กรณีศึกษา

จุฬาฯ กับการเสริมพลังเกษตรกรด้วยองค์ความรู้การจัดการโกโก้และการจัดการที่ดินอย่างยั่งยืน

“จุฬาฯ ตั้งศูนย์นวัตกรรมการวิจัยและพัฒนาโกโก้ไทยเพื่อความยั่งยืน กู้วิกฤตราคาโกโก้ตกต่ำด้วยการถ่ายทอดความรู้ที่ถูกต้องให้เกษตรกร ตั้งแต่การปลูก เก็บเกี่ยว จนถึงการหมัก ส่งเสริมธุรกิจแปรรูปในพื้นที่ ย้ำโกโก้ไทยยังไปต่อได้ แต่ต้องเน้น “ตลาดคุณภาพ” งานคราฟที่อวดเอกลักษณ์กลิ่นและรสโกโก้ไทย” 

สำนักวิชาทรัพยากรการเกษตร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธัญศิภรณ์ ณ น่าน ได้จัดตั้งศูนย์นวัตกรรมการวิจัยและพัฒนาโกโก้ไทยเพื่อความยั่งยืน (The Innovation Center for Research and Development of Sustainable Thai Cacao (ISTC)  [ https://www.facebook.com/cusarcocoa ] เพื่อหาทางออกช่วยเกษตรกรและหน่วยธุรกิจที่เกี่ยวข้องในระบบนิเวศเศรษฐกิจโกโก้ในประเทศไทย มาตั้งแต่ปี 2566 และมีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

โดยมีพันธกิจหลักคือร่วมมือกับเกษตรกรทั่วประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่ที่ปลูกโกโก้และกำลังประสบปัญหา ทั้งในด้านคุณภาพผลผลิต ราคาตก และการใช้ที่ดินที่อาจไม่ยั่งยืน การจัดตั้งศูนย์นี้จึงเปรียบเสมือนสะพานเชื่อมระหว่างงานวิจัยของมหาวิทยาลัยและการปฏิบัติจริงในพื้นที่ชุมชนเกษตร

สำหรับกิจกรรมที่ศูนย์ฯ ดำเนินการ มีทั้งการเปิดอบรมให้ความรู้ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายให้กับเกษตรกรถึงกระบวนการตั้งแต่เริ่มต้น  คือ ตั้งแต่การเลือก “พื้นที่ปลูก” ที่เหมาะสมกับสายพันธุ์โกโก้ การเตรียมดินและระบบน้ำอย่างครบวงจร การจัดการหลังการเก็บเกี่ยว ปัจจัยและเงื่อนไขที่ต้องคำนึงถึงที่หลายครั้งถูกมองข้าม เช่น การหมักคัดเกรดเมล็ดโกโก้ให้ได้คุณภาพสูง หรือการใช้ข้อมูล/เทคโนโลยีสนับสนุน เช่น แอปพลิเคชันเพื่อช่วยประเมินพื้นที่ปลูก ทั้งหมดนี้คือการถ่ายทอดความรู้เพื่อให้เกิด การใช้ที่ดินอย่างเหมาะสมและยั่งยืน ไม่ใช่เพียงปลูกแล้วได้ผล แต่ปลูกอย่างมีคุณภาพ มีคุณค่า และไม่ทำลายทรัพยากรด้วย

การดำเนินการที่ผ่านมา ศูนย์ฯ ได้เข้าทำงานร่วมกับเกษตรกรจริงในพื้นที่หลักใน 6 จังหวัด ได้แก่ น่าน, เชียงราย, เชียงใหม่, เลย, พิษณุโลก และนครศรีธรรมราช โดยมีเป้าหมายเกษตรกร 200–300 ครอบครัว ซึ่งผลงานต่อเนื่องคือ เกษตรกรสามารถเปลี่ยนวิธีการปลูก ปรับพื้นที่ปลูกโกโก้ได้อย่างมีระบบ ลดการใช้วิธีการที่ส่งผลเสียต่อที่ดินและสิ่งแวดล้อม และเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจให้ตัวเองและชุมชน

[ https://www.chula.ac.th/highlight/176853/ ]

ตัวอย่างกิจกรรมถ่ายทอดความรู้ของศูนย์ฯ

ศูนย์ฯ ดำเนินการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “การจัดการแปลงปลูกโกโก้และการดูแลต้นโกโก้อย่างถูกวิธี” ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกโกโก้และผู้ที่สนใจปลูกโกโก้ ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดจันทบุรี จังหวัดชลบุรี และจังหวัดใกล้เคียง โดยไม่มีค่าใช้จ่าย วิทยากรโดย อาจารย์จากสำนักวิชาทรัพยากรการเกษตร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย [ https://www.facebook.com/share/16TjEVhGoF/ ]

