กรณีศึกษา

จุฬาฯ หนุนใช้นวัตกรรมกู้วิกฤตประมงไทย ผุดวิธีแก้ประมงผิดกฎหมาย ช่วยชาติปลดล็อคใบเหลือง IUU

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หนุนใช้ 4 นวัตกรรมกู้วิกฤตประมงไทยต่อยอดผลสำเร็จงานวิจัยการจัดการและถ่ายทอดองค์ความรู้เชิงนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาประมงแบบ IUU แรงงานบังคับและการค้ามนุษย์ในกิจการประมงไทย

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยศูนย์วิจัยการย้ายถิ่นแห่งเอเชีย สถาบันเอเชีย ร่วมกับศูนย์ยุโรปศึกษา และหลักสูตรบริหารกิจการทางทะเล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปลดล็อคใบเหลืองให้ประเทศไทยได้สำเร็จ จากกรณีสหภาพยุโรปได้จัดให้การทำประมงไทยอยู่ในกลุ่มผิดกฎหมาย ด้วยการดำเนินโครงการวิจัยเรื่อง “การจัดการและถ่ายทอดองค์ความรู้เชิงนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาประมงแบบ IUU แรงงานบังคับและการค้ามนุษย์ในกิจการประมงทะเล พ.ศ. 2560-2561” ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ศึกษาชีวิตความเป็นอยู่ของแรงงานประมงไทยพร้อมเชื่อมโยงกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับภาครัฐผลักดันนโยบายสวัสดิการแรงงานในกลุ่มประมงพื้นบ้าน และยังมีส่วนช่วยฟื้นฟูระบบนิเวศท้องทะเลที่เคยได้รับผลกระทบจากการทำประมงมากเกินไปผ่านการกำหนดนโยบายควบคุมระยะเวลาออกเรือพร้อมรายงานการจับสัตว์น้ำอย่างเคร่งครัดเพื่อให้ธรรมชาติได้ฟื้นตัว

ศาสตราจารย์ ดร.สุภางค์ จันทวานิช หัวหน้าโครงการวิจัยฯ กล่าวว่า “ความสำเร็จที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานเชิงนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาด้านการประมงแบบ IUU แรงงานบังคับและการค้ามนุษย์ในกิจการประมงทะเลช่วงปี พ.ศ. 2560 – 2561 ได้สร้างแรงกระเพื่อมต่อหน่วยงานของภาครัฐ ภาคเอกชน รวมไปถึงภาคประชาสังคมจนเกิดความร่วมมือที่ช่วยให้ประเทศสามารถปลดล็อคใบเหลือง IUU จากสหภาพยุโรป เมื่อเดือนมกราคม ปี พ.ศ. 2561 พร้อมได้รับการเลื่อนลำดับความพยายามแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์และแรงงานบังคับจากระดับ 3 ขึ้นมาเป็นระดับ 2 ซึ่งเป็นระยะที่ไม่ต้องเฝ้าระวังในช่วงเดือนมิถุนายน ปี พ.ศ. 2561  ผ่านกระบวนการจัดประชุมสู่การออกแบบนโยบาย อาทิ การประชุมเชิงปฏิบัติการนวัตกรรมในการแก้ปัญหาประมงพื้นบ้าน ปี พ.ศ. 2560 เรื่อง ข้อเสนอประเด็นปัญหาการประมงพื้นบ้านเพื่อหารือแนวทางการปรับปรุงที่เหมาะสม ระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับการประมงพื้นบ้านในประเด็นที่ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนจากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และประชุมระดมสมองเพื่อหารือแนวทางการจัดตั้งเครือข่ายแรงงานประมงทะเลไทย จนเกิดการจัดตั้ง “กลุ่มสหภาพลูกเรือประมงไทยและข้ามชาติ” สะท้อนมุมมองของลูกเรือที่ประสบปัญหาไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องนำไปสู่การผลักดันโครงการ “เรือในฝัน” ให้นายจ้างจัดสิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพและสวัสดิการแก่แรงงานประมง ช่วยคุ้มครองด้านสุขภาพและเงินทดแทนในกรณีต่าง ๆ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นอีกด้วย”

