CU-GOAT MILK
การส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงแพะและผลิตภัณฑ์จากน้ำนมแพะ ในอำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี
ในพื้นที่ในเขตมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรีนั้น ผู้ที่ผ่านไปมาอาจจะเห็นความเปลี่ยนแปลงของภาพข้างทางใหม่ๆ แทนที่จะได้เห็นโคนมในโรงเลี้ยง หรือในไร่ แต่กลับจะเป็นฝูงแพะแทน เนื่องจากเกษตรกรแถบนี้ได้เริ่มเปลี่ยนแนวของอาชีพจากการเลี้ยงโคนมมาทำการเลี้ยงแพะนมมากขึ้น ด้วยเหตุผล คือ ขาดผู้รับช่วง ต้นทุนการเลี้ยงแพะนมต่ำกว่าโคนม ใช้พื้นที่น้อยกว่า และการดูแลที่ไม่ยุ่งยาก
รวมทั้งเมื่อคำนึงถึงตลาดน้ำนมแพะที่ยังมีไม่มาก มีผู้เลี้ยงน้อย ราคาค่อนข้างดึงดูดให้น่าลงทุน นมแพะคุณภาพดี ๆ ราคาอยู่ประมาณ 50-150 บาทต่อกิโลกรัม ในขณะที่น้ำนมโคอยู่ที่ 20 บาทต่อกิโลกรัม นอกจากนี้ ผู้บริโภคเริ่มนิยมบริโภคนมแพะมากขึ้น เพราะนมแพะมีคุณค่าทางอาหารสูง ย่อยง่าย อุดมด้วยโปรตีนและไขมันที่มีประโยชน์และเหมาะสำหรับผู้ที่แพ้นมวัวและผู้สูงอายุ
โครงการนี้จะเป็นการร่วมมือในลักษณะ interdisciplinary คือ ระหว่าง คณะสัตวแพทยศาสตร์และคณะวิทยาศาสตร์ที่จะถ่ายทอดองค์ความรู้ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำของห่วงโซ่คุณค่า (value chain) โดยการให้ความรู้ตั้งแต่การจัดการฟาร์ม สุขภาพสัตว์ และแปรรูปน้ำนมดิบที่มีคุณภาพสู่ผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มมูลค่าที่มีผลกระทบต่อการส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงแพะ การเพิ่มรายได้ต่อครัวเรือน และการได้มาซึ่งผลิตภัณฑ์ต้นแบบที่มีคุณภาพ สู่ท้องตลาดด้วยกลไกของผู้ประกอบการรุ่นใหม่โดยเฉพาะบัณฑิตที่กำลังจะจบหรือจบแล้วจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเป็นลักษณะ triple helix คือ มหาวิทยาลัย เกษตรกร และผู้ประกอบการหน้าใหม่ในลักษณะครบวงจรตามรูปด้านล่างของห่วงโซ่คุณค่า
จากผลการดำเนินการในระยะที่ 1 ได้มีการพัฒนากลุ่มเกษตรกรโดย การรวมกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงแพะอำเภอมวกเหล็ก จ.สระบุรี ที่เริ่มมีการผลิตนมแพะ พร้อมดื่มจำหน่ายไปบ้างแล้ว นอกจากนี้ได้มีการจดอนุสิทธิบัตรงานวิจัยนมแพะพาสเจอรไรซ์ผสมเนื้อผลไม้ 4 รส ได้แก่ รสธรรมชาติ รสกล้วย รสมะพร้าวและ รสแคนตาลูป และมีรายได้จากขายอนุสิทธิบัตร ให้แก่ผู้ประกอบการรายใหม่ (startup) ในการจัดจำหน่ายนมแพะเกิดขึ้นด้วย มีความร่วมมือระหว่างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและจังหวัดสระบุรีในการพัฒนาผลิตภัณฑ์นมแพะและถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่เกษตรกรในงานนิทรรศการที่เกี่ยวข้อง เช่น กิจกรรมวันแพะแห่งชาติ ในระยะต่อมาโครงการได้พัฒนาการแปรรูปนมแพะเป็นอาหาร ได้แก่ เนยแข็ง และลูกอมรสนมแพะ และการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ได้แก่ สบู่ก้อน สบู่เหลว และ ครีมทาผิว ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงและมีช่องทางการจำหน่ายที่หลากหลาย ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันให้เกิดการเลี้ยงแพะนมที่มีมาตรฐานและคุณภาพมากขึ้นและมีความมั่นคงในอาชีพการเลี้ยงแพะ
