กรณีศึกษา

การดำเนินการนโยบายด้านความยั่งยืนกับ Outsource ของจุฬาฯ

จากการดำเนินงานตามนโยบายด้านการจัดการขยะและขยะอันตราย (พ.ศ. 2560) (Chulalongkorn University announcement on waste and hazardous waste management policy BE 2560) [ http://www.sustainability.chula.ac.th/rule-regulation/366/ ] และ มาตรการลดขยะพลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้งในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (พ.ศ. 2561) (Chulalongkorn University announcement on Measures to Reduce Single-Use Plastic Waste BE 2561) [http://www.sustainability.chula.ac.th/rule-regulation/360/ ] มหาวิทยาลัยขยายการดำเนินการนโยบายด้านการบริหารจัดการขยะให้ครอบคลุมถึงร้านค้า ซึ่งเป็น Outsource ผู้ให้บริการอาหาร (food service) ในโรงอาหารส่วนกลางของมหาวิทยาลัยด้วย  โดยระบุในสัญญาร้านค้า ให้ปฏิบัติตามนโยบายและมาตรการต่าง ๆ ด้านการจัดการขยะ โดยต้องให้ความร่วมมือกับโครงการ Chula Zero Waste ที่มีเป้าหมายในการลดการก่อขยะ ส่งเสริมการแยกขยะนำกลับไปใช้ประโยชน์ และการปลูกฝังจิตสำนึกส่งเสริมการบริโภคอย่างยั่งยืนภายในมหาวิทยาลัยให้แก่นิสิต คณาจารย์ บุคลากรจุฬาฯ

โดยข้อกำหนดที่ระบุในสัญญาร้านค้าที่เป็น Outsource ให้บริการอาหารหรือเครื่องดึ่ม ให้ปฏิบัติตามนโยบายและมาตรการต่าง ๆ ด้านการจัดการขยะและการส่งเสริมการบริโภคอย่างยั่งยืนภายในมหาวิทยาลัย มีตัวอย่างเช่น

  • ผู้เช่าจะต้องให้ความร่วมมือกับโครงการ Chula Zero Waste ของมหาวิทยาลัยในการคัดแยกขยะเศษอาหาร ขยะทั่วไปและอื่นๆ รวมทั้งต้องทำความสะอาดห้องเก็บขยะเป็นประจำทุกวัน
  • ผู้เช่าต้องใช้เครื่องปรุงเครื่องดื่มและขนมหวานทุกชนิดที่มีมาตรฐานรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข หรือสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอก.) หรือหน่วยงานอื่นที่รับรองความปลอดภัยอาหารของประเทศไทย
  • ผู้เช่าต้องให้ความร่วมมือตามโครงการระบบความปลอดภัยอาหารของโรงอาหารรวมในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (การไม่ใช้น้ำมันทอดซ้ำและสุขาภิบาลอาหาร) และหากคณะกรรมการบริหารโรงอาหารรวมตรวจพบว่าผู้เช่าไม่ได้ให้ความร่วมมือตามโครงการฯ ผู้ให้เช่ามีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ทันที
  • ผู้เช่าและผู้ปฏิบัติงานในร้านค้าทุกคนต้องเข้ารับการอบรมสุขาภิบาลอาหารที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นผู้จัดขึ้น
สัญญาเช่าสถานที่จำหน่ายอาหาร
สัญญาเช่าสถานที่จำหน่ายเครื่องดื่ม

นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยโดยโครงการ Chula Zero Waste ได้จัดการประชุมประจำปีผู้ประกอบการร้านค้าซึ่งเป็น Outsource ในโรงอาหารรวมขึ้น  เพื่อเป็นเวทีในการชี้แจงนโยบาย มาตรการ และระบบการจัดการขยะภายในโรงอาหารของมหาวิทยาลัยให้แก่ผู้ให้บริการอาหารได้รับรู้ อีกทั้งเป็นเวทีในการรับฟังปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงานและหาทางออกร่วมกัน  โดยได้มีการจัดขึ้นทุกปีตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปัจจุบัน การประชุมประชุมประจำปีประกอบกับการทำงานร่วมกันกับผู้ให้บริการอาหารอย่างต่อเนื่อง  ทำให้เกิด engagement และสร้างความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยกับผู้ให้บริการอาหารเป็นผลให้เกิดการขับเคลื่อนนโยบายการจัดการขยะสู่การปฏิบัติจริง อาทิเช่น

