ขจัดความยากจนทุกรูปแบบ ทุกสถานที่

End poverty in all its forms everywhere.

กรณีศึกษา / กฎและข้อบังคับ ที่เกี่ยวข้อง

จุฬาฯ ร่วมกับชุมชนมอแกลน พัฒนาทุนนิเวศวัฒนธรรม สู่การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

คณะอักษรศาสตร์ ร่วมกับคณะเศรษฐศาสตร์ สถาบันไทยศึกษา และสถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ลงพื้นที่อำเภอท้ายเหมืองและอำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา เพื่อสำรวจบริบทชุมชน ศึกษาทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้นำท้องถิ่นและชาวบ้านกลุ่มชาติพันธุ์มอแกลน ทั้งนี้เพื่อวางแผนพัฒนาแนวทางการจัดการการท่องเที่ยวเชิงนิเวศวัฒนธรรมที่เกื้อกูลต่อสิ่งแวดล้อมและสอดคล้องกับวิถีชีวิตของชุมชน

จุฬาฯ กับความร่วมมือเพื่อฟื้นชีวิตป่าชุมชนไทย: ป่าอยู่รอด ชุมชนยั่งยืน

ป่าชุมชน เป็นป่าที่ชุมชนในพื้นที่ใกล้เคียงสามารถเข้าใช้ประโยชน์ต่าง ๆ ที่ผสานรวมเป็นวิถีชีวิตของคนในชุมชนมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่การหาของป่าต่าง ๆ เพื่อเป็นอาหาร ยาสมุนไพรรักษาโรค รวมถึงเป็นสินค้าเพื่อสร้างรายได้ให้แก่คนในชุมชน โดยชุมชนจะรวมกันดูแลรักษาพื้นป่าเหล่านี้ด้วยตนเอง ทำให้ป่าชุมชนเปรียบเสมือนพื้นที่กันชน เพื่อไม่ให้ชุมชนบุกรุกเข้าไปเขตพื้นที่อนุรักษ์

รายงานสถิติจำนวนนิสิตที่เข้าศึกษาที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในปีการศึกษา 2567

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยตระหนักถึงความสำคัญของการส่งเสริมความเท่าเทียมและการเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาอย่างทั่วถึงสำหรับทุกกลุ่มประชากร จึงได้ดำเนินการจัดเก็บและติดตามข้อมูลนิสิตในกลุ่มต่าง ๆ ที่เริ่มเข้าศึกษาในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในแต่ละปีการศึกษา เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลในการวิเคราะห์แนวโน้ม การวางแผนนโยบาย และการดำเนินมาตรการสนับสนุนกลุ่มผู้ด้อยโอกาส

จุฬาฯ กับการสรรหาและการให้โอกาสอย่างเท่าเทียมกับกลุ่มผู้ด้อยโอกาส

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นสถาบันการศึกษาทางวิชาการและวิชาชีพชั้นสูงที่บริหารงานโดยยึดมั่นในหลักความ เท่าเทียม เคารพสิทธิมนุษยชน ความเสมอภาค การอยู่ร่วมกัน และความหลากหลายของบุคคลทุกคนในทุกมิติ โดยไม่เลือกปฏิบัติหรือจำกัดสิทธิประโยชน์ใด ๆ ที่สมควรได้รับโดยชอบ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมต่อเชื้อชาติ สัญชาติ สีผิว ภาษา ศาสนา เพศตามกำเนิดและเพศสภาพ อายุ สถานภาพการสมรส สภาวะหรือความพร้อมทางร่างกาย ความทุพพลภาพ หรือสิ่งอื่นใดที่เป็นความแตกต่างเฉพาะบุคคล

ความร่วมมือระหว่างจุฬาฯ กับองค์กร NGOs เพื่อผลักดันด้านการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างความร่วมมือกับองค์กรภายนอกทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ เพื่อพัฒนาแนวทางและเสริมศักยภาพด้านการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างเป็นรูปธรรม มหาวิทยาลัยได้ดำเนินโครงการและกิจกรรมร่วมกับองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรหลายแห่ง เพื่อบูรณาการองค์ความรู้ด้านสิ่งแวดล้อม เมืองยั่งยืน และการพัฒนาอย่างครอบคลุมให้เกิดผลลัพธ์ที่ยั่งยืนในระดับชุมชนและภูมิภาค

หลากหลายกิจกรรมการศึกษาเพื่อสร้างความยั่งยืนของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่จัดสู่ชุมชนและสังคมปี 2567-2568