ทางโครงการมีเป้าหมายให้เกษตรกรผู้เลี้ยงแพะนมมีผลิตภัณฑ์ที่เป็นของตนเอง ผ่านทางการวิจัยโดยชูธงวัตถุดิบที่เป็นนมแพะออร์แกนิกและผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาเกิดจากการวิจัยของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อเพิ่มรายได้ในชุมชนและสร้างอาชีพที่เป็นอาชีพที่มั่นคง แปรรูปน้ำนมดิบแพะให้เป็นผลิตภัณฑ์ต้นแบบต่าง ๆ ที่พร้อมถ่ายทอดให้เกษตรกรผู้เลี้ยงแพะและผู้สนใจในเขตจังหวัดสระบุรีและจังหวัดใกล้เคียงเป็นผู้รับการถ่ายทอดและสร้างผู้ประกอบการรายใหม่สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจในการสร้างอาชีพ และประชาชนในชุมชนสามารถเข้าถึงนวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์จากน้ำนมแพะ การสร้างผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ในการสร้างรายได้แก่เกษตรกรและสามารถนำไปต่อยอดได้ต่อไป
นางสาวสาวิตรี ดวงอานนท์ ผู้ประกอบการ มานพฟาร์มแพะ ที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี เล่าว่าที่ฟาร์มของเธอตอนนี้ทำนมแพะพาสเจอไรซ์ แพะสเตอรีไรซ์ซึ่งเป็นรสธรรมชาติ นมแพะ 100% ทั้งหมด แต่ตอนนี้เธอได้เรียนรู้ในเรื่องการออกแบบผลิตภัณฑ์ packaging รสชาติของนม การแปรรูปผลิตภัณฑ์ ทำอย่างไรให้สินค้ามีความน่าสนใจ น่าซื้อ นอกเหนือจากนมแพะ มีสินค้าใหม่ๆ เช่น ขนม อาหาร และเครื่องสำอางค์ จากการเข้าอบรมในโครงการนี้ “กลุ่มตลาดเป้าหมาย นมสเตอรีไรซ์สำหรับสัตว์เลี้ยง ส่วนนมพาสเจอไรซ์สำหรับกลุ่มคนที่รักสุขภาพ ผู้สูงอายุ” เธอกล่าว
สำหรับ “นมพาสเจอไรซ์ พี่ส่งออกตามบูธ มีสั่งpre-order และมีลูกค้าประจำที่อยู่ในละเวกบ้าน ตามชุมชน เช่น ชาวบ้าน ส่วนนมสเตอรีไรซ์ ส่งตามคลีนิก โรงพยาบาลบางแห่ง ร้านค้าสัตว์เลี้ยงสุนัข แมวรายได้จากการขายนมแพะ ขึ้นอยู่กับปริมาณของนม และตัวแพะ อย่างของพี่เป็นโรงงานขนาดใหญ่ รายได้ต่อเดือนก็จะค่อนข้างสูง “เมื่อมีจำนวนแพะมาก ปริมาณนมแพะก็มากขึ้นด้วย” เธอกล่าว “เราไม่ได้ขายผลิตภัณฑ์อย่างเดียว เราขายส่งนมดิบขายให้กับโรงงานที่เหลือจากการผลิตภัณฑ์นมพาสเจอไรซ์ แพะสเตอรีไรซ์”
สิ่งที่สาวิตรีอยากเห็น คือการอบรมการทำเมนูใหม่ๆ หรือผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้มาสอนแก่ผู้ประกอบการ และเกษตกรที่สนใจ และส่งเสริมเรื่องการตลาดให้มากกว่านี้
ด้านผู้ผลิต นางสาวอารญา สุขหอม จากบมจ.โกลเด้นแซค เทรดดิ้งกล่าวว่าเหตุผลที่เลือกนมแพะมาทำตลาดเพราะมีคุณประโยชน์ และสามารถต่อยอดในตลาดได้ “เราได้ศึกษาว่าเกษตรกรในช่วงนั้น ประสบปัญหานมล้นตลาด เรามี know how ทางด้านการตลาด และด้านmarketing และเราจะช่วยเกษตรกรได้อย่างไร จึงเกิดปรับปรุงผลิตภัณฑ์นี้ขึ้นมา”
กลุ่มตลาดที่ส่งออกนมแพะ จะขายออกตามอีเว้นท์ และดีลิเวอร์รีในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งรายได้ กำไรหลังหักค่าใช้จ่าย ต้นทุนสินค้า เช่าบูท ค่าแรง และอื่นๆ ได้กำไร 20-30% เป้าหมายในอนาคต “อยากให้มีตรา มาตรฐาน พวกฮาลาลเพื่อที่จะสามารถส่งออก และพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เก็บได้นาน” ส่งขายได้ทั่วประเทศ เช่น กลุ่มโรงเรียน และกลุ่มมุสลิม อาจจะเป็นปีหน้า
ปีนี้มีแพลนจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ เอานมแพะแปรรูปเป็นนมอัดเม็ด เอาไปทดลองในตลาดแล้ว แต่พอเกิดสถานการณ์โควิค แพลนจึงเลื่อนไปปีหน้า ตอนแรก มีการพัฒนานมอัดเม็ดจะมีรสชาติไหนบ้าง ทดลองชิมเรียบร้อยออกมาเป็นรูปธรรมแล้ว เหลือรอขั้นตอนผลิตเรื่องนมแพะผลไม้
เมื่อโครงการมีนวัตกรรม ที่ทำให้นมแพะไม่มีกลิ่น เป็นรสชาติผลไม้ 100% โดยไม่มีการแต่งสี แต่งรสใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งมีทั้งรสกล้วย รสมะพร้าว และ ยังมีแพลนที่จะพัฒนาต่อ คือ นมรสเมล่อน “ซึ่งนี่เป็นการเพิ่มทางเลือกให้กลุ่มเป้าหมายลูกค้า ขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น” เธอกล่าวอย่างพึงพอใจ
