Future literacy เป็นสาขาสหวิทยาการที่รวมแนวคิดจากอนาคต การมองการณ์ไกล การวางแผนเชิงกลยุทธ์ การวางแผนสถานการณ์ และการคิดเชิงออกแบบ องค์กรต้องมีผู้ความสามารถนี้เพื่อคาดการณ์และเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลง และสร้างอนาคตในลักษณะเชิงรุก Future literacy เป็นทักษะที่สำคัญในศตวรรษที่ 21 ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้เตรียมความพร้อมให้กับนิสิตและชุมชนรอบข้าง โดยใช้แนวทางการเรียนการสอนที่เน้นการคิดเชิงวิพากษ์ การทำงานร่วมกัน การประกอบการ และการเรียนรู้ตลอดชีวิตเพื่อสนับสนุนการพัฒนานิสิต ชุมชน และสังคมโดยรวม โดยมีเป้าหมายในการสร้างผู้นำที่จะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG)
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยให้ความสำคัญอย่างมากกับการส่งเสริม Future literacy ให้กับนิสิต โดยตระหนักว่าทักษะนี้เป็นทักษะที่สำคัญสำหรับอนาคต เพื่อสนับสนุนสิ่งนี้ มหาวิทยาลัยได้จัดตั้งแพลตฟอร์มการเรียนรู้ข้ามสาขาวิชา เช่น CU Innovation Hub และ CU Social Innovation Hub ซึ่งนิสิต อาจารย์ และนักวิจัยจากสาขาวิชาต่างๆ สามารถมาทำงานร่วมกันได้ แพลตฟอร์มเหล่านี้เปิดโอกาสให้นิสิตได้ขยายขอบเขตการเรียนรู้ ค้นหาแนวทางใหม่ๆ เพื่อจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นและสร้างวิธีแก้ปัญหาที่เป็นนวัตกรรม
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยให้การสนับสนุนทีมนวัตกรรมเพื่อสังคมกว่า 304 ทีม ในการพัฒนานวัตกรรมเพื่อสังคม เช่น การพัฒนาวัคซีนป้องกัน COVID-19 แอปพลิเคชั่นติดตามการขนส่งสาธารณะแบบเรียลไทม์ และผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นนวัตกรรมอื่นๆ ซึ่งเปิดโอกาสให้นิสิตได้เรียนรู้และใช้ความคิดสร้างสรรค์ ในการแก้ปัญหาที่ความท้าทายในโลกแห่งความเป็นจริง
นอกจากนี้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้แต่งตั้ง รองศาสตราจารย์ ดร.ณัชชา ทวีแสงสกุลไทย ให้ดำรงตำแหน่ง Global Chief Innovation Officer (CIO) เพื่อสร้างความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชั้นนำและองค์กรระหว่างประเทศในภาคส่วนต่างๆ ในบทบาทนี้ CIO จะรับผิดชอบในการผลักดันนวัตกรรมและเปิดโอกาสใหม่สำหรับการเติบโต ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย องค์กรภายนอก โดยจะทำงานอย่างใกล้ชิดกับผู้นำในภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร และภาครัฐ เพื่อให้แน่ใจว่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยสามารถปรับตัวเข้ากับความต้องการและแนวโน้มที่เปลี่ยนแปลงในโลกได้ นอกจากนี้ CIO จะช่วยให้มหาวิทยาลัยมีส่วนร่วมในการพัฒนาการแก้ปัญหาที่เป็นนวัตกรรมสำหรับความท้าทายทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับโลก รวมถึงการส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งนวัตกรรมภายในองค์กร
ที่มา: สำนักบริหารวิรัชกิจและเครือข่ายนานาชาติ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
อื่นๆ
การส่งเสริมการใช้น้ำอย่างรู้คุณค่าภายในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ในการดำเนินการเพื่อสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในด้านน้ำสะอาดและสุขาภิบาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้มีการจัดทำโครงการและดำเนินการกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อเป็นการส่งเสริมให้อาจารย์ นิสิต และบุคลากรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตระหนักถึงความสำคัญและรู้จักใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า
“MindSpace” แพลตฟอร์มออนไลน์ใหม่แก้ปัญหาสุขภาพจิตนิสิต
ปัจจุบัน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีนิสิตทุกระดับที่กำลังศึกษาอยู่ ราว 37,000 คน นิสิตจำเป็นต้องเรียนออนไลน์ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และได้รับผลกระทบในหลายมิติโดยเฉพาะด้านสภาพจิตใจ Chula Student Wellness Center จึงสำรวจภาวะสุขภาพจิตของนิสิตในปีการศึกษาล่าสุด พบว่า ร้อยละ 15 ของนิสิตทั้งหมดหรือประมาณ 5,550 คน ต้องการความช่วยเหลือจากนักจิตวิทยาและจิตแพทย์
นวัตเกษตรกร : สำนักวิชาทรัพยากรการเกษตร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ผสมผสานศาสตร์และศิลป์ของเทคโนโลยีการผลิตพืชและปศุสัตว์ การแปรรูปอาหาร ความปลอดภัยของอาหาร ธุรกิจการเกษตร และระบบการจัดส่งสินค้า สอนนักเรียนให้รวมความรู้ดั้งเดิมเข้ากับการวิจัยใหม่เพื่อพัฒนาแนวคิดและเทคโนโลยีการเกษตรเชิงนวัตกรรมที่รับมือกับความท้าทายในการพัฒนาท้องถิ่น
คณะทำงานบริหารดูแลด้านความเท่าเทียม ความหลากหลาย และการอยู่ร่วมกันของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นสถานศึกษาทางวิชาการและวิชาชีพชั้นสูง ซึ่งบริหารงานโดยยึดหลักความเท่าเทียม เคารพสิทธิมนุษยชน ความเสมอภาค การอยู่ร่วมกัน และความหลากหลายของบุคคลทุกคนในทุกมิติ โดยไม่เลือกปฏิบัติหรือจำกัดสิทธิประโยชน์ใด ๆ ที่สมควรได้รับโดยชอบ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมต่อเชื้อชาติ สัญชาติ สีผิว ภาษา ศาสนา เพศตามกำเนิดและเพศสภาพ อายุ สถานภาพการสมรส สภาวะหรือความพร้อมทางร่างกาย ความทุพพลภาพ หรือสิ่งอื่นใดที่เป็นความแตกต่างเฉพาะบุคคล




