ความร่วมมือในการสำรวจระดับนานาชาติ “ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมและการรับรู้ผลกระทบจากโรคโคโรน่าไวรัส 2019 (โควิด-19)”
วิทยาลัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้รับความไว้วางใจและร่วมมือกับสมาคมมหาวิทยาลัยภาคพื้นแปซิฟิก (APRU) ในการสำรวจระดับนานาชาติ “ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมและการรับรู้ผลกระทบจากโรคโควิด-19 (COVID-19)” โดยการศึกษาครั้งนี้มุ่งเน้นการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกและประเมินผลกระทบของโรคโควิด-19 ในช่วงปี พ.ศ. 2565 – 2566 ซึ่งมุ่งหวังที่จะช่วยในการพัฒนาแนวทางในการจัดการกับการระบาดของโรคโควิด-19 และเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการจัดการต่อโรคระบาดที่คล้าย ๆ กัน ในอนาคต
การศึกษานี้เป็นความร่วมมือในการรวบรวมข้อมูลระหว่างสมาชิกของสมาคมมหาวิทยาลัยภาคพื้นแปซิฟิก (APRU) ดำเนินการโดยโครงการสุขภาพทั่วโลกใน 14 ประเทศ ได้แก่ จีน ฮ่องกง เวียดนาม สิงคโปร์ เอกวาดอร์ เม็กซิโก อินโดนีเซีย นิวซีแลนด์ สหรัฐอเมริกา ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย มาเลเซีย และไทย โดยมีผู้เข้าร่วมในงานวิจัยนี้ทั้งสิ้น 8,400 คน โดยมีผู้เข้าร่วม 600 คนจากประเทศไทย

วัตถุประสงค์หลักของการวิจัยนี้ คือ เพื่อให้มีความเข้าใจอย่างครอบคลุมเกี่ยวกับพฤติกรรมและการรับรู้ผลกระทบของโรคโควิด-19 ต่อบุคคลทั่วประเทศที่เข้าร่วม เพื่อศึกษาพฤติกรรมและการรับรู้ผลที่ตามมาจากการระบาดโรคโควิด-19 ในกลุ่มคนที่มีโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง และกลุ่มคนที่ไม่มีโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง โดยการตรวจสอบระดับความยืดหยุ่นและความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการรับมือที่ไม่เหมาะสม การศึกษานี้มุ่งเสนอข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญสำหรับการพัฒนากลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพซึ่งสามารถช่วยในการจัดการโรคระบาดและเสริมสร้างความยืดหยุ่นสำหรับการระบาดในอนาคต
การวิจัยนี้มีการผลิตผลงานวิจัยตีพิมพ์ จำนวน 3 ผลงาน ได้แก่
- “Resilience level and its association with maladaptive coping behaviors in the COVID-19 pandemic: a global survey of the general populations”, Globalization and Health (2023)1
- “Factors Associated with Vaccination Intention against the COVID-19 Pandemic: A Global Population-Based Study”, Plos One, (2022)2
- “Factors associated with weight gain during COVID-19 pandemic: A global study”, MDPI, (2023)3
การตีพิมพ์เผยแพร่ในครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเพิ่มพูนความรู้ระดับโลกเกี่ยวกับโรคโควิด-19 แต่ยังเป็นแนวทางที่สำคัญสำหรับผู้กำหนดนโยบาย นักวิจัย และผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับการจัดการและตอบสนองต่อภาวะวิกฤติโรคโควิด-19 ความร่วมมือในการรวบรวมข้อมูลกับ APRU ทำให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยสามารถมีส่วนร่วมในความพยายามระดับโลกที่มุ่งเป้าไปที่การทำความเข้าใจผลกระทบของโรคระบาดและรูปแบบพฤติกรรม
การมีส่วนร่วมของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในงานวิจัยนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยในการทำงานร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อแก้ไขปัญหาสุขภาพระดับโลก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทในการสร้างความสามารถในการปรับตัวและเป็นการลดผลกระทบจากโรคระบาดที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