นอกจากนี้ โครงการฯ ยังได้จัดกิจกรรมถ่ายทอดองค์ความรู้ผ่านการประชุมปฏิบัติการจากคณะวิจัย ให้กับผู้กำหนดนโยบายและผู้ปฏิบัติงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจนสามารถนำมาใช้ประโยชน์จากการพัฒนานวัตกรรม 4 ด้าน ได้แก่ นวัตกรรมพัฒนาการประมงพื้นบ้าน นวัตกรรมเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมและเฝ้าระวังการทำประมงทะเล นวัตกรรมงานตรวจแรงงานประมงทะเล และนวัตกรรมเพิ่มประสิทธิภาพการคุ้มครองแรงงานประมงทะเล

ศูนย์วิจัยการย้ายถิ่นแห่งเอเชีย สถาบันเอเชีย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ยังได้มีส่วนร่วมกำหนดนโยบายควบคุมระยะเวลาออกเรือประมงพาณิชย์ที่ใช้เครื่องมือแบบอวนลาก เรือที่ติดเครื่องมืออวนล้อมจับฝั่งอ่าวไทยสามารถทำประมงได้ 240 วัน สำหรับเรือประมงที่จับสัตว์น้ำในฝั่งอันดามันเครื่องมือประเภทอวนลากสามารถทำประมง 270 วัน ใน 1 ปี ทั้งนี้ จำเป็นต้องรายงานการจับสัตว์น้ำอย่างละเอียดถึงชนิด แหล่งที่มา และปริมาณภายในระยะ 30 วันหลังเทียบท่า เพื่อให้ระบบนิเวศท้องทะเลได้ฟื้นตัวตามธรรมชาติ เพิ่มขีดความสามารถของการเพิ่มจำนวนทรัพยากรสัตว์น้ำในทะเล

การเร่งดำเนินโครงการวิจัยนี้ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจึงไม่เพียงช่วยปลดล็อคใบเหลืองจากสหภาพยุโรป แต่ยังได้ฟื้นฟูภาพลักษณ์การทำประมงในท้องทะเลไทยให้เห็นเป็นประจักษ์ชัดถึงแนวทางที่ยั่งยืน มิได้ละเมิดกฎหมายใดอีกต่อไป ท่ามกลางความร่วมมือที่สอดประสานกันจากภาคีเครือข่ายเพื่อการประมงที่ยั่งยืนและการคุ้มครองแรงงานที่มีสมาชิกจากภาครัฐ 6 ราย ภาคเอกชน 5 ราย ภาคประชาสังคม 8 ราย และภาควิชาการและองค์กรระหว่างประเทศและภูมิภาคอีก 8 ราย จนทำให้เรือประมงพาณิชย์และเรือประมงพื้นบ้านนับหมื่นกลับมาทำประมงได้อย่างต่อเนื่องอีกครั้ง

ที่มา:

ศูนย์วิจัยการย้ายถิ่นแห่งเอเชีย สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ศูนย์ยุโรปศึกษาแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
หลักสูตรบริหารกิจการทางทะเล บัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

รายละเอียดที่เกี่ยวข้อง:

อื่นๆ

จุฬาฯ กับภารกิจส่งเสริมการเรียนรู้ด้านการจัดการน้ำอย่างยั่งยืนให้กับชุมชน ปี 2567-2568

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการเรียนรู้ด้านการจัดการน้ำอย่างยั่งยืนแก่ชุมชนท้องถิ่น โดยมหาวิทยาลัยได้จัดให้มีโครงการและกิจกรรมบริการวิชาการเพื่อให้ความรู้แก่ประชาชนในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การจัดหลักสูตรอบรมเชิงปฏิบัติการ การบรรยายให้ความรู้ และกิจกรรมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม ที่เน้นการเรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติจริง เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ การอนุรักษ์แหล่งน้ำ และการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในชุมชนอย่างยั่งยืน

