กรณีศึกษา

อนุรักษ์ปลากระเบนเจ้าพระยา อนุรักษ์ลุ่มน้ำแม่กลอง

ปลากระเบนเจ้าพระยา (Himantura chaophraya) เป็นสัตว์น้ำจืดที่มีถิ่นอาศัยในแถบลุ่มน้ำแม่กลองที่ไหลผ่าน 9 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดตาก อุทัยธานี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม ราชบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร และเพชรบุรี โดยเฉพาะในแหล่งน้ำสะอาดจะสามารถพบเห็นปลากระเบนเจ้าพระยาได้บ่อยครั้ง ซึ่งกลุ่มนักวิชาการต่างยกให้ปลากระเบนน้ำจืดสายพันธุ์นี้เป็นสิ่งมีชีวิตบ่งชี้ (Indicator Species) ความไม่สมดุลของระบบนิเวศน้ำจืดด้วยคุณสมบัติของปลาชนิดนี้ที่มีความไวต่อสารพิษและสภาพการเปลี่ยนแปลงของถิ่นที่อยู่อาศัย ซึ่งสารพิษตัวร้ายที่เป็นศัตรูกับกระเบนเจ้าพระยาไม่ว่าจะเป็นแอมโมเนีย (Ammonia, NH3) และไนไตรท์ (Nitrite, NO2-) ที่ปนเปื้อนอยู่ในแหล่งน้ำล้วนเป็นเหตุให้ปลากระเบนเจ้าพระยาอยู่ในสถานะใกล้สูญพันธุ์ (Endangered species) ตามประกาศของ The IUCN Red list of threatened Species (International Union for The Conservation of Nature, IUCN) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 เป็นต้นมา

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยคณะสัตวแพทยศาสตร์ ซึ่งมีพันธกิจหนึ่งที่มุ่งพัฒนา บุกเบิก ค้นคว้า ทางการวิจัย ตลอดจนประยุกต์วิชาความรู้ที่ได้รับเพื่อการบริการแก่สังคม จึงได้ริเริ่มศึกษาวิจัยปลากระเบนสายพันธุ์นี้ในแง่ของสภาพชีวิตความเป็นอยู่ ชีววิทยา และนิเวศวิทยา มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 โดยลงพื้นที่เก็บข้อมูลอย่างต่อเนื่องเรื่อยมาจนเกิดความรู้ความเข้าใจจนได้นำองค์ความรู้มาใช้จริงในเหตุการณ์ช่วงปี พ.ศ. 2559 พบปลากระเบนในลุ่มน้ำแม่กลองบริเวณจังหวัดสมุทรสงครามตายพร้อมกันมากถึง 45 ตัว ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน สร้างความวิตกกังวลให้กับชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีบัญชาสั่งการให้เร่งคลี่คลายหาข้อเท็จจริงในประเด็นดังกล่าว จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมอบหมายให้ รศ.สพญ.ดร.นันทริกา ชันซื่อ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ นำคณะลงพื้นที่เร่งศึกษาเชิงลึกในมิติสิ่งแวดล้อมจนต่อมาสามารถระบุต้นเหตุที่ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมนี้เกิดจากการได้รับสารเคมีออกฤทธิ์เฉียบพลันที่เป็นพิษต่อระบบไตและเหงือกของกระเบน ซึ่งสารเหล่านี้ไม่ใช่สารออกฤทธิ์สะสมจึงทำให้ปลากระเบนสูญเสียการควบคุมความสมดุลในร่างกายและตายอย่างรวดเร็ว นับเป็นผลงานเชิงประจักษ์ที่สร้างแรงบันดาลใจให้คณะนักวิจัยมีขวัญและกำลังใจพัฒนางานสานต่อจนเกิดเป็นความร่วมมือกับอีกหลายภาคส่วนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน

ความร่วมมือหนึ่งที่แน่นแฟ้นก่อเกิดประโยชน์ในเชิงอนุรักษ์ลุ่มน้ำแม่กลองและปลากระเบนเจ้าพระยาเกิดขึ้นเมื่อจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยคณะสัตวแพทยศาสตร์ ได้ทำงานร่วมกันกับ National Geographic Society และกรมประมง จังหวัดสมุทรสงคราม นำทักษะ องค์ความรู้ และประสบการณ์ ร่วมศึกษาวิจัยปลากระเบนน้ำจืดเชิงลึก พร้อมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระดับชาติและวางมาตรการอนุรักษ์ปลากระเบนเจ้าพระยาในระยะยาว ครอบคลุมถึง 3 มิติ ได้แก่