  • วันที่ 3 มีนาคม 2568 ณ จุดรับซื้อโกโก้ คุณ ต.โต้ง อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
  • วันที่ 15 มีนาคม 2568 ณ PK Chocolate อำเภอหนองใหญ่ จังหวัดชลบุรี
  • วันที่ 16 มีนาคม 2568 ณ บีนทูบาร์ช็อคโกแล็ต อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี

ที่มา :   สำนักวิชาทรัพยากรการเกษตร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

อื่นๆ

CU Innovations for Society ภารกิจกู้วิกฤติโควิด-19 เพื่อคนไทย

“นวัตกรรมจุฬาฯ” รับใช้ชาติกู้สถานการณ์โควิด-19 ดูแลคนไทยครบทุกมิติทั้งป้องกัน (Prevent) ปกป้อง (Protect) และรักษา (Cure) ช่วยแก้ปัญหาและยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย ทั้งยังสามารถต่อยอดขยายไปยังประเทศเพื่อนบ้านในเอเชีย

ค่ายวิศวพัฒน์ ส่งต่อองค์ความรู้การจัดการน้ำสู่ชุมชนเพื่อความยั่งยืน

คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประกอบด้วย 12 ภาควิชา รวมถึง ภาควิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม วิศวกรรมโยธา วิศวกรรมสำรวจ และวิศวกรรมแหล่งน้ำ พร้อมด้วยคณาจารย์ผู้ทรงความรู้ ถือเป็นแหล่งบ่มเพาะองค์ความรู้ที่สำคัญทางการชลประทานที่พร้อมถ่ายทอดสู่นิสิต นำไปสู่การฝึกปฏิบัติจริงในการแก้ปัญหาด้านการจัดการน้ำให้กับชุมชนห่างไกล ผ่านค่ายวิศวพัฒน์ ซึ่งเป็นโครงการค่ายวิศวกรรมอาสาพัฒนาชนบทที่พร้อมปลูกฝังความเป็นผู้นำทั้งในด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมให้แก่นิสิตจิตอาสาที่เข้าร่วมค่าย

พื้นที่สีเขียวของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พื้นที่เปิดเพื่อชุมชนและสังคมที่ทุกคนเข้าถึงได้

การจัดการพื้นที่ให้ร่มรื่นด้วยการปลูกต้นจามจุรีและต้นไม้ใหญ่ใน 14 สวน เป็นพื้นที่สีเขียวในรั้วมหาวิทยาลัยที่เปิดให้ชาวจุฬาฯ และประชาชนทั่วไปทุกเพศทุกวัย ได้เข้ามาใช้ประโยชน์ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ได้พักผ่อนหย่อนใจคลายร้อน เพิ่มอากาศที่บริสุทธิ์ ลดมลพิษ ส่งเสริมสุขภาพ สร้างการมีส่วนร่วมกับชุมชนเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน

จังหวัดชลบุรีมั่นใจ ศูนย์เรียนรู้ธนาคารปูม้าเกาะสีชังอุ้มประมงชายฝั่งยั่งยืนทุกมิติ

วัตถุประสงค์หลักเพื่อพัฒนาองค์ความรู้และเทคโนโลยีการเพาะพันธุ์ปูม้าแบบฟาร์มบนบก ช่วยเพิ่มอัตราการรอดของลูกพันธุ์ปูม้าจากการสลัดไข่ของแม่ปูม้า ซึ่งกลุ่มชาวประมงเรือเล็กหรือชาวประมงพื้นบ้านจะนำแม่ปูม้าที่มีไข่ติดกระดองมาฝากไว้ที่ศูนย์เรียนรู้ธนาคารปูม้าบนบกเพื่อให้ไข่ฟักตัวเป็นลูกปูม้าวัยอ่อนแทนที่จะนำออกขายทันที

ไอคอน PDPA

เราใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของคุณ (ตั้งค่า)

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

Accept All
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • Necessary cookies
    เปิดใช้งานตลอด

    Necessary cookies are essential for the functioning of the website, allowing you to use and browse the site normally. You cannot disable these cookies in our website's system.

  • คุกกี้วิเคราะห์เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน

    คุกกี้เหล่านี้ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ เช่น จำนวนผู้เข้าชม, หน้าเว็บที่ได้รับความนิยม และพฤติกรรมการท่องเว็บ ซึ่งช่วยให้เจ้าของเว็บไซต์ปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ได้

  • คุกกี้การทำงานเพื่อจดจำการตั้งค่าผู้ใช้

    คุกกี้เหล่านี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ โดยจดจำการตั้งค่าที่ผู้ใช้เคยกำหนดไว้ เช่น ชื่อผู้ใช้, ภาษา, ภูมิภาค หรือการปรับแต่งเว็บไซต์ตามความต้องการ

Save