กรณีศึกษา

บางโพลีฟวิ่งแล็บ: โครงการสร้างแพลตฟอร์มการเรียนรู้ร่วมกับชุมชน ผ่านการวางแผนการอนุรักษ์และพัฒนาชุมชนถนนสายไม้บางโพ

ชุมชนถนนสายไม้ ถนนประชานฤมิตร ย่านบางโพ เป็นแหล่งรวมการทำไม้ครบวงจรทั้งโรงเลื้อย ผลิตภัณฑ์จากไม้ และงานไม้แกะสลัก ที่มีอัตลักษณ์จากการสั่งสมภูมิปัญญาช่างพื้นถิ่นหลายแขนงสืบต่อกันมากกว่า 60 ปี แต่เมื่อวิถีชีวิตของคนเมืองเปลี่ยนแปลงไป ทำให้รูปแบบผลิตภัณฑ์ และการเข้าถึงสินค้าไม่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ส่งผลให้เศรษฐกิจการค้าของชุมชนลดลงและซบเซาถึงร้อยละ 67 ชุมชนไม่มีความร่วมมือและต่างคนต่างอยู่ถึงร้อยละ 58 รวมถึงกายภาพของชุมชนที่เริ่มเสื่อมโทรม ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมจากการเผาวัสดุไม้เหลือใช้จำนวนมาก อีกทั้งขาดคนรุ่นใหม่ที่จะสืบทอดภูมิปัญญาการทำไม้ จนอาจนำไปสู่การสูญเสียมรดกทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นในชุมชนทำไม้ที่เหลือเพียงแห่งเดียวของกรุงเทพมหานคร เพื่อส่งเสริมให้ชุมชนแห่งนี้ได้กลับมาเป็นที่รู้จัก และพัฒนาสินค้าไม้ต่าง ๆ ให้เข้ากับวิถีชีวิตของคนเมืองในปัจจุบัน สืบสานภูมิปัญญาช่างพื้นถิ่น ทางคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงดำเนินโครงการวิจัยด้านนวัตกรรมทางสังคม Bang Po Living Lab โดยได้รับทุนสนับสนุนจาก ศูนย์กลางนวัตกรรมทางสังคมแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

โครงการวิจัยนี้ มุ่งเน้นการร่วมสร้าง (Co-Creation) ระหว่างคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กับชุมชนถนนสายไม้บางโพ ให้ชุมชนสามารถวางแผนระดับชุมชน (Community Planning) กำหนดยุทธศาสตร์และขับเคลื่อนชุมชนไปสู่ย่านสร้างสรรค์และพื้นที่การเรียนรู้แห่งใหม่ของกรุงเทพมหานคร ผ่านการดำเนินการวิจัยและกิจกรรมนำร่องใน 7 วิชาร่วมกัน โดยใช้กระบวนการสร้างแพลทฟอร์มและพื้นที่การเรียนรู้ในลักษณะลีฟวิ่งแล็ป (Living Lab) ซึ่งใช้พื้นที่ชุมชนเป็นพื้นที่เรียนรู้ประสบการณ์จริงนอกห้องเรียนสำหรับนิสิตจำนวน 266 คน ร่วมกับผู้ประกอบการในชุมชนกว่า 50 คน จากร้านค้าในชุมชนกว่า 200 แห่ง เกิดการถ่ายทอดความรู้จากการออกแบบสู่การสร้างจริงและนิสิตเรียนรู้ทักษะจากชุมชน ในขณะที่ชุมชนก็ได้เรียนรู้แนวคิดและทักษะใหม่จากนิสิตและคณาจารย์ ผ่านการอนุรักษ์พัฒนาผลิตภัณฑ์และพื้นที่ชุมชน รวมถึงการสร้างอัตลักษณ์และแบรนด์ของชุมชนถนนสายไม้ ร่วมกับภาคีทั้งหมด 15 หน่วยงาน ระหว่างปี พ.ศ. 2565-2566 นำไปสู่นิทรรศการ Bang Po(ssible) 2: Co-Creation Learning Platform with Community ตลอดเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2566 ซึ่งมีผู้สนใจทั้งหมดประมาณ 1,000 คนตลอดการจัดนิทรรศการ เป็นการประชาสัมพันธ์และส่งเสริมให้ชุมชนถนนสายไม้ ถนนประชานฤมิตร กลับมาเป็นที่รู้จักอีกครั้ง

