กรณีศึกษา

ธนาคารปูม้า เกาะสีชัง ต้นแบบศูนย์เรียนรู้เพิ่มทางรอดปูม้าไทยคืนสู่ท้องทะเลได้ถึงร้อยละ 60

คุณคิดว่า เมื่อมีปูม้าที่มีไข่ติดมา 457 ตัว จะได้ลูกปูม้าจำนวนเท่าไหร่ เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา (2563) มีชาวประมงที่จับปูม้าที่ท้องนอกกระดองมาให้ ศูนย์เรียนรู้ธนาคารปูม้าบนบก อำเภอเกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี เป็นจำนวน 457 ตัว เพื่อเพาะเป็นลูกปูม้า ปรากฎว่าศูนย์สามารถดูแลปูไข่จนลูกปูม้าถึง 565,219,724 ตัว และแม้ลูกปูม้าจะมีเปอร์เซนต์รอดชีวิตที่ 40-60% ศูนย์ก็ยังสามารถเอาลูกปูม้าไปปล่อยในทะเลได้เป็นพันตัว นับตั้งแต่เดือนมกราคมหลังจากที่ชาวประมงเริ่มมีการนำปูท้องนอกกระดองมามอบให้ที่ศูนย์ เหล่านี้คือตัวเลขที่มหัศจรรย์ที่ศูนย์เรียนรู้ธนาคารปูม้าบนบก กำลังทำให้เกิดในทะเลไทย และทำให้ความกังวลว่าปูม้าไทยจะสูญพันธ์ ผู้บริโภคไทยจะขาดแคลนปูม้าที่เป็นอาหารทะเลยอดนิยมได้หมดไป

“ปูม้า อาหารทะเลที่มีความต้องการสูง แต่ความสามารถในการจับปูม้าลดลง โดยเฉพาะในสถานที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เช่นที่เกาะสีชัง ปูม้าจะมีราคาแพงมาก” ดร.นิลนาจ ชัยธนาวิสุทธิ์ (NILNAJ CHAITANAWISUTI) นักวิชาการจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ศูนย์เรียนรู้ธนาคารปูม้า อธิบาย

แต่ในขณะเดียวกัน เมื่อชาวประมงจับปูม้าไข่นอกกระดองก็ไม่สามารถนำออกไปขายได้เนื่องจากผิดกฎหมาย “เพื่อช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ เมื่อชาวประมงได้ปูม้าที่มีไข่นอกกระดองมา ก็จะต้องเอามาฝากไว้กับโครงการของเรา แล้วเราก็ทำหน้าที่เลี้ยงจนกระทั่งมันฟักตัวออกมา ซึ่งวิธีการนี้มันจะทำให้ประชากรปูม้าที่กำลังลดลง เพิ่มขึ้นได้ และเป็นการลดการลักลอบจับปูม้าไข่นอกกระดองไปขายด้วย” ดร.นิลนาจ อธิบาย

ขณะนี้ผลตอบรับ ดีมาก คือ “เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2561 ชาวประมงไม่ค่อยเห็นความสำคัญ เอาปูมาฝากค่อนข้างน้อย แต่ตอนนี้ทุกหมู่บ้าน ทุกครัวเรือน เอาปูม้าไข่นอกกระดองมาฝากไว้กับเรา “เพราะเขาเริ่มเห็นความสำคัญของโครงการนี้ เพราะตั้งแต่รุ่นพ่อ รุ่นปู่ รุ่นตา เค้าไม่เคยจับปูขนาดเล็ก ๆ ได้เลย” ดร.นิลนาจ เล่าต่อ “เขาจับเอามาให้เราดูแล้วบอกว่า ไม่เคยเห็นปูเล็กขนาดนี้มาก่อนเลย แต่นี่เค้าไปจับมาได้ที่หน้าเกาะ”

เมื่อชาวประมงเห็นศักยภาพโครงการที่จะทำประโยชน์ ให้เขามีปูม้าจำนวนมากให้จับได้ในระยะยาว จึงเริ่มเอาปูม้าไข่นอกกระดองมาที่ศูนย์มากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งในเดือนมิถุนายนเดือนเดียว ได้มีปูม้าไข่นอกกระดองเข้ามามากถึง 457 ตัว

