กรณีศึกษา

โครงการออกกำลังกายอย่างปลอดภัยด้วยเทรนเนอร์ส่วนบุคคลและวิทยาศาสตร์การกีฬา อาสาปันสุข (สุขภาพกาย และสุขภาพใจ)

“จุฬาฯ ห่วงใยสุขภาพชุมชน ชวนออกกำลังกายง่าย ๆ ช่วงโควิด” คนไทยมีพฤติกรรมเสี่ยงโรคไม่ติดต่อและการบาดเจ็บเพิ่มสูงขึ้น โดยสำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขได้สำรวจและเล็งเห็นแนวโน้มมาตั้งแต่ปี 2558 พบความชุกของคนที่มีภาวะน้ำหนักเกิน ถึงร้อยละ 30.5 ภาวะอ้วน ร้อยละ 7.5 ภาวะการสูบบุหรี่ ร้อยละ 21.3 และการดื่มแอลกอฮอล์ ร้อยละ 36.2 ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยแรงงานและกลุ่มผู้สูงอายุที่ขาดการออกกำลังกายและการบริโภคอาหารไม่ถูกหลักโภชนาการ

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยซึ่งตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพมหานครและพรั่งพร้อมไปด้วยสาธารณูปโภคที่เอื้อต่อการเรียนการสอนด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ นอกจากจะมีสนามกีฬากลางแจ้ง โรงยิมเนเซียม สระว่ายน้ำ สนามกีฬาในร่มขนาดใหญ่ ฟิตเนส รองรับการเรียนการสอน การแข่งขันมหกรรมกีฬา กิจกรรมนันทนาการ และกิจกรรมสันทนาการหลากหลายรูปแบบที่จัดไว้อย่างเพียงพอสำหรับนิสิตและบุคลากรแล้ว ยังได้เปิดพื้นที่ให้ชุมชนรอบมหาวิทยาลัยเข้ามาร่วมใช้สาธารณูปโภคและเครื่องออกกำลังกายกลางแจ้งต่าง ๆ ควบคู่ไปกับการจัดทำโครงการส่งเสริมสุขภาวะทั้งกายใจชักชวนให้ชุมชนในเขตปทุมวันและพื้นที่ใกล้เคียงออกกำลังกายอย่างถูกวิธีตามหลักวิทยาศาสตร์การกีฬาผ่าน “โครงการออกกกำลังกายอย่างภัยด้วยเทรนเนอร์ส่วนบุคคล” โดยคณะวิทยาศาสตร์การกีฬาจัดให้มีเทรนเนอร์ส่วนบุคคล จำนวน 3 คน เพื่อนำสอนออกกำลังกายและให้คำปรึกษาด้านโภชนาการอย่างเหมาะสมและมีสิทธิภาพให้กับประชาชนที่สนใจ จำนวน 9 คน

นอกจากนี้ ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ประชาชนมีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อโดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุที่มีแนวโน้มติดเชื้อได้มากกว่ากลุ่มอื่นด้วยมีร่างกายเสื่อมถอยตามอายุ จึงมีความเสี่ยงด้านสุขภาพ และต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิดมากกว่า ทำให้ได้รับผลกระทบในหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็น การออกกำลังกาย การซื้อสิ่งของอุปโภคบริโภค รวมไปถึงความรู้สึกที่บั่นทอนสุขภาพจิตของผู้สูงอายุ คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงดำเนินโครงการวิทยาศาสตร์การกีฬา อาสาปันสุข (สุขภาพกาย และสุขภาพใจ) โดยให้นิสิตจำนวน 8 คน นำความรู้ด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาและการออกกำลังกายมาแนะนำกิจกรรมการออกกำลังกายให้ผู้สูงอายุในชุมชนรอบจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จำนวน 65 คน ผ่านรูปแบบออนไลน์ ร่วมกับการนำศิลปะและวัฒนธรรมไทยมาประยุกต์ให้เข้ากับการออกกำลังกายอย่างง่ายผ่านคลิปวิดีโอสอนออกกำลังกาย เพื่อให้ผู้สูงอายุสนุกสนานและ รู้สึกมีคุณค่า ไม่โดดเดี่ยว ในสถานการณ์ที่ต้องรักษาระยะห่างระหว่างกันตามมาตรการของรัฐบาล

ที่มา:

คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

รายละเอียดที่เกี่ยวข้อง:

อื่นๆ

จุฬาฯ ต้าน COVID-19 ด้วยกลยุทธ์หลายมิติ; การวินิจฉัย การรักษา และการฉีดวัคซีน

ในช่วงวิกฤตโรคระบาด COVID-19 ทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้สนับสนุนงานวิจัย การบริการ และนวัตกรรมมากมายแก่สังคมเพื่อฟื้นคืนสถานการณ์ที่ตึงเครียด ซึ่งรวมถึงวิธีการวินิจฉัย แพลตฟอร์มออนไลน์ด้านการดูแลผู้ป่วย (วอร์ดเสมือน) และงานด้านศูนย์บริการวัคซีน

รูปแบบที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุไทยเพื่อส่งเสริมสุขภาพกาย สุขภาพใจ ภายใต้แนวคิดชุมชนที่เป็นมิตรกับผู้สูงอายุ

ปัจจุบันประเทศไทยได้กลายเป็นสังคมสูงวัย ตั้งแต่ พ.ศ. 2548 โดยปัญหาสุขภาพทั้งทางกาย และจิตใจ ยังคงเป็นปัจจัยที่สำคัญหนึ่งของผู้สูงอายุ ในด้านที่อยู่อาศัยพบว่า ผู้สูงอายุในประเทศไทยส่วนใหญ่ถึงร้อยละ 92.44 ต้องการที่จะอยู่อาศัยในที่อยู่อาศัยเดิม และต้องการปรับปรุงที่อยู่อาศัย และสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับผู้สูงอายุ ตามแนวคิด การสูงวัยในถิ่นเดิม (Aging in place) ปัจจัยสำคัญคือ ที่อยู่อาศัยต้องถูกออกแบบให้เป็นที่อยู่อาศัยที่สามารถเข้าถึงได้ ซึ่งจำเป็นต้องมีความเกี่ยวโยงกับชุมชนที่ต้องดำเนินการปรับสภาพแวดล้อมของชุมชนให้เอื้อต่อการใช้ชีวิตของผู้สูงอายุเช่นเดียวกัน

อุทยาน 100 ปี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ป่ากลางเมือง พื้นที่สีเขียวเพื่อชุมชนที่ใครๆ ก็เข้าถึงได้

พื้นที่กว่า 29 ไร่ ของจุฬาฯ อันเกิดขึ้นจากนโยบายการสร้างเมือง GREEN & CLEAN CITY และเพื่อเป็นการตามรอยพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในการพระราชทานที่ดินให้แก่จุฬาฯ เพื่อให้เป็นพื้นที่สำหรับการเรียนรู้และคืนประโยชน์สู่สังคมส่วนร่วม