จากการเข้าร่วมอบรม เธอเห็นว่าโครงการนี้ได้ให้ความรู้ค่อนข้างครบถ้วน ทั้งในมุมผลิตภัณฑ์ สิ่งที่อยากเพิ่มเติม “อยากได้ความรู้ในเรื่องของ know how ว่าถ้าวันหนึ่งผู้ประกอบการที่เป็นคนตรงกลางอย่างดิฉันอยากเป็นเกษตรกรฟาร์ม จะต้องเริ่มต้นจากอะไร” เธอกล่าว
ที่มา:
คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
รายละเอียดที่เกี่ยวข้อง:
อื่นๆ
โครงการปทุมวัน Zero Waste: เครือข่ายการจัดการขยะในกรุงเทพมหานคร ช่วยลดขยะเศษอาหารมากกว่า 2,000 ตัน
ความร่วมมือจากโครงการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเขตปทุม มีเป้าหมายในการลดปริมาณขยะที่เข้าสู่กระบวนการฝังกลบที่มีมากถึง 207 ตัน/วัน เป็นการนำองค์ความรู้และประสบการณ์จากการจัดการขยะภายในถ่ายทอดสู่ภาคี เครือข่ายภาครัฐ และเอกชน ทำให้ใน 7 เดือนที่ผ่านมาประสิทธิภาพในการลดและแยกขยะภายในเขตเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะขยะเศษอาหารที่แยกออกมาได้มีจำนวน 2,148 ตันและถูกจัดการอย่างเหมาะสม ซึ่งถ้าหากขยะเศษอาหารเหล่านี้ปะปนกับขยะอื่น จะสามารถก่อให้เกิดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึงประมาณ 5,456 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
การดำเนินงานด้านการถ่ายทอดองค์ความรู้สู่พื้นที่ชุมชนและสังคมภายนอกของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยให้ความสำคัญกับการขยายผลองค์ความรู้จากมหาวิทยาลัยสู่พื้นที่ชุมชนและสังคมภายนอกมหาวิทยาลัย ผ่านโครงการหรือกิจกรรมหรือหลักสูตรการถ่ายทอดความรู้เชิงรุก ทั้งแบบ ad-hoc and programmed เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนและสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างยั่งยืน
ศิลปะบำบัด ปลดปล่อยความวิตกกังวลจากเหตุการณ์วิกฤต
หลายคนที่เคยประสบกับเหตุการณ์วิกฤตไม่ได้ตระหนักถึงความจำเป็นในการเข้าบำบัดรักษาสุขภาพจิต เนื่องจากค่านิยมในสังคมเป็นสาเหตุที่สำคัญทำให้ผู้คนที่ได้รับความบาดเจ็บทางอารมณ์จากเหตุการณ์รุนแรงไม่เข้ารับการบำบัด ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศมีความเชื่อว่าการเข้ารับการบำบัดหมายถึงการเป็นคนบ้าหรือมีสภาพจิตใจที่อ่อนแอ การปรับทัศนคติในเรื่องนี้กับผู้คนในสังคมมีความจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อให้การบำบัดสุขภาพจิตสามารถเข้าถึงได้ง่ายและเป็นที่ยอมรับ
รูปแบบที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุไทยเพื่อส่งเสริมสุขภาพกาย สุขภาพใจ ภายใต้แนวคิดชุมชนที่เป็นมิตรกับผู้สูงอายุ
ปัจจุบันประเทศไทยได้กลายเป็นสังคมสูงวัย ตั้งแต่ พ.ศ. 2548 โดยปัญหาสุขภาพทั้งทางกาย และจิตใจ ยังคงเป็นปัจจัยที่สำคัญหนึ่งของผู้สูงอายุ ในด้านที่อยู่อาศัยพบว่า ผู้สูงอายุในประเทศไทยส่วนใหญ่ถึงร้อยละ 92.44 ต้องการที่จะอยู่อาศัยในที่อยู่อาศัยเดิม และต้องการปรับปรุงที่อยู่อาศัย และสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับผู้สูงอายุ ตามแนวคิด การสูงวัยในถิ่นเดิม (Aging in place) ปัจจัยสำคัญคือ ที่อยู่อาศัยต้องถูกออกแบบให้เป็นที่อยู่อาศัยที่สามารถเข้าถึงได้ ซึ่งจำเป็นต้องมีความเกี่ยวโยงกับชุมชนที่ต้องดำเนินการปรับสภาพแวดล้อมของชุมชนให้เอื้อต่อการใช้ชีวิตของผู้สูงอายุเช่นเดียวกัน