1) ด้านสัตว์  ศึกษาวิจัยเกี่ยวกับนิเวศวิทยาและประชากรเพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจในกระเบนเจ้าพระยา ทั้งถิ่นที่อยู่อาศัย รูปแบบของพฤติกรรม และปัจจัยทางสภาพแวดล้อมที่มีผลต่อการเลือกพื้นที่อาศัยและผสมพันธุ์ ด้วยวิธีศึกษาการเคลื่อนที่ของปลากระเบนเจ้าพระยา (Himantura chaophraya) ในลุ่มน้ำแม่กลองโดยใช้เครื่องหมายติดตาม (Tracking of Giant Freshwater Stingray (Himantura chaophraya) in Maeklong River) ปลากระเบน กว่า 200 ตัว ตลอดจนช่วยเหลือและอนุบาลปลากระเบนป่วยหรือได้รับบาดเจ็บจากการประมง พร้อมจัดทำฐานข้อมูลเพื่อสนับสนุนการลดภัยคุกคามต่อปลากระเบน และผลักดันแนวนโยบายด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์นำไปสู่การออกกฎกระทรวง กำหนดให้สัตว์ป่าบางชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2561 โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีรายชื่อของปลากระเบนเจ้าพระยารวมอยู่ด้วย

2) ด้านสิ่งแวดล้อม เก็บตัวอย่างและบันทึกคุณภาพดินและน้ำจากแหล่งที่พบปลากระเบนเจ้าพระยามาตรวจสอบคุณภาพทางกายภาพ ชีวภาพ และเคมี เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลการเปลี่ยนแปลงทางสภาพแวดล้อมของลุ่มน้ำแม่กลอง และจัดทำมาตรการที่จำเป็นต่อการคุ้มครองและอนุรักษ์ถิ่นที่อยู่อาศัย พร้อมกำหนดแนวทางปฏิบัติเพื่อลดผลกระทบของภัยคุกคามต่อถิ่นที่อยู่อาศัยและประชากรของปลากระเบน รวมถึงมาตรการปรับเปลี่ยนวิธีการทำประมงของชุมชนที่อาจก่อให้เกิดการตายของปลากระเบนได้

3) ด้านสังคม กำหนดแผนรณรงค์ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมชาวบ้าน โดยสร้างเสริมความตระหนักรู้เกี่ยวกับประโยชน์ของปลากระเบน ตลอดจนภัยคุกคามต่อปลากระเบนและถิ่นที่อยู่อาศัยให้กับชุมชนและผู้ที่สนใจด้วยโปรแกรมเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารและเพิ่มโอกาสให้ภาคประชาชนได้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมอนุรักษ์ ผ่านนิทรรศการอนุรักษ์กระเบนลุ่มน้ำแม่กลองร่วมกับจังหวัดสมุทรสงคราม และเทศบาลอำเภออัมพวา ในบรรยากาศถ้อยทีถ้อยอาศัยจากการร่วมเฝ้าระวังของชุมชนเพื่อนำส่งข้อมูลข่าวสารให้กับมหาวิทยาลัยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อวิจัยและพัฒนาแนวทางแก้ไขปัญหาต่อไป

จากการวางมาตรการส่งเสริมการอนุรักษ์ปลากระเบนเจ้าพระยาที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยผนึกกำลังกับทั้งชุมชนและหน่วยงานระดับชาติที่เกี่ยวข้องได้ยังประโยชน์มาสู่การอนุรักษ์ลุ่มน้ำแม่กลองที่ไม่เพียงแต่ช่วยให้ปลากระเบนสายพันธุ์นี้ยังสามารถอาศัยอยู่ในแหล่งน้ำพื้นถิ่นแถบนี้ได้ แต่ยังเป็นกุศโลบายให้ชาวแม่กลองเกิดจิตสำนึกทั้งรักและหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติในบ้านเกิดของตนเพื่อส่งต่อให้กับคนในรุ่นต่อไป  

ที่มา:

คณะสัตวแพทยศาสตร์  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

รายละเอียดที่เกี่ยวข้อง:

อื่นๆ

โครงการออกกำลังกายอย่างปลอดภัยด้วยเทรนเนอร์ส่วนบุคคลและวิทยาศาสตร์การกีฬา อาสาปันสุข (สุขภาพกาย และสุขภาพใจ)

คนไทยมีพฤติกรรมเสี่ยงโรคไม่ติดต่อและการบาดเจ็บเพิ่มสูงขึ้น โดยสำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขได้สำรวจและเล็งเห็นแนวโน้มมาตั้งแต่ปี 2558 พบความชุกของคนที่มีภาวะน้ำหนักเกิน ถึงร้อยละ 30.5 ภาวะอ้วน ร้อยละ 7.5 ภาวะการสูบบุหรี่ ร้อยละ 21.3 และการดื่มแอลกอฮอล์ ร้อยละ 36.2 ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยแรงงานและกลุ่มผู้สูงอายุที่ขาดการออกกำลังกายและการบริโภคอาหารไม่ถูกหลักโภชนาการ

เรียนรู้โลกกว้างผ่านแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิต พิพิธภัณฑ์และหอศิลป์จุฬาฯ เปิดชมฟรีตลอดปี

จุฬาฯ เปิดพื้นที่ให้เป็นแหล่งเรียนรู้เชิงวิชาการและการอนุรักษ์ผ่านการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์และหอศิลป์ซึ่งมีทั้งส่วนที่อยู่ภายในกำกับของส่วนกลางมหาวิทยาลัยและอยู่ในส่วนความรับผิดชอบของหลายคณะ รวมมากถึง 23 แห่ง

ธนาคารปูม้า เกาะสีชัง ต้นแบบศูนย์เรียนรู้เพิ่มทางรอดปูม้าไทยคืนสู่ท้องทะเล

เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2563 มีชาวประมงที่จับปูม้าที่ท้องนอกกระดองมาให้ ศูนย์เรียนรู้ธนาคารปูม้าบนบก อำเภอเกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี เป็นจำนวน 457 ตัว เพื่อเพาะเป็นลูกปูม้า ศูนย์สามารถดูแลปูไข่จนลูกปูม้าถึง 565,219,724 ตัว และแม้ลูกปูม้าจะมีเปอร์เซนต์รอดชีวิตที่ 40-60% ศูนย์ก็ยังสามารถเอาลูกปูม้าไปปล่อยในทะเลได้มากเกินกว่า

จาก “ละอ่อนสา-รักษ์ป่า-น่าน” ถึง “ละอ่อนน่านเรียน-รู้-รักษ์ป่า” ใช้ Google Earth Pro เพื่ออนุรักษ์ป่าชุมชน

ด้วยเหตุความเสื่อมโทรมของป่าน่าน ทำให้เกิดโอกาสแห่งร่วมมือระหว่างศูนย์เครือข่ายการเรียนรู้เพื่อภูมิภาค (CLNR) จุฬาฯ และสถาบันวิจัยปรับปรุงพันธุกรรมสัตวบาล ร่วมกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนในจังหวัดน่าน เพื่อวางแนวทางการปลูกป่าและสร้างความสมดุลในระบบนิเวศของป่าชุมชน “ไหล่น่าน”

ไอคอน PDPA

เราใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของคุณ (ตั้งค่า)

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

Accept All
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • Necessary cookies
    เปิดใช้งานตลอด

    Necessary cookies are essential for the functioning of the website, allowing you to use and browse the site normally. You cannot disable these cookies in our website's system.

  • คุกกี้วิเคราะห์เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน

    คุกกี้เหล่านี้ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ เช่น จำนวนผู้เข้าชม, หน้าเว็บที่ได้รับความนิยม และพฤติกรรมการท่องเว็บ ซึ่งช่วยให้เจ้าของเว็บไซต์ปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ได้

  • คุกกี้การทำงานเพื่อจดจำการตั้งค่าผู้ใช้

    คุกกี้เหล่านี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ โดยจดจำการตั้งค่าที่ผู้ใช้เคยกำหนดไว้ เช่น ชื่อผู้ใช้, ภาษา, ภูมิภาค หรือการปรับแต่งเว็บไซต์ตามความต้องการ

Save