  • การแยก Food waste / Organic waste จากการเตรียมอาหารและประกอบอาหารในครัว  โดยมีการรวบรวมขยะประเภทนี้ทุกวันจากทุกโรงอาหารนำไปเข้าเครื่อง Bio-digester เพื่อแปรรูปเป็นสารปรับปรุงดินและน้ำหมักชีวภาพนำไปใช้ในการบำรุงรักษาต้นไม้ในบริเวณพื้นที่สีเขียวของมหาวิทยาลัย  โดยในปี 2563 สามารถรวบรวม Food waste / Organic waste ได้ปริมาณ 92.3 ตัน และสามารถแปรรูปเป็นสารปรับปรุงดินได้ 7.6 ตัน กับน้ำหมักชีวภาพจำนวน 37,000 ลิตร
  • ลดการใช้ Single-use plastic ในโรงอาหาร  งดการแจกถุงพลาสติกฟรีสำหรับ take away order  รวมถึงจะให้ช้อนส้อมพลาสติก หรือ หลอดพลาสติกเมื่อผู้รับบริการร้องขอเท่านั้น
  • เลิกการใช้แก้วพลาสติกในโรงอาหารและเปลี่ยนเป็นแก้ว “Zero Waste Cup” ที่เป็นแก้ว biodegradable และมีการจัดการแบบ closed-loop management โดยมีถังทิ้งเฉพาะแก้วนี้เพื่อรวบรวมกลับมาย่อยและหมักเป็นปุ๋ย และยังสามารถนำแก้วใช้แล้วนี้ไปใช้ใส่ดินอนุบาลต้นอ่อนได้ (แทนการใช้ถุงพลาสติก) ก่อนนำไปลงดินปลูกโดยไม่ต้องนำต้นไม้ออกจากภาชนะเนื่องจากสามารถย่อยสลายได้เองเมื่อฝังลงในดิน

รวมไปถึง ร้านค้าผู้ให้บริการอาหารและเครื่องดื่มยังให้ความร่วมมือในการบันทึกข้อมูลปริมาณขยะประเภทต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายในร้าน และให้ความร่วมมือในการให้ส่วนลดแก่ผู้ใช้บริการที่นำภาชนะหรือแก้วส่วนตัวมาใช้ในโรงอาหาร  เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างแรงจูงใจในการเสริมสร้าง Eco Lifestyle in campus 

ที่มา:

สถาบันวิจัยสภาวะแวดล้อม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
สำนักบริหารระบบกายภาพ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

รายละเอียดที่เกี่ยวข้อง:

อื่นๆ

การสนับสนุนของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรื่องการปฏิบัติงานที่ยืดหยุ่นของบุคลากร

ถึงแม้ว่าในปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ได้คลี่คลายลงและลดระดับความรุนแรงของโรคจนกลายเป็นโรคประจำถิ่นแล้ว แต่จากการเกิดสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของทางภาครัฐ ดำเนินการปรับตัวและปรับเปลี่ยนรูปแบบการปฏิบัติงานของบุคลากรจากรูปแบบเดิมที่กำหนดให้บุคลากรต้องเข้ามาปฏิบัติงาน ณ สถานที่ตั้งของหน่วยงานภายในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยเท่านั้น สู่ลักษณะของการปฏิบัติงานที่มีความยืดหยุ่น รองรับชีวิตและการทำงานวิถีใหม่

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกับการสนับสนุน ดูแล และให้บริการกับกลุ่มบุคคลผู้พิการ

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมและการเข้าถึงบริการต่าง ๆ ของทุกคน รวมถึงกลุ่มผู้พิการที่ต้องการการสนับสนุนในรูปแบบเฉพาะ เพื่อให้สามารถเรียนรู้และใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยได้อย่างเต็มศักยภาพ

บริษัท ซียูเอ็นเทอร์ไพรส์ จำกัด จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

สนับสนุนการสร้างนวัตกร นวัตกรรม ผู้ประกอบการ และธุรกิจ ในประชาคมจุฬาฯ มุ่งสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมให้มีความสมบูรณ์

จุดบริการน้ำดื่มที่สะอาด ปลอดภัย และฟรีทั่วทั้งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยสำหรับทุก ๆ คน

ปัจจุบันจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้จัดให้มีจุดบริการน้ำดื่มฟรีกว่า 130 จุด ทั่วทั้งมหาวิทยาลัย เพื่อบริการให้กับนิสิตและบุคลากร ตลอดจนบุคคลภายนอกที่เข้ามาติดต่อ เยี่ยมชม หรือใช้บริการหน่วยงานต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัย และประชาชนทั่วไปที่เข้ามาในพื้นที่ของมหาวิทยาลัย โดยจุดบริการน้ำดื่มนอกจากฟรีแล้ว แน่นอนว่ามหาวิทยาลัยมีการดูแลความสะอาด ปลอดภัย และมีการดูแลบำรุงรักษาตามมาตรฐานอย่างสม่ำเสมอ

ไอคอน PDPA

เราใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของคุณ (ตั้งค่า)

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

Accept All
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • Necessary cookies
    เปิดใช้งานตลอด

    Necessary cookies are essential for the functioning of the website, allowing you to use and browse the site normally. You cannot disable these cookies in our website's system.

  • คุกกี้วิเคราะห์เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน

    คุกกี้เหล่านี้ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ เช่น จำนวนผู้เข้าชม, หน้าเว็บที่ได้รับความนิยม และพฤติกรรมการท่องเว็บ ซึ่งช่วยให้เจ้าของเว็บไซต์ปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ได้

  • คุกกี้การทำงานเพื่อจดจำการตั้งค่าผู้ใช้

    คุกกี้เหล่านี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ โดยจดจำการตั้งค่าที่ผู้ใช้เคยกำหนดไว้ เช่น ชื่อผู้ใช้, ภาษา, ภูมิภาค หรือการปรับแต่งเว็บไซต์ตามความต้องการ

Save