บางโพลีฟวิ่งแล็บ: โครงการสร้างแพลตฟอร์มการเรียนรู้ร่วมกับชุมชน ผ่านการวางแผนการอนุรักษ์และพัฒนาชุมชนถนนสายไม้บางโพ
“คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดำเนินโครงการวิจัย Bang Pho Living Lab ได้รับทุนสนับสนุนจาก ศูนย์กลางนวัตกรรมทางสังคมแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ไม้ของชุมชนถนนสายไม้ ย่านบางโพให้กลับมาเป็นที่รู้จักและส่งเสริมการสืบทอดภูมิปัญญาของชุมชน ผ่านการสร้างพื้นที่ร่วมทดลองปฏิบัติการจริง โดยนิสิต 266 คน สามารถร่วมเรียนรู้กับชุมชน พัฒนาผลิตภัณฑ์ไม้ให้ตรงกับความต้องการของตลาดร่วมกัน และร่วมจัดนิทรรศการ Bang Po(ssible) 2: Co-Creation Learning Platform with Community ตลอดเดือนกรกฎาคม 2566 ผลจากการดำเนินงาน ทำให้ชุมชนได้ถูกรับเลือกเป็น 1 ใน 20 พื้นที่นำร่องย่านสร้างสรรค์ของกรุงเทพมหานคร ผลิตภัณฑ์ไม้ได้รับความสนใจและค้าขายได้ดีขึ้น คนรุ่นใหม่สนใจสืบสานงานไม้และเข้ามาบริหารชุมชนมากขึ้น เป็นต้นแบบ Living Lab เพื่ออนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นของชุมชน”
ชุมชนถนนสายไม้ ถนนประชานฤมิตร ย่านบางโพ เป็นแหล่งรวมการทำไม้ครบวงจรทั้งโรงเลื้อย ผลิตภัณฑ์จากไม้ และงานไม้แกะสลัก ที่มีอัตลักษณ์จากการสั่งสมภูมิปัญญาช่างพื้นถิ่นหลายแขนงสืบต่อกันมากกว่า 60 ปี แต่เมื่อวิถีชีวิตของคนเมืองเปลี่ยนแปลงไป ทำให้รูปแบบผลิตภัณฑ์ และการเข้าถึงสินค้าไม่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ส่งผลให้เศรษฐกิจการค้าของชุมชนลดลงและซบเซาถึงร้อยละ 67 ชุมชนไม่มีความร่วมมือและต่างคนต่างอยู่ถึงร้อยละ 58 รวมถึงกายภาพของชุมชนที่เริ่มเสื่อมโทรม ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมจากการเผาวัสดุไม้เหลือใช้จำนวนมาก อีกทั้งขาดคนรุ่นใหม่ที่จะสืบทอดภูมิปัญญาการทำไม้ จนอาจนำไปสู่การสูญเสียมรดกทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นในชุมชนทำไม้ที่เหลือเพียงแห่งเดียวของกรุงเทพมหานคร เพื่อส่งเสริมให้ชุมชนแห่งนี้ได้กลับมาเป็นที่รู้จัก และพัฒนาสินค้าไม้ต่าง ๆ ให้เข้ากับวิถีชีวิตของคนเมืองในปัจจุบัน สืบสานภูมิปัญญาช่างพื้นถิ่น ทางคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงดำเนินโครงการวิจัยด้านนวัตกรรมทางสังคม Bang Po Living Lab โดยได้รับทุนสนับสนุนจาก ศูนย์กลางนวัตกรรมทางสังคมแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
โครงการวิจัยนี้ มุ่งเน้นการร่วมสร้าง (Co-Creation) ระหว่างคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กับชุมชนถนนสายไม้บางโพ ให้ชุมชนสามารถวางแผนระดับชุมชน (Community Planning) กำหนดยุทธศาสตร์และขับเคลื่อนชุมชนไปสู่ย่านสร้างสรรค์และพื้นที่การเรียนรู้แห่งใหม่ของกรุงเทพมหานคร ผ่านการดำเนินการวิจัยและกิจกรรมนำร่องใน 7 วิชาร่วมกัน โดยใช้กระบวนการสร้างแพลทฟอร์มและพื้นที่การเรียนรู้ในลักษณะลีฟวิ่งแล็ป (Living Lab) ซึ่งใช้พื้นที่ชุมชนเป็นพื้นที่เรียนรู้ประสบการณ์จริงนอกห้องเรียนสำหรับนิสิตจำนวน 266 คน ร่วมกับผู้ประกอบการในชุมชนกว่า 50 คน จากร้านค้าในชุมชนกว่า 200 แห่ง เกิดการถ่ายทอดความรู้จากการออกแบบสู่การสร้างจริงและนิสิตเรียนรู้ทักษะจากชุมชน ในขณะที่ชุมชนก็ได้เรียนรู้แนวคิดและทักษะใหม่จากนิสิตและคณาจารย์ ผ่านการอนุรักษ์พัฒนาผลิตภัณฑ์และพื้นที่ชุมชน รวมถึงการสร้างอัตลักษณ์และแบรนด์ของชุมชนถนนสายไม้ ร่วมกับภาคีทั้งหมด 15 หน่วยงาน ระหว่างปี พ.ศ. 2565-2566 นำไปสู่นิทรรศการ Bang Po(ssible) 2: Co-Creation Learning Platform with Community ตลอดเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2566 ซึ่งมีผู้สนใจทั้งหมดประมาณ 1,000 คนตลอดการจัดนิทรรศการ เป็นการประชาสัมพันธ์และส่งเสริมให้ชุมชนถนนสายไม้ ถนนประชานฤมิตร กลับมาเป็นที่รู้จักอีกครั้ง