โดยสรุป ความร่วมมือระหว่างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกับ APRU ในความร่วมมือวิจัยระดับนานาชาตินี้ มีบทบาทสำคัญในการให้ข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญเกี่ยวกับผลกระทบทางพฤติกรรมและการรับรู้ของ โรคโควิด-19 โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับปรุงกลยุทธ์การจัดการโรคระบาดทั่วโลก ความรู้ที่ได้จากความร่วมมือนี้ ถือเป็นทรัพยากรที่มีค่าในการต่อสู้กับโรคระบาดที่ยังคงดำเนินอยู่ และการเตรียมพร้อมสำหรับวิกฤติสุขภาพในอนาคต การมีส่วนร่วมของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือระหว่างประเทศในการรับมือกับความท้าทายด้านสุขภาพทั่วโลก ซึ่งถือเป็นแนวปฏิบัติที่ดีในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)
1 https://globalizationandhealth.biomedcentral.com/articles/10.1186/s12992-022-00903-8
2 https://journals.plos.org/plosone/article?id=10.1371/journal.pone.0284283
3 https://www.mdpi.com/2076-393X/10/9/1539
อื่นๆ
“Chula-Cov19” วัคซีน mRNA สัญชาติไทยขยับเข้าใกล้ความสำเร็จ
ของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในประเทศไทยตลอดช่วงสองปีที่ผ่านมาทำให้เราได้เห็นศักยภาพของ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ที่มีส่วนช่วยให้ประเทศไทยรับมือกับวิกฤติด้านสาธารณสุขระดับโลกนี้ได้ดี ทั้งความพร้อมด้านการบริหารจัดการสถานที่ แพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ ตลอดจนการนำทักษะ องค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมล้ำสมัย เข้ามาใช้ดูแลพี่น้องประชาชนตามมาตรฐานสากลและเฝ้าระวังการแพร่ระบาดตามมาตรการที่องค์การอนามัยโลกประกาศไว้
รื้อถอนแท่นปิโตรเลียมกลางอ่าวไทยอย่างไร ให้ความหลากหลายทางชีวภาพในท้องทะเลไทยยังคงอยู่
เร่งสร้างองค์ความรู้ให้เพียงพอและพร้อมใช้นำมาบริหารจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมทางทะเลนอกชายฝั่งอ่าวไทย โดยเฉพาะในกระบวนการวางแผนหาแนวทางที่เหมาะสม และตัดสินใจเชิงนโยบายที่เกี่ยวกับกิจกรรมการรื้อถอนแท่นปิโตรเลียมในอ่าวไทย
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกับภารกิจสู้วิกฤตน้ำมันรั่วไหลพิทักษ์ท้องทะเลไทย
ปัญหาระบบนิเวศชายฝั่งทะเลไทยได้รับผลกระทบจากการรั่วไหลของน้ำมันดิบหลากหลายรูปแบบยังคงได้รับความสนใจจากประชาชนในวงกว้างทุกครั้งที่ถูกนำเสนอโดยสื่อมวลชน เพราะในทุกปี ผู้คนที่อาศัยอยู่ใกล้ชายฝั่งหรือบริเวณป่าชายเลนในประเทศไทยจะพบคราบน้ำมันและก้อนน้ำมันบนชายฝั่งซึ่งเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม สิ่งมีชีวิต และกระทบการท่องเที่ยวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
นวัตกรรมโดรนใต้น้ำจากจุฬาฯ กับภารกิจพิทักษ์ท้องทะเลไทย
วิทยาศาสตร์ของมวลมนุษยชาติเป็นไปด้วยความล่าช้า และทำให้ความจริงของธรรมชาติประการสำคัญยังมิถูกพิสูจน์ทราบตามหลักฐานทางวิชาการ แต่เมื่อเทคโนโลยีเจริญรุดหน้า มนุษย์จึงพัฒนานวัตกรรมอากาศยานไร้คนขับ (Unmanned Aerial Vehicle : UAV) และนำมาใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในภารกิจสำรวจทางธรรมชาติเพื่อให้ผู้สำรวจได้รับความสะดวกสบายและเกิดความปลอดภัยขณะปฏิบัติงาน