ปูม้า เป็นสัตว์น้ำเค็มที่คนไทยนิยมบริโภคกันอย่างแพร่หลายและเป็นสัตว์เศรษฐกิจสำคัญที่สร้างรายได้ให้การทำประมงชายฝั่ง อีกทั้งยังเป็นวัตถุดิบหนึ่งในภาคอุตสาหกรรมแปรรูปเพื่อการส่งออก จากการเปิดเผยข้อมูลของกรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พบว่า ในปี พ.ศ. 2554 ผลผลิตปูม้าของประเทศไทยมีจำนวนทั้งสิ้น 28,800 ตันต่อปี คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจราว 3,243 ล้านบาท ซึ่งลดลงอย่างมีนัยสำคัญถึงร้อยละ 20-30 จากปี พ.ศ. 2540 ที่ขณะนั้นประเทศไทยมีผลผลิตปูม้าอยู่ราว 40,000 ตันต่อปี ส่งผลกระทบต่อความต้องการบริโภคของตลาดและอุตสาหกรรมแปรรูปเพื่อส่งออก จึงเป็นที่มาของการพัฒนาวิธีการจับปูม้าและเครื่องมือทำประมงให้มีประสิทธิภาพและมีความหลากหลายเพิ่มมากขึ้น จากเดิมที่ชาวประมงไทยเคยใช้แร้วปูม้าแบบขอบเดียว ต่างหันมาใช้ลอบปูม้าแบบพับได้และอวนลอยปูม้า อีกทั้งยังได้พัฒนาอวนลอยปูม้าให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นเป็นอวนแบบจมซึ่งสามารถหย่อนลงได้ถึงก้นทะเลเพื่อเพิ่มอัตราการจับปูม้าและเพิ่มโอกาสจับสัตว์น้ำพลอยจับได้ ซึ่งการดัดแปลงอุปกรณ์ในข้างต้นส่งผลให้ทรัพยากรปูม้าไทยถูกจับมาบริโภคเกินกำลังการขยายพันธุ์ของปูม้าตามธรรมชาติ จนอาจเป็นเหตุให้ปูม้าไทยใกล้สูญพันธุ์ได้ในอนาคต

ด้วยเหตุนี้ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยสถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำ ซึ่งมีสถานีวิจัยวิทยาศาสตร์ทางทะเลและศูนย์ฝึกนิสิตอยู่ที่เกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี จึงได้กำหนดแนวทางฟื้นฟูระบบนิเวศชายฝั่งที่ได้รับผลกระทบจากการทำประมงปูม้า โดยจัดตั้งศูนย์เรียนรู้ธนาคารปูม้าบนบก อำเภอเกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี โดยได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจาก สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.)

วัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาองค์ความรู้และเทคโนโลยีการเพาะพันธุ์ปูม้าแบบฟาร์มบนบก ช่วยเพิ่มอัตราการรอดของลูกพันธุ์ปูม้าจากการสลัดไข่ของแม่ปูม้า ซึ่งกลุ่มชาวประมงเรือเล็กหรือชาวประมงพื้นบ้านจะนำแม่ปูม้าที่มีไข่ติดกระดองมาฝากไว้ที่ศูนย์เรียนรู้ธนาคารปูม้าบนบก เพื่อให้ไข่ฟักตัวเป็นลูกปูม้าวัยอ่อนแทนที่จะนำออกขายทันที “นอกจากนี้ ทางศูนย์ยังมุ่งพัฒนาพ่อแม่พันธุ์ปูม้าให้สามารถผลิตตัวอ่อนที่แข็งแรงเหมาะสมต่อการปล่อยคืนสู่ธรรมชาติช่วยเพิ่มสมดุลให้ประชากรปูม้าในระบบนิเวศได้อีกทางหนึ่ง” ดร.นิลนาจ อธิบายต่อ

มากไปกว่านั้น ศูนย์การเรียนรู้ธนาคารปูม้าบนบกแห่งนี้ยังทำหน้าที่สำคัญในการถ่ายทอดองค์ความรู้สู่กลุ่มเป้าหมายหลักระดับชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในอำเภอเกาะสีชัง โดยมีธนาคารปูม้าเกิดขึ้นแล้วจำนวน 22 แห่ง และยังมีธนาคารปูม้าเกิดขึ้นตามมาในพื้นที่อำเภอใกล้เคียงภายในจังหวัดชลบุรีซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายรองอีกจำนวน 3 แห่ง ใช้เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้เรื่องประมงปูม้าของผู้ที่สนใจ นอกจากนี้ยังสนับสนุนให้คนในชุมชนเกาะสีชังเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงานของศูนย์เรียนรู้ธนาคารปูม้าบนบก รวมถึงร่วมกันติดตามสถานการณ์การทำประมงปูม้าในพื้นที่เกาะสีชังอีกด้วย

ที่ผ่านมา การจัดตั้งศูนย์เรียนรู้ธนาคารปูม้ายังประโยชน์ให้คนบนเกาะสีชังที่ประกอบอาชีพทำประมงราว 3,500 คน คิดเป็นกว่าร้อยละ 70 ของประชากรในพื้นที่ทั้งหมด และศูนย์เรียนรู้แห่งนี้ยังได้รับการพัฒนาให้เป็นต้นแบบกลไกการบูรณาการใช้ประโยชน์จากการวิจัยนวัตกรรมแก้ไขปัญหาสำคัญของประเทศและการบริหารจัดการทรัพยากรของชาติจากการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนอย่างยั่งยืนที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและภาคีเครือข่ายได้ขยายผลไปยังชุมชนในพื้นที่ท้องทะเลไทยในฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน ทั้งสิ้นจำนวนอีก 4 แห่ง ได้แก่ 1) ศูนย์เรียนรู้ธนาคารปูม้าวิสาหกิจชุมชุนบ้านบางเสร่ จังหวัดชลบุรี 2) ศูนย์เรียนรู้ธนาคารปูม้าบ้านเกาะมุกด์ (อ่าวหัวนอน) อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง 3) ศูนย์เรียนรู้ธนาคารปูม้าบ้านเกาะมุกด์ (อ่าวมะขาม) อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง และ 4) ศูนย์เรียนรู้ธนาคารปูม้าบ้านปากคลองท่าทอง อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ปัจจุบัน 2021 ศูนย์เรียนรู้ธนาคารปูม้าบนบก อำเภอเกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี ได้ปรับเป็นศูนย์เรียนรู้ธนาคารสัตว์ทะเลเกาะสีชัง โดยชุมชนเพื่อชุมชนยั่งยืน ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