โครงการวิศวกรรมอาสาพัฒนาชนบท (ค่ายวิศวพัฒน์)

คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมด้วยคณาจารย์ผู้ทรงความรู้ ถือเป็นแหล่งบ่มเพาะองค์ความรู้ที่สำคัญทางการชลประทานที่พร้อมถ่ายทอดสู่นิสิตนำไปสู่การฝึกปฏิบัติจริงในการแก้ปัญหาด้านการจัดการน้ำให้กับชุมชนห่างไกล ผ่านค่ายวิศวพัฒน์ ซึ่งเป็นโครงการค่ายวิศวกรรมอาสาพัฒนาชนบทที่พร้อมปลูกฝังความเป็นผู้นำทั้งในด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมให้แก่นิสิตจิตอาสาที่เข้าร่วมค่าย ด้วยปัญหาความแห้งแล้ง ขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตร ของบ้านเชตวัน ตำบลสันทะ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน

โครงการออกกำลังกายอย่างปลอดภัยด้วยเทรนเนอร์ส่วนบุคคลและวิทยาศาสตร์การกีฬา อาสาปันสุข (สุขภาพกาย และสุขภาพใจ)

คนไทยมีพฤติกรรมเสี่ยงโรคไม่ติดต่อและการบาดเจ็บเพิ่มสูงขึ้น โดยสำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขได้สำรวจและเล็งเห็นแนวโน้มมาตั้งแต่ปี 2558 พบความชุกของคนที่มีภาวะน้ำหนักเกิน ถึงร้อยละ 30.5 ภาวะอ้วน ร้อยละ 7.5 ภาวะการสูบบุหรี่ ร้อยละ 21.3 และการดื่มแอลกอฮอล์ ร้อยละ 36.2 ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยแรงงานและกลุ่มผู้สูงอายุที่ขาดการออกกำลังกายและการบริโภคอาหารไม่ถูกหลักโภชนาการ

ร่วมมือกับ NGOs เพื่อขับเคลื่อน SDGs ผ่านกิจกรรมการอาสาสมัครของนิสิต

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีวิสัยทัศน์ในการเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนในหลายๆ ด้าน ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม สังคม และเศรษฐกิจ ความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเป็นเครื่องมือสำคัญในการยกระดับเป้าหมาย SDGs ทั้งหมด จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยร่วมมือกับหลายองค์กร ทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจ และองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร(NGOs) โดยนิสิตมีบทบาทสำคัญในการผลักดันเป้าหมาย SDGs ในด้านต่างๆ โดยเข้าร่วมในโครงการอาสาสมัครต่างๆ

ไอคอน PDPA

เราใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของคุณ (ตั้งค่า)

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

Accept All
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • Necessary cookies
    เปิดใช้งานตลอด

    Necessary cookies are essential for the functioning of the website, allowing you to use and browse the site normally. You cannot disable these cookies in our website's system.

  • คุกกี้วิเคราะห์เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน

    คุกกี้เหล่านี้ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ เช่น จำนวนผู้เข้าชม, หน้าเว็บที่ได้รับความนิยม และพฤติกรรมการท่องเว็บ ซึ่งช่วยให้เจ้าของเว็บไซต์ปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ได้

  • คุกกี้การทำงานเพื่อจดจำการตั้งค่าผู้ใช้

    คุกกี้เหล่านี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ โดยจดจำการตั้งค่าที่ผู้ใช้เคยกำหนดไว้ เช่น ชื่อผู้ใช้, ภาษา, ภูมิภาค หรือการปรับแต่งเว็บไซต์ตามความต้องการ

Save