โครงการวิจัย Bang Po Living Lab ทำให้ชุมชนถนนประชานฤมิตรเป็นที่รู้จักเพิ่มขึ้น ได้ถูกรับเลือกเป็น 1 ใน 20 พื้นที่นำร่องย่านสร้างสรรค์ของกรุงเทพมหานคร เกิดกิจกรรมนำชมชุมชนและงานไม้ ตลอดจนพัฒนาอาชีพของคนในชุมชน เช่น การซ่อมแซมเฟอร์นิเจอร์เดิมร่วมกับวัสดุสมัยใหม่ การออกแบบและสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ สามารถลดวัสดุเหลือใช้จากไม้ ส่งผลให้การค้าขายและเศรษฐกิจของชุมชนดีขึ้น คนรุ่นใหม่สนใจสืบสานงานไม้และเข้ามาบริหารชุมชนมากขึ้น จากเดิมกลุ่มกรรมการบริหารชุมชนมีเพียง 10 คน อยู่ในวัย 45-60 ปี แต่ปัจจุบันเพิ่มเป็นกว่า 30 คน และเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่อายุ 25-44 ปี โดยโครงการวิจัยนี้สามารถเป็นต้นแบบในการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นอันเป็นอัตลักษณ์ของชุมชนผ่านการทำ Living Lab สามารถนำไปต่อยอดการร่วมสร้างและขับเคลื่อนการอนุรักษ์และพัฒนาชุมชนที่มีอยู่กว่า 2,000 ชุมชนในกรุงเทพมหานคร
ที่มา
- คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- ศูนย์กลางนวัตกรรมทางสังคมแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
รายละเอียดที่เกี่ยวข้อง:
SDG ที่เกี่ยวข้อง
อื่นๆ
ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมและการรับรู้ผลกระทบจากโรคโคโรน่าไวรัส 2019 (โควิด-19): การสำรวจระดับนานาชาติ
การแพร่ระบาดของโรคโควิด19 ทั่วโลกยังคงมีอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีวัคซีนแล้ว แต่ไวรัสก็ยังกลายพันธุ์ได้อยู่ และยังส่งผลกระทบต่อมนุษย์เป็นอย่างมาก ดังนั้นการหาข้อมูลหรือการเก็บข้อมูลที่จะเก็บประเด็นผลกระทบต่างๆจึงมีความสำคัญ โดยเฉพาะการเก็บข้อมูลในวงกว้างระดับภูมิภาค จึงเป็นหน้าที่ของมหาวิทยาลัยในภาคีเครือขายของ Association of Pacific Rim Universities (APRU) ในหน่วย Global Health Program ซึ่งมหาวิทยาลัยที่เป็นสมาชิกทั้งหมด 60 มหาวิทยาลัย จาก 19 ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จึงได้มีการทำโครงการสำรวจข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมและการรับรู้ผลกระทบจากโรคโคโรน่าไวรัส 2019 (โควิด-19) ขึ้น
การวิเคราะห์ลายนิ้วมือน้ำมันดิบ ติดตามมลพิษ: วิทยาลัยปิโตรเลียมและปิโตรเคมีทำงานเพื่อแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่กำลังเพิ่มขึ้น
ทุกๆ ปี ผู้คนที่อาศัยอยู่ใกล้ชายฝั่งหรือบริเวณป่าชายเลนในประเทศไทยจะพบคราบน้ำมันและก้อนน้ำมันบนชายฝั่ง ซึ่งเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม สิ่งมีชีวิต และกระทบการท่องเที่ยว โดยในช่วงหลังๆ ปริมาณก้อนน้ำมันที่พบเห็นเพิ่มมากขึ้น แสดงให้เห็นถึงปัญหาที่เลวร้ายมากขึ้น
การเพิ่มคุณภาพชีวิตให้คนพิการขาขาดทั่วประเทศไทยด้วยนวัตกรรมเท้าเทียมไดนามิกส์เอสเพส (sPace)
โครงการเพิ่มคุณภาพชีวิตให้คนพิการขาขาดทั่วประเทศไทยด้วยนวัตกรรมเท้าเทียมไดนามิกเอสเพส โดยได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว) ผ่านสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช) โดยได้นำเอาผลงานวิจัยนวัตกรรมเท้าเทียมไดนามิกส์เอสเพส มาผลิตเพื่อแจกจ่ายให้กับผู้พิการขาขาดจำนวน 300 ราย ได้เข้าถึงเท้าเทียมคุณภาพสูง โดยแจกจ่ายผ่านโรงพยาบาลของรัฐจำนวน 22 แห่ง
เปิดเบื้องหลังความสำเร็จบนเส้นทางแห่งการพัฒนาวัคซีนจุฬาฯ
Chula VRC ก่อตั้งขึ้นในปี 2560 มีความมุ่งมั่นที่จะสร้างความเสมอภาคทางด้านวัคซีนให้เกิดขึ้นได้จริง ซึ่งถือเป็นภารกิจในระดับนานาชาติ โดยมีพันธกิจในการวิจัย และพัฒนาวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ และมีความปลอดภัย ในราคาที่สามารถเข้าถึงได้ โดยเฉพาะในงานด้านการป้องกันโรคติดเชื้อและโรคไม่ติดเชื้อชนิดต่าง ๆ