาสตร์ของมวลมนุษยชาติเป็นไปด้วยความล่าช้า และทำให้ความจริงของธรรมชาติประการสำคัญยังมิถูกพิสูจน์ทราบตามหลักฐานทางวิชาการ แต่เมื่อเทคโนโลยีเจริญรุดหน้า มนุษย์จึงพัฒนานวัตกรรมอากาศยานไร้คนขับ (Unmanned Aerial Vehicle : UAV) และนำมาใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในภารกิจสำรวจทางธรรมชาติเพื่อให้ผู้สำรวจได้รับความสะดวกสบายและเกิดความปลอดภัยขณะปฏิบัติงาน

การวิเคราะห์ลายนิ้วมือน้ำมันดิบ ติดตามมลพิษ: วิทยาลัยปิโตรเลียมและปิโตรเคมีทำงานเพื่อแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่กำลังเพิ่มขึ้น

ทุกๆ ปี ผู้คนที่อาศัยอยู่ใกล้ชายฝั่งหรือบริเวณป่าชายเลนในประเทศไทยจะพบคราบน้ำมันและก้อนน้ำมันบนชายฝั่ง ซึ่งเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม สิ่งมีชีวิต และกระทบการท่องเที่ยว โดยในช่วงหลังๆ ปริมาณก้อนน้ำมันที่พบเห็นเพิ่มมากขึ้น แสดงให้เห็นถึงปัญหาที่เลวร้ายมากขึ้น

การเพิ่มคุณภาพชีวิตให้คนพิการขาขาดทั่วประเทศไทยด้วยนวัตกรรมเท้าเทียมไดนามิกส์เอสเพส (sPace)

โครงการเพิ่มคุณภาพชีวิตให้คนพิการขาขาดทั่วประเทศไทยด้วยนวัตกรรมเท้าเทียมไดนามิกเอสเพส โดยได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว) ผ่านสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช) โดยได้นำเอาผลงานวิจัยนวัตกรรมเท้าเทียมไดนามิกส์เอสเพส มาผลิตเพื่อแจกจ่ายให้กับผู้พิการขาขาดจำนวน 300 ราย ได้เข้าถึงเท้าเทียมคุณภาพสูง โดยแจกจ่ายผ่านโรงพยาบาลของรัฐจำนวน 22 แห่ง

ไอคอน PDPA

เราใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของคุณ (ตั้งค่า)

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

Accept All
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • Necessary cookies
    เปิดใช้งานตลอด

    Necessary cookies are essential for the functioning of the website, allowing you to use and browse the site normally. You cannot disable these cookies in our website's system.

  • คุกกี้วิเคราะห์เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน

    คุกกี้เหล่านี้ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ เช่น จำนวนผู้เข้าชม, หน้าเว็บที่ได้รับความนิยม และพฤติกรรมการท่องเว็บ ซึ่งช่วยให้เจ้าของเว็บไซต์ปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ได้

  • คุกกี้การทำงานเพื่อจดจำการตั้งค่าผู้ใช้

    คุกกี้เหล่านี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ โดยจดจำการตั้งค่าที่ผู้ใช้เคยกำหนดไว้ เช่น ชื่อผู้ใช้, ภาษา, ภูมิภาค หรือการปรับแต่งเว็บไซต์ตามความต้องการ

Save