โครงการวิจัย Bang Po Living Lab ทำให้ชุมชนถนนประชานฤมิตรเป็นที่รู้จักเพิ่มขึ้น ได้ถูกรับเลือกเป็น 1 ใน 20 พื้นที่นำร่องย่านสร้างสรรค์ของกรุงเทพมหานคร เกิดกิจกรรมนำชมชุมชนและงานไม้ ตลอดจนพัฒนาอาชีพของคนในชุมชน เช่น การซ่อมแซมเฟอร์นิเจอร์เดิมร่วมกับวัสดุสมัยใหม่ การออกแบบและสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ สามารถลดวัสดุเหลือใช้จากไม้ ส่งผลให้การค้าขายและเศรษฐกิจของชุมชนดีขึ้น คนรุ่นใหม่สนใจสืบสานงานไม้และเข้ามาบริหารชุมชนมากขึ้น จากเดิมกลุ่มกรรมการบริหารชุมชนมีเพียง 10 คน อยู่ในวัย 45-60 ปี แต่ปัจจุบันเพิ่มเป็นกว่า 30 คน และเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่อายุ 25-44 ปี โดยโครงการวิจัยนี้สามารถเป็นต้นแบบในการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นอันเป็นอัตลักษณ์ของชุมชนผ่านการทำ Living Lab สามารถนำไปต่อยอดการร่วมสร้างและขับเคลื่อนการอนุรักษ์และพัฒนาชุมชนที่มีอยู่กว่า 2,000 ชุมชนในกรุงเทพมหานคร

ที่มา

  • คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • ศูนย์กลางนวัตกรรมทางสังคมแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

รายละเอียดที่เกี่ยวข้อง:

อื่นๆ

การเพิ่มคุณภาพชีวิตให้คนพิการขาขาดทั่วประเทศไทยด้วยนวัตกรรมเท้าเทียมไดนามิกส์เอสเพส (sPace)

โครงการเพิ่มคุณภาพชีวิตให้คนพิการขาขาดทั่วประเทศไทยด้วยนวัตกรรมเท้าเทียมไดนามิกเอสเพส โดยได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว) ผ่านสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช) โดยได้นำเอาผลงานวิจัยนวัตกรรมเท้าเทียมไดนามิกส์เอสเพส มาผลิตเพื่อแจกจ่ายให้กับผู้พิการขาขาดจำนวน 300 ราย ได้เข้าถึงเท้าเทียมคุณภาพสูง โดยแจกจ่ายผ่านโรงพยาบาลของรัฐจำนวน 22 แห่ง

เปิดภารกิจฟื้นฟูชายฝั่งมาบตาพุด แนวทางสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน

นิคมอุตสาหกรรมและท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดตั้งอยู่ในจังหวัดระยอง บนเนื้อที่ทั้งหมด 12,568 ไร่ ปัจจุบันนิคมอุตสาหกรรมแห่งนี้เป็นฐานการผลิตของอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของประเทศ และเป็นพื้นที่การลงทุนของอุตสาหกรรมต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ที่สามารถเชื่อมโยงไปยังอุตสาหกรรมการผลิตมากมาย อาทิ อุปกรณ์เครื่องใช้ บรรจุภัณฑ์ อุปกรณ์ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนยานยนต์ เสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ รวมถึงยังช่วยส่งเสริมศักยภาพของอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ

CU Innovations for Society ภารกิจกู้วิกฤติโควิด-19 เพื่อคนไทย

เมื่อโลกถูกเขย่าอย่างรุนแรงด้วยเชื้อไวรัสที่แพร่ระบาดกลายเป็นโรคอุบัติใหม่ “โควิด-19” ปลุกให้หลายประเทศจำเป็นต้องลุกขึ้นมารับมือกับโรคร้ายนี้เพื่อดูแลประชาชนคนในชาติของตนรวมถึงประเทศไทยของเราด้วย

CU Innovation Hub: เสริมพลังขับเคลื่อน Start-ups พลิกโฉมอนาคตสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ

ศูนย์กลางนวัตกรรมแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 มุ่งหวังให้เป็นหน่วยงานในการสนับสนุนและเร่งสร้าง Start-ups ที่มีคุณภาพ ตอบสนองนโยบาย Thailand 4.0 และเพื่อพัฒนากำลังคนที่มีทักษะและความสามารถในการคิดเชิงนวัตกรรม รวมทั้งการเป็นศูนย์กลางการสร้างนวัตกรรมที่ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคม โดยเชื่อมโยงงานวิจัย เทคโนโลยี สิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญา และการบ่มเพาะธุรกิจ Startup สู่ตลาดจริง

ไอคอน PDPA

เราใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของคุณ (ตั้งค่า)

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

Accept All
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • Necessary cookies
    เปิดใช้งานตลอด

    Necessary cookies are essential for the functioning of the website, allowing you to use and browse the site normally. You cannot disable these cookies in our website's system.

  • คุกกี้วิเคราะห์เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน

    คุกกี้เหล่านี้ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ เช่น จำนวนผู้เข้าชม, หน้าเว็บที่ได้รับความนิยม และพฤติกรรมการท่องเว็บ ซึ่งช่วยให้เจ้าของเว็บไซต์ปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ได้

  • คุกกี้การทำงานเพื่อจดจำการตั้งค่าผู้ใช้

    คุกกี้เหล่านี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ โดยจดจำการตั้งค่าที่ผู้ใช้เคยกำหนดไว้ เช่น ชื่อผู้ใช้, ภาษา, ภูมิภาค หรือการปรับแต่งเว็บไซต์ตามความต้องการ

Save