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในฐานะสถาบันการศึกษา มุ่งเน้นใช้องค์ความรู้ที่มีหลากหลายศาสตร์ในการพัฒนาชุมชนและสังคมให้ดีขึ้น การดำเนินการด้านหนึ่งของมหาวิทยาลัยจึงได้ดำเนินการจัดกิจกรรมด้านการศึกษาให้กับสังคมในวงกว้างทั้งกับกลุ่มศิษย์เก่า ประชาชนทั่วไป ผู้อยู่อาศัยในท้องถิ่น ผู้พลัดถิ่นเพื่อให้ส่งเสริมให้คนทุกกลุ่มมีความรู้ในการดูแลตนเอง และสามารถเป็นกำลังคนที่มาช่วยในการพัฒนาชุมชนและสังคมต่อไปได้ รวมทั้งเป็นการช่วยลดความเหลื่อมล้ำในสังคมด้วย

ความร่วมมือกับ NGOs เพื่อจัดการงานด้าน SDGs ผ่านหลากหลายโครงการและกิจกรรมของจุฬาฯ ปี 2567-2568

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยให้ความสำคัญกับการสร้างความร่วมมือกับองค์กรภาคประชาสังคม (NGOs) ในการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) โดยบูรณาการการทำงานระหว่างภาควิชาการและภาคสังคม ผ่านโครงการและกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ ทั้งด้าน โครงการอาสาพัฒนานิสิต การดำเนินงานวิจัยเพื่อการพัฒนา และการสร้างองค์ความรู้และสื่อการเรียนรู้ เพื่อใช้ในการแก้ไขปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อมร่วมกัน

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกับความร่วมมือเพื่อการพัฒนาเมืองและที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมอย่างยั่งยืน

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยให้ความสำคัญกับการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืนและการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยทำงานร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่น ภาครัฐ และภาคเอกชนในการวางแผนและพัฒนาเมืองอย่างเป็นระบบ เพื่อสร้างชุมชนเมืองที่น่าอยู่และเท่าเทียม มหาวิทยาลัยใช้ศักยภาพทางวิชาการและงานวิจัยเพื่อสนับสนุนการกำหนดนโยบาย กลไกการบริหารจัดการพื้นที่ และนวัตกรรมที่ส่งเสริมการพัฒนาเมืองในมิติสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล

นโยบายการรับเข้าศึกษาและการรับเข้าทำงานที่ไม่เลือกปฏิบัติของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นสถาบันการศึกษาทางวิชาการและวิชาชีพชั้นสูงที่บริหารงานโดยยึดมั่นในหลักความ เท่าเทียม เคารพสิทธิมนุษยชน ความเสมอภาค การอยู่ร่วมกัน และความหลากหลายของบุคคลทุกคนในทุกมิติ โดยไม่เลือกปฏิบัติหรือจำกัดสิทธิประโยชน์ใด ๆ ที่สมควรได้รับโดยชอบ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมต่อเชื้อชาติ สัญชาติ สีผิว ภาษา ศาสนา เพศตามกำเนิดและเพศสภาพ อายุ สถานภาพการสมรส สภาวะหรือความพร้อมทางร่างกาย ความทุพพลภาพ หรือสิ่งอื่นใดที่เป็นความแตกต่างเฉพาะบุคคล

นโยบายและการดำเนินงานด้านการสนับสนุนความเท่าเทียมและการเข้าถึงสำหรับบุคคลที่มีภาวะทุพพลภาพของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างสภาพแวดล้อมที่เท่าเทียมและเอื้อต่อการเรียนรู้ของทุกคน โดยเฉพาะกลุ่มผู้ที่มีภาวะทุพพลภาพหรือความต้องการพิเศษ มหาวิทยาลัยได้กำหนดนโยบายและมาตรการด้านการเข้าถึงและการสนับสนุนที่ชัดเจน เพื่อให้ทุกคนในรั้วจุฬาฯ สามารถใช้ชีวิต เรียนรู้ และทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพ

การดำเนินงานด้านการถ่ายทอดองค์ความรู้สู่พื้นที่ชุมชนและสังคมภายนอกของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยให้ความสำคัญกับการขยายผลองค์ความรู้จากมหาวิทยาลัยสู่พื้นที่ชุมชนและสังคมภายนอกมหาวิทยาลัย ผ่านโครงการหรือกิจกรรมหรือหลักสูตรการถ่ายทอดความรู้เชิงรุก ทั้งแบบ ad-hoc and programmed เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนและสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างยั่งยืน

กิจกรรมเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิตสาธารณะตลอดปีที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ 2567-2568

ด้วยความมุ่งมั่นให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิตสาธารณะที่ทุกคนสามารถเข้าถึงกิจกรรมเหล่านี้ได้ โดยไม่คำนึงถึงเชื้อชาติ ศาสนา ความทุพพลภาพ หรือเพศ  จึงได้ดำเนินการจัดโครงการและกิจกรรมสาธารณะด้านวิชาการ การถ่ายทอดความรู้ และการฝึกอบรมสายอาชีพสำหรับประชาชนอย่างสม่ำเสมอตลอดทั้งปี