ที่มา:

สถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

รายละเอียดที่เกี่ยวข้อง:

  • http://www.bangsaensook.com/NEWS/6201-BlueSwimmingCrab-SiChang.html
  • https://www.thairath.co.th/news/local/east/1476965
  • https://www.education4plus.com/home/2019/01/%E0%B8%A7%E0%B8%8A-%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A-%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%97%E0%B8%A3/

อื่นๆ

โครงการออกกำลังกายอย่างปลอดภัยด้วยเทรนเนอร์ส่วนบุคคลและวิทยาศาสตร์การกีฬา อาสาปันสุข (สุขภาพกาย และสุขภาพใจ)

คนไทยมีพฤติกรรมเสี่ยงโรคไม่ติดต่อและการบาดเจ็บเพิ่มสูงขึ้น โดยสำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขได้สำรวจและเล็งเห็นแนวโน้มมาตั้งแต่ปี 2558 พบความชุกของคนที่มีภาวะน้ำหนักเกิน ถึงร้อยละ 30.5 ภาวะอ้วน ร้อยละ 7.5 ภาวะการสูบบุหรี่ ร้อยละ 21.3 และการดื่มแอลกอฮอล์ ร้อยละ 36.2 ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยแรงงานและกลุ่มผู้สูงอายุที่ขาดการออกกำลังกายและการบริโภคอาหารไม่ถูกหลักโภชนาการ

ความร่วมมือกับ NGOs เพื่อจัดการงานด้าน SDGs ผ่านหลากหลายโครงการและกิจกรรมของจุฬาฯ ปี 2567-2568

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยให้ความสำคัญกับการสร้างความร่วมมือกับองค์กรภาคประชาสังคม (NGOs) ในการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) โดยบูรณาการการทำงานระหว่างภาควิชาการและภาคสังคม ผ่านโครงการและกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ ทั้งด้าน โครงการอาสาพัฒนานิสิต การดำเนินงานวิจัยเพื่อการพัฒนา และการสร้างองค์ความรู้และสื่อการเรียนรู้ เพื่อใช้ในการแก้ไขปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อมร่วมกัน

จุฬาฯ ชู “แสมสารโมเดล” แก้ขยะล้นทะเลไทย

จุฬาฯ โดย “ภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะวิทยาศาสตร์” และ“สถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำ” เผยผลสำเร็จ “แสมสารโมเดล” นำร่องแก้ปัญหาขยะบนบกไหลลงทะเลชลบุรี ด้วยหลัก 3Rs ลดขยะพื้นที่แสมสารได้จริงกว่าร้อยละ 30 พร้อมขยายผลความสำเร็จจากชุมชนสู่ระดับชาติ

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย: สานพลังความร่วมมือเพื่อสุขภาวะที่ดีของโลก

ในโลกที่เต็มไปด้วยความท้าทายด้านสุขภาพ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยยืนหยัดเป็นประภาคารแห่งความหวัง ด้วยการทุ่มเทขับเคลื่อน เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG) ข้อที่ 3 ขององค์การสหประชาชาติ—สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของทุกคน ผ่านเครือข่ายความร่วมมือที่ทอดยาวจากชุมชนท้องถิ่นสู่เวทีโลก

ไอคอน PDPA

เราใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของคุณ (ตั้งค่า)

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

Accept All
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • Necessary cookies
    เปิดใช้งานตลอด

    Necessary cookies are essential for the functioning of the website, allowing you to use and browse the site normally. You cannot disable these cookies in our website's system.

  • คุกกี้วิเคราะห์เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน

    คุกกี้เหล่านี้ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ เช่น จำนวนผู้เข้าชม, หน้าเว็บที่ได้รับความนิยม และพฤติกรรมการท่องเว็บ ซึ่งช่วยให้เจ้าของเว็บไซต์ปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ได้

  • คุกกี้การทำงานเพื่อจดจำการตั้งค่าผู้ใช้

    คุกกี้เหล่านี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ โดยจดจำการตั้งค่าที่ผู้ใช้เคยกำหนดไว้ เช่น ชื่อผู้ใช้, ภาษา, ภูมิภาค หรือการปรับแต่งเว็บไซต์ตามความต